นายพิชัย ชุณหวชิระ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กล่าวถึง โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ ว่า ยอดเบื้องต้น 3 หมื่นล้านกว่าบาท แต่ช่วงเย็นนี้จะทราบถึงยอดที่ชัดเจน และคาดว่า เงินที่ผู้สูงอายุได้ไปคงนำไปจับจ่ายใช้สอย และบางส่วนนำไปต่อยอดเพื่อทำธุรกิจต่อ และส่วนใหญ่เงินส่วนนี้ไม่ได้นำไปเก็บ แต่จะนำไปใช้บริโภค ซึ่งจะทำให้มีการบริโภคต่อเนื่อง
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวถึง กรณี กลุ่มผู้สูงอายุบางส่วนยังไม่ได้รับเงินวันนี้ว่า น่าจะมี 2 กรณี กรณีแรก วันนี้กรมบัญชีกลางมีการโอนเงิน 30,200 ล้านบาท ผ่านทางธนาคารพาณิชย์และธนาคารของรัฐเรียบร้อยแล้ว และช่วงเย็นวันนี้ธนาคารเหล่านั้นจะมีการรายงานกลับมา ว่า มีการโอนไม่สำเร็จเป็นจำนวนเท่าไร เพราะอาจจะมีบางบัญชีที่มีปัญหาแต่ยังผูกกับพร้อมเพย์ และเมื่อได้รายชื่อก็จะมีการโอนซ้ำอีกทุกวันที่ 28 อีก 3 เดือน (ก.พ.-เม.ย.)
ส่วนกรณีที่ 2 เป็นบัญชีที่ถูกปฏิเสธตั้งแต่ต้น แม้จะลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่น “ทางรัฐ”ไว้แล้ว แต่ไม่เข้าเกณฑ์ กลุ่มนี้จะถูกตัดออกจากระบบโดยอัตโนมัติ แต่หากยังมีข้อสงสัย สามารถสอบถามผ่านช่องทาง 1111 เพื่อนำไปตรวจสอบสิทธิ์อีกครั้ง
ส่วนกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟน นายจุลพันธ์ ยืนยันว่า จะเปิดให้มีการลงทะเบียนในกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟนต่อไป คาดว่า ไม่เกิน 2 เดือนจากนี้ ซึ่งระบบลงทะเบียนมีความพร้อมอยู่แล้ว เหลือแต่เพียงการนำเรื่องเข้าสู่คณะกรรมการ เพื่อให้มีการสั่งการอย่างเป็นทางการ และเพื่อเปิดให้ลงทะเบียนต่อไป ซึ่งกลุ่มนี้คาดว่า จะเหลือไม่ถึงล้านราย
นายจุลพันธ์ ย้ำว่า สำหรับเฟส 3 จะเดินหน้าในช่วงไตรมาส 2 ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง กรอบวงเงินก็เตรียมไว้ไม่ต่ำกว่า 1.6 แสนล้านบาท มีการประชุมร่วมกับสถาบันการเงินต่างๆ เพื่อเชื่อมต่อกับระบบโอเพนลูป และมีระยะเวลาในการตรวจสอบของ Payment system อย่างเข้มข้น โดยจะใช้เงินผ่านระบบดิจิทัลวอลเล็ต และมีฐานบล็อคเชนอยู่ข้างหลัง
“ทั้งหมดยังอยู่ในกรอบเวลาที่เรายืนยัน เพราะฉะนั้นยังคงมั่นใจว่า สามารถเดินหน้าได้ไตรมาส 2 ของปีนี้ คือ เมษายน พฤษาคม มิถุนายน ก็จะอยู่ในช่วงนี้
นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุครั้งนี้ จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ 0.1% และมีส่วนช่วยเศรษฐกิจในอีกหลายมิติ ทั้งเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจ การจับจ่ายใช้สอย การลงทุน และเมื่อเฟส 1 ผลตอบรับดีมากเห็นได้จากตัวเลขการกระตุ้นเศรษฐกิจที่สูงมาก
ด้านนายจุลพันธ์ กล่าวเสริมประเด็นนี้ว่า ไทม์ไลน์ที่กำหนดจ่ายเงินให้กลุ่มผู้สูงอายุ ตรงกับวันจ่ายในเทศกาลตรุษจีน ซึ่งคาดว่าจะนำเงินส่วนนี้ไปจับจ่ายใช้สอย ทำให้อัตราการหมุนเวียนเศรษฐกิจเป็นตัวเลขค่อนข้างที่น่าพอใจ และจะเป็นการช่วยรักษาโมเมนตัมทางเศรษฐกิจที่รัฐบาลทำมาตลอด
Advertisement