พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พลตำรวจเอก ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาเยี่ยมชาวอุยกูร์ที่ถูกไทยส่งกลับเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ เป็นวันที่ 2 ซึ่งมีระยะทางห่างจากโรงแรมที่พักในตัวเมืองคาซือ ราว 270 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางกว่า 2 ชั่วโมง
โดย พันตำรวจเอกทวี ได้สอบถามความเป็นอยู่หลังถูกส่งกลับมาบ้านเกิด ซึ่งชายชาวอุยกูตอบว่ารัฐบาลท้องถิ่นได้พาตนไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจสุขภาพ ซึ่งไม่มีค่าใช้จ่าย และยังพาตนกับครอบครัวไปเที่ยวข้างนอกในเมืองอื่น ทำให้ตนรู้สึกสบายใจ ซึ่งสมาชิกในครอบครัวก็ปลอดภัย ตอนนี้ตนรู้สึกว่าได้ชีวิตใหม่เป็นปกติแล้ว ขณะนี้ตนอายุ 36 ปีก่อนออกนอกประเทศ ก็ได้แต่งงานแล้ว มีลูก 3 คน โดยมีอาชีพเป็นช่างตัดผม และมีร้านตัดผมเป็นของตัวเอง
ทั้งนี้ ก่อนที่ตนออกนอกประเทศ บ้านหลังนี้ก็ยังไม่มี ซึ่งรัฐบาลได้สนับสนุนเงิน 28,500 หยวน คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 140,000 บาท ให้มาสร้างบ้าน และเราก็พักกันที่นี่มีทั้งพ่อแม่ สามี ภรรยา และลูก
ชายชาวอุยกูร์ ยังเล่าถึงเหตุการณ์ก่อนถูกจับ ว่า กลุ่มก่อการร้ายได้โกหกทำให้ตนหลบหนีออกนอกประเทศผิดกฎหมาย แต่ตอนนี้ได้กลับบ้านแล้วตอนนี้ปัจจุบันมาเป็นชาวนา ยืนยันว่าไม่มีการบังคับ มีเสรีภาพร้อยเปอร์เซ็นต์ และมีเสรีภาพ พร้อมยืนยันว่าไม่เคยถูกทำร้าย โอกาสนี้ก็ต้องขอบคุณ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจากประเทศไทยตนรู้สึกประทับใจและขอบคุณรัฐบาลท้องถิ่นอีกครั้ง กลับมาครั้งนี้ไม่เพียงแต่ซินเจียงพัฒนา แต่ทั้งประเทศจีนทันสมัยมาก และเมื่อตนกลับมาก็จะดูแลครอบครัวเป็นหลัก
เมื่อถามว่า กลับมาแรกๆ กลัวหรือไหม ชายชาวอุยกูร์ ตอบว่า ตอนที่กลับมาใหม่ใหม่ก็เครียด แต่รู้สึกว่ารัฐบาลท้องถิ่นมีน้ำใจต่อตนและครอบครัว ตอนนี้ก็สบายใจ ไว้วางใจ
“ตอนที่ไปไทย ก็หลบหนีข้ามชายแดนแบบผิดกฎหมาย ไม่แน่ใจโดนจับที่ไหน (คิดว่าคงเป็นหาดใหญ่) ตอนที่โดนจับ มีผมคนเดียว และเมื่อกลับจากไทยแล้ว ไม่ได้เคยติดต่อกับคนอื่นใน 40 คนเลย”
จากนั้น พันตำรวจเอก ทวี ได้สอบถามเรื่องการศึกษา ซึ่งชายชาวอุยกูร์ ตอบว่า ตนไม่ได้เรียนหนังสือ แม้แม่เป็นครูอยากให้เรียน แต่ตนก็ไม่เชื่อฟัง พร้อมยืนยันไม่เคยมีการเขียนจดหมายกลับมา
ก่อนที่ พันตำรวจเอก ทวี จะกล่าวว่า วันนี้มาเยี่ยมเพราะจะมาดูว่ามีความปลอดภัย และมาดูว่าชีวิตดีขึ้นหรือไม่ ได้ยินแบบนี้รู้สึกสบายใจ และขออวยพรให้เขาและครอบครัวมีความสุขสมหวังต่าง ๆ
สำหรับบรรยากาศการพูดคุย กับครอบครัวชาวอุยกูร์นี้ มารดาดูมีความสุขหลังได้พบกับลูกชาย และกอดหอมแก้ม แสดงความคิดถึง ในขณะที่ลูกสาวของชายคนนี้ ก็ได้ผมสวมกอดพ่อตัวเอง เพราะขณะที่เขาถูกจับลูกสาวมีอายุเพียง 4 ปีเท่านั้น จากนั้นครอบครัวนี้ได้ร้องเพลงพื้นถิ่นโชว์ซึ่งมีความหมายของเพลงว่า ดวงดาวที่สองสว่างบนฟ้า เป็นประกายเหมือนตาของแม่ ก่อนที่มารดาจะร้องอีก 1 บทเพลง ซึ่งเป็นเพลงที่ชื่นชมและขอบคุณคุณแม่ ที่ดูแลลูกมาจนเติบโต
พร้อมกันนี้ ทางครอบครัวยังได้เชิญ พันตำรวจเอก ทวี และคณะ ชิมขนม ของว่างที่จัดไว้ พร้อมเล่าว่า อาหารที่ตั้งไว้แบบนี้มีทุกบ้าน เป็นประเพณีท้องถิ่น จัดแบบนี้ทุกวัน แม้จะมีแขกมาหรือไม่ก็ตาม ส่วนเดือนรอมฎอนก็ทานได้
Advertisement