วิกตอเรีย เคียร์ เธลวิก (Victoria Kjær Theilvig) มิสยูนิเวิร์ส 2024 สัมภาษณ์สื่อมวลชนไทยเป็นครั้งแรก เผยความประทับใจทุกอย่างที่เป็นไทย โดยเฉพาะผัดไทยและต้มยำกุ้ง
เปิดใจให้สัมภาาณ์กับสื่อมวลชนไทยเป็นครั้งแรก หลังเดินทางมาประเทศไทยเพื่อปฏิบัติภารกิจในฐานะ มิสยูนิเวิร์ส 2024 สำหรับ "วิกตอเรีย เคียร์ เธลวิก" (Victoria Kjær Theilvig) สาวงามจากประเทศเดนมาร์ก ที่หอศิลป์ ณ บ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์
"ฉันเคยมาเมืองไทย 4 ครั้งแล้ว ไปที่ภูเก็ต 3 ครั้งและกรุงเทพฯครั้งนี้ครั้งที่ 2 รู้ประทับใจคนไทย ประทับใจวัฒนธรรมไทย ประทับใจอาหารไทย อย่างต้มยำกุ้ง และผัดไทยที่ฉันชอบเป็นพิเศษ" วิกตอเรียเล่าประสบการณ์การมาเมืองไทยก่อนหน้าที่เธอยังไม่ได้รับตำแหน่งมิสยูนิเวิร์ส 2024
"ครั้งนี้ฉันมาเพื่อภารกิจมิสยูนิเวิร์ส ก็มีหลายภารกิจแต่ไม่สามารถลงรายละเอียดได้ทั้งหมด ฉันได้ไปพบนายกรัฐมนตรีการท่องเที่ยวและกีฬาแล้ว เกี่ยวกับภารกิจมิสยูนิเวิร์ส และยังมีอีกหลายภารกิจที่มาในทริปนี้ แต่ขออุบไว้ก่อนค่ะยังไม่สามารถเปิดเผยได้"
วิกตอเรีย บอกเล่าถึงชีวิตที่เปลี่ยนไปตั้งแต่ได้มงกุฎมิสยูนิเวิร์ส 2024 และสิ่งที่เธออยากทำอยากจะผลักดันหลังจากนี้ไป
"ชีวิตเปลี่ยนไปเยอะมาก แต่ตัวตนของฉันเองก็ยังอยู่เหมือนเดิม ความตั้งใจอะไรที่เคยตั้งใจไว้ก็คงยังอยู่เหมือนเดิม สิ่งหนึ่งที่อาจจะเปลี่ยนไปก็คือภารกิจในปริมาณที่มากขึ้น แต่สุดท้ายตัวตนและอุดมการณ์ที่แท้จริงของฉันยังอยู่เหมือนเดิม"
"ฉันมีความมุ่งมั่นกับการปกป้อง การสร้างการรับรู้เกี่ยวกับสิทธิสัตว์ ตั้งแต่ฉันยังเป็นเด็กฉันก็ทำงานอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัยกับสัตว์ ฉันได้บริจาคเวลาและพลังงานมาโดยตลอด การที่ฉันมาอยู่ในตำแหน่งมิสยูนิเวิร์ส 1 ปี และหลังจากนี้ฉันมีความตั้งใจและจะพยายามให้คนตระหนักถึงสิทธิของสัตว์ ฉันอยากจะเป็นกระบอกเสียงแทนผู้ที่ไม่มีเสียง ที่ผ่านมามีบ้างก็ต้องยอมรับความเป็นจริงว่ายังไม่ดังพอ ฉันอยากจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เสียงนี้ดังขึ้นค่ะ"
"ฉันเองก็เป็นหนึ่งในคนรุ่นใหม่ เพราะฉันอายุเพียง 21 ปี ถ้าจะส่งคำแนะนำจริงๆ ก็คงจะเป็นเรื่องของความพยายาม ความตั้งใจ และความไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก ทุกสิ่งที่ฉันทำมา ถ้าขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่พูดไปก็คงจะไม่สามารถก้าวมาสู่ตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สในวันนี้ได้
จริงๆ แล้วฉันไม่ได้มีความยากลำบาก อุปสรรคที่เข้ามาหรือปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นความท้าทายมากกว่าจะเป็นอุปสรรค ฉันมองว่ามันเป็นโอกาสมากกว่าและฉันก็พยายามก้าวสิ่งนั้นไปค่ะ"
เจอน้องควายครั้งแรก?
"ฉันยังไม่เคยได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด แต่ก็มีความเคารพในวัฒนธรรมและบทบาทของควายไทยและวัฒนธรรมไทย ไม่ได้มีอะไรที่อยากจะทำแล้วไม่ได้ทำ หรือมีความตั้งใจที่อยากจะทำ รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เข้าไปเจอท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แต่ส่วนอื่นก็ยังไม่ได้มีอะไรในใจ ทุกๆ วันจะเป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับฉันในการเดินทางมาครั้งนี้ จากนี้ฉันเหลือเวลาที่จะอยู่เมืองไทยอีก 12 วัน จากนั้นฉันก็จะเดินทางไปจาการ์ต้า อินโดนีเซีย และจะไปเคาท์ดาวน์ที่ไทม์สแควร์ในนิวยอร์กค่ะ"
มิสยูนิเวิร์สคนแรกของประเทศเดนมาร์ก
"ชาวเดนมาร์กภูมิใจมาก เพราะฉันเป็นคนแรกที่นำมงกุฎมิสยูนิเวิร์สกลับไปที่เดนมาร์ก ฉันได้รับเสียงตอบรับที่ล้นหลาม ฉันรอที่จะกลับไปฉลองพร้อมกับพวกเขา แต่กำหนดการก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าจะเมื่อไหร่"
ถึงแฟนนางงามไทย และกลุ่ม LGBT
"ฉันรักทุกคน ฉันอยากจะบอกพวกเขาว่าขอบคุณค่ะ ฉันรักเมืองไทย รักคนไทย อาหารและทุกๆ อย่าง ฉันรู้สึกปลาบปลื้มที่แฟนๆ คนไทยมอบความรักให้กับฉันตั้งแต่ที่ฉันได้ครองมงกุฎมา เวลาไปไหนก็จะได้รับเสียงตอบรับและกำลังใจ แรงเชียร์ที่ล้นหลามมากๆ มาเมืองไทยแต่ละครั้งฉันประทับใจในสถานที่ วัฒนธรรม อาหารและผู้คนอยู่แล้ว แต่มาครั้งนี้ก็เพิ่มเติมมากขึ้นเพราะได้รับกำลังใจจากแฟนนางงามมิสยูนิเวิร์สในฐานะที่ฉันได้รับตำแหน่ง"
"ขอบคุณอย่างซาบซึ้งจากก้นบึ้งของหัวใจ ทุกข้อความ ของขวัญทุกชิ้นที่ส่งมาให้ฉัน ล้วนเป็นกำลังใจให้กับฉันมากๆ ฉันประทับใจแฟนนางงามชาวไทยสุดๆ จากเสียงตอบรับที่ได้รับในการมาครั้งนี้ สวัสดีค่ะ ขอบคุณค่ะ สวยมาก (พูดภาษาไทย) ฉันพูดได้บางคำ แต่ฉันจะใช้ช่วงเวลาและโอกาสที่อยู่ที่เมืองไทย และช่วงเวลาที่ดำรงตำแหน่ง เพื่อเรียนรู้ คำพูด อากัปกิริยาของคนไทยให้มากขึ้น มันเป็นโอกาสที่ฉันจะได้เรียนรู้ค่ะ"
"กลุ่ม LGBT เป็นกลุ่มที่ฉันชื่นชอบและชื่นชมในความเข้มแข็ง ในประเทศของฉันมีกฎหมายบางฉบับที่กีดกันในการสร้างความโดดเด่น เป็นตัวเองแบบนี้ ฉันยกย่องกลุ่ม LGBT มากๆ สำหรับความกล้าและความโดดเด่นที่จะยืนหยัด เข้มแข็ง แสดงความเป็นตัวของตัวเองอย่างชัดเจน ที่ทำให้สังคมโดยรวมยอมรับได้"
ก่อนจะทักทายแฟนๆ กลุ่ม LGBT ด้วยการพูดว่า "สวัสดีค่ะพี่ๆ กะเทย" เป็นภาษาไทย เรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะส่งท้ายการเปิดใจสัมภาษณ์ครั้งแรกกับสื่อไทยอย่างอบอุ่น
Advertisement