วันที่ 17 ม.ค. 68 นาย สรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงเรื่องมาตรการสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวว่า ทางกระทรวงฯ ได้เน้นไปที่ตลาดคนจีน ซึ่งสำนักงาน ททท.ในประเทศจีน กำลังทำการบ้านอย่างหนัก หลังเกิดการยกเลิกเที่ยวบินมาเที่ยวประเทศไทย
ข้อเท็จจริงคือ ตัวเลขดังกล่าวที่ถูกยกเลิกไปเป็นนักท่องเที่ยวที่ไม่เคยมาท่องเที่ยวประเทศไทยมาก่อน และเป็นนักท่องเที่ยวจากเมืองรองของประเทศจีน ส่วนนักท่องเที่ยวที่เคยมาประเทศไทยแล้วไม่ว่า จะเป็นกลุ่มครอบครัว, กลุ่มเพื่อน หรือมาเที่ยวด้วยตนเอง ยังไม่ได้ยกเลิกการมาเที่ยวไทย
ตัวเลขล่าสุดหลังได้รับรายงาน เมื่อวันที่ 15-16 ม.ค. 68 มีนักท่องเที่ยวจีนเข้าประเทศไทยตกวันละกว่า 20,000 คน จากปกติเฉลี่ยอยู่ที่ 16,000- 17,000 คน พบว่า ตัวเลขไม่ได้ลดลง แต่สาเหตุที่นายกรัฐมนตรีเรียกประชุมในวันนี้ เพราะเกรงว่าเหตุการณ์จะบานปลายไปกระทบการท่องเที่ยว
นายสรวงศ์ กล่าวอีกว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้มอนิเตอร์ตัวเลขอยู่ตลอดเวลา ทั้งตัวเลขนักท่องเที่ยวภาพรวมในทุกประเทศ พบว่า ตัวเลขขณะนี้มีนักท่องเที่ยวสูงกว่าปีที่แล้วเกือบ 20 % นับจาก วันที่ 1-16 ม.ค.ที่ผ่านมา ในจำนวนประมาณ 1,700,000 คน
เมื่อถามว่า หากสร้างความเชื่อมั่นแล้ว คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาประเทศไทยตามเป้าหมายหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า รัฐบาลพยายามจะเน้นก่อนช่วงเทศกาลตรุษจีนที่จะมาถึง โดยการประสานงานไปยังสถานทูตจีน และมีการพูดคุยกันมาโดยตลอด พร้อมขอเน้นย้ำว่า กรณีที่มีนักแสดงจีนหายตัวไป หรือหลายๆ กรณีที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นนักท่องเที่ยว แต่เป็นการถูกหลอกให้มาทำงาน โดยใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน ไม่ใช่กรณีที่เป็นนักท่องเที่ยวแล้วถูกหลอกข้ามแดน หรือถูกจับตัว ยืนยันว่า ไม่มีกรณีที่เป็นนักท่องเที่ยวสักครั้งหนึ่ง
ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้บัญชาการทหารบก เรื่องการดูแลพื้นที่ และด่านช่องทางธรรมชาติต่างๆ รวมถึงการเข้าออกตามพื้นที่ชายแดน โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดที่กำลังเป็นประเด็นอย่าง อ.แม่สอด จ.ตาก ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้มีการสั่งการให้ดูแลอย่างเข้มงวดไม่ว่า จะเป็นตำรวจตรวจคนเข้าเมือง, ตำรวจตระเวนชายแดน, ทหาร และทหารพราน ที่ต้องช่วยดูแลช่องทางธรรมชาติทั้งหมด
ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านวิพากษ์วิจารณ์ว่า ประเทศไทยเป็นฮับของอาชญากรรมข้ามชาติ นายสรวงศ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติ เอาที่สบายใจ เพราะสิ่งต่างๆ ที่พูดออกมาคือ ผลกระทบของประเทศชาติทั้งนั้น ตนมองว่าหากตัดเรื่องของทางการเมืองออกไป ทุกคนไม่ว่าจะเป็นสื่อมวลชน หรือฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล เรื่องของการสร้างภาพลักษณ์ให้กับประเทศให้มีความเชื่อมั่น เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องให้ความร่วมมือ
Advertisement