ซินแสเข่ง ผ่าดวงวิกฤต ทักษิณ เตือนอย่าลำพอง ชี้เดือน มิ.ย.- ก.ค. วิบากกรรม ความหายนะรออยู่ ปี 69-70 ตกชะตากรร แตกแยก พลัดพราก และตายจาก
วันที่ 13 มิ.ย. 67 อ.ชนม์ทรรศน์ ฤทัยผรอง หรือ ซินแสเข่ง ผอ.สถาบันพยากรณ์ แห่งประเทศไทย ผ่าดวงวิกฤต มรสุม ชะตาชีวิตของนาย ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า เดือน มิ.ย. และเดือน ก.ค. เป็นเดือนแห่งความหายนะ หรือเดือนปะทะ ที่มีผลต่อการเดินของดวงดาวทับดวงชะตา ที่จะก่อให้เกิดปัญหาคดีความ ให้ร้าย ยุแหย่ สร้างความแตกแยก ไม่สมหวัง วุ่นวาย ขัดแย้ง สร้างความเป็นศัตรู จากพฤติกรรม และการกระทำของนายทักษิณที่ไม่สำนึก โดยอ้างตนเองว่า ถูกกลั่นแกล้งยัดข้อหา ทำให้ต้องหนี 17 ปี และสุดท้ายคิดว่ารอด เพราะยังมีคดีมาตรา 112 ที่ จะต้องนำตัวนายทักษิณส่งฟ้องศาล ที่อัยการสูงสุดสั่งฟ้องไปแล้ว
ซินแสเข่ง กล่าวต่อว่า ต่อไปนี้ถือว่าเป็นการพิสูจน์กฏหมายไทย และบารมีนายทักษิณว่าใครจะเหนือกว่ากัน กฏหมายไทยจะมีความศักดิ์สิทธิ์หรือไม่ เป็นการวัดดวงว่านายทักษิณจะรอดหรือไม่รอดว่าจะอยู่หรือจะไป แต่ถ้านายทักษิณ สามารถล้มเหล่าบรรดาดีลลับได้ เชื่อว่านายทักษิณ ต้องกลับมาผงาดอีกครั้งแน่ และเมื่อนั้นความวิบัติ ก็จะเกิดขึ้นแก่เมืองไทยทันที เมื่อนายทักษิณเปิดตัว และเมื่อนั้นนายทักษิณ จะมีชีวิตที่มีอำนาจเหนือดวงทันที
ซินแสเข่ง กล่าวอีกว่า ส่วนของรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวึสิน นายกรัฐมนตรี ถึงแม้นจะยื้อเวลาแบบสุดๆ แต่มรสุมร้ายของนายเศรษฐา ยังรออยู่ในปี 2568 เป็นปึแห่งปัญหามรสุม ทั้งขัดแย้ง แตกแยก เป็นศัตรู เบียดเบียนให้เดือดร้อนในดวงชะตาของนายเศรษฐา ปีแห่งคดีความที่เชื่อว่าไม่รอดอย่างแน่นอน เพราะปีนี้เป็นปีแห่งคดีความเดือนเสริมดวงเมืองให้มีความแกร่งมากขึ้น จากเหตุที่ทนายเอาถุงขนม ที่มีเงินสด 2 ล้านเข้าไปในศาล เพื่อติดสินบน และนายกฯกลับแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรี สำนักนายกฯ หากผิดจริง แน่นอนที่สุดที่จะต้องจบชีวิตจากตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี และ ป.ป.ช. ก็จะสั่งให้ยุติบทบาทการปฏิบัติหน้าที่ๆ ทำให้เป็นอุปสรรค งานนี้ไม่รอดอย่างแน่นอน
ด้วยเหตุนี้ในกิจกรรมของกลุ่มพรรคเพื่อไทย ตลอดจนถึงการบริหารงานของรัฐบาล จึงเป็นช่วงจังหวะ หัวเลี้ยวหัวต่อ ที่เจอมรสุม ให้เกิดขึ้น อีกทั้งนายทุน ผู้นำ ตัวจริง ของพรรคเพื่อไทย นายทักษิณ ก็ชะตาตกไปไม่รอด แต่ความอาฆาต ความพยาบาท คงไม่ยอมแพ้ และหวังที่จะต่อสู้ เพื่อหวังเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ชาติไทย เพื่อให้ตนเองได้ชัยชนะกลับมา เพื่อให้ได้มีอำนาจมีโอกาสดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 ในปี 68 หรืออาจพลิกประวัติศาสตร์ชาติไทย ให้มีการปกครองในระบบ ประธานาธิบดี
แต่จะสู้แรงต้านของประชาชนที่รู้ความตื้นลึกหนาบาง พฤติกรรม และการกระทำของนายทักษิณ และถือว่ายังคงไม่พ้นวิบากกรรม ถึงแม้ว่าปี 2568 จะเป็นปีเสริมดวงของนายทักษิณ แต่ดวงเมืองส่อปะทะดวงปี 2568 ความแตกแยก ความหายนะ ความขัดแย้ง ความรุนแรง ไฟแห่งความหายะนะจะลุกโชติช่วงอีกครั้งหนึ่ง เพราะการกระทำของนายทักษิณ และเตือนหนักที่สุดในรอบ 70 ปี ของปี 2569 และ 2570 ที่นายทักษิณ ตกชะตากรรม แตกแยก พลัดพราก และตายจากตกดวงชะตา สูญสลายท้ายสุดของชีวิต
Advertisement