"สุดารัตน์" ไทยสร้างไทย วอนนายกฯเร่งแก้ขึ้นภาษีของทรัมป์เร่งด่วน ไม่ใช่รอประชุม 8 เม.ย. ย้ำต้องเร่งตั้งSpecial Task Force หลังไทยถูกขึ้นภาษีสูงถึง37%
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย เห็นว่าเรื่องการขึ้นภาษีของ"ทรัมป์" เป็นปัญหาใหญ่ที่จะกระทบทุกภาคส่วนของประเทศไทย ทั้งภาคการเกษตร อุตสาหกรรม ชึ่งจะส่งผลรุนแรงต่อรายได้ของธุรกิจทั้งขนาดเล็ก ขนาดขนาดใหญ่ และอาจจะกระทบ GDP สูงถึง 1.2% ที่ซ้ำเติมภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยที่กำลังย่ำแย่อยู่แล้ว อาจจะต้องเข้าสู่สภาวะทดถอย ประชาชนจะยากจนลงอีกมาก ขณะที่หนี้สินทั้งของประชาชน และของประเทศจะขยายตัวเพิ่มขึ้น
หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทยเห็นว่า ถึงเวลาที่รัฐบาลต้องเปลี่ยนวิกฤต เป็นโอกาสระดมองค์ความรู้ของทุกภาคส่วนภายในประเทศ ทั้งภาคเอกชน ทั้งสภาหอการค้า สภาอุตสาหกรรม สมาคมธนาคารไทย สภา SMEs ตัวแทนเกษตรกร นักเศรษฐศาสตร์ นักวิชาการฯลฯ รวมทั้งสส.ฝ่ายค้าน และ สว.มาร่วมแก้ปัญหา
รวมทั้งควรจะแสวงหาความร่วมมือกับกลุ่มประเทศกลุ่มอาเซียน ที่ได้รับผลกระทบจากการขึ้นภาษีของทรัมป์เช่นกัน โดยใช้เวที "อาเซียน" ในการหารือเร่งด่วนกับมิตรประเทศในอาเซียน เพื่อหาแนวทางร่วมกันในการเสนอข้อต่อรองไปยังสหรัฐอเมริกา โดย“ใช้พลังของอาเซียน ในการต่อรอง”
ดิฉันขอเสนอให้รัฐบาลได้ใช้ "รัฐสภา"เป็นเวทีระดมความคิดเห็น ในสัปดาห์หน้า ซึ่งเป็นสัปดาห์สุดท้ายของการประชุมสภา นำเรื่องการขึ้นภาษี Reciprocal Tariff ของ ประธานาธิบดีทรัมป์ แทนการเร่งรัดนำเรื่องเอ็นเทอร์เทนเม้นต์คอมเพล็กซ์ ชึ่งยังไม่มีความชัดเจนเรื่องมาตรการ ปกป้องความเสียหายต่อคนไทยและสังคมไทย จนหลายฝ่ายกังวลว่า"ได้ไม่คุ้มเสีย"
นอกจากนั้นก็ยังมีความเห็นแย้งจากกลุ่มผู้นำทางสังคมหลากหลายองค์กร ที่รัฐบาลควรจะใช้เวลาในระหว่างปิดสมัยประชุมสภา ปรึกษาหารือกับองค์กรต่างๆ นำไปปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย และที่สำคัญที่สุดควรจะทำ"ประชามติ"เปิดโอกาสให้ประชาชนเจ้าของประเทศเป็นผู้ตัดสินใจต่อโครงการที่มีความเสี่ยงต่ออนาคตของคนไทยอย่างใหญ่หลวงเช่นนี้
ดังนั้นรัฐบาลต้องทบทวนการทำงาน ลำดับความสำคัญว่า อะไรคือปัญหาเร่งด่วน ซึ่งกฎหมายเอนเทอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน ถ้าเทียบกับเรื่องความเสียหายจากการขึ้นภาษีของทรัมป์ที่เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย โดยประเทศไทยต้องเร่งเจรจาแก้ไข และหามาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการและเกษตรกรไทย โดยด่วนที่สุด
Advertisement