รัฐบาลจีนกำลังพิจารณายกเว้นการเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 125% สำหรับสินค้าบางรายการจากสหรัฐอเมริกา ท่ามกลางแรงกดดันทางเศรษฐกิจที่เริ่มส่งผลต่ออุตสาหกรรมสำคัญในประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ขณะที่สงครามการค้าระหว่างสองเศรษฐกิจใหญ่ของโลกยังไร้ข้อยุติ
แหล่งข่าวใกล้ชิดระบุว่า รายการสินค้าที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาผ่อนปรนรวมถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์ สารเคมีอุตสาหกรรมบางชนิด เช่น ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) และอีเทน (ethane) และบริการเช่าเครื่องบินพาณิชย์ ซึ่งสายการบินจีนจำนวนมากต้องพึ่งพา โดยเฉพาะในกรณีที่ไม่ได้เป็นเจ้าของเครื่องบินเอง ทำให้หากจีนยังคงจัดเก็บภาษีจากสินค้าและบริการสหรัฐฯ เหล่านี้ในระดับสูง อาจสร้างภาระทางการเงินรุนแรงต่อผู้ประกอบการ
หนึ่งในภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการขึ้นภาษีสินค้าสหรัฐฯ อย่างชัดเจนคืออุตสาหกรรมพลาสติกของจีน ซึ่งแม้จะเป็นผู้ผลิตพลาสติกรายใหญ่ที่สุดของโลก แต่กลับต้องพึ่งพาวัตถุดิบปิโตรเคมีจากสหรัฐฯ เป็นสัดส่วนสูง โดยเฉพาะอีเทนและก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG)
รายงานของ Goldman Sachs Group Inc. ระบุว่า หากการเจรจาการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ดำเนินไปในทิศทางที่สร้างสรรค์ การยกเว้นภาษีนำเข้าสำหรับวัตถุดิบเหล่านี้จะอยู่ในกลุ่มลำดับต้น ๆ ที่ทางการจีนพิจารณา โดยนักวิเคราะห์แดน สตรอยเวน (Daan Struyven) ชี้ว่า อีเทนและ LPG เคยได้รับการยกเว้นจากมาตรการจำกัดของจีนในปี 2018 ซึ่งสะท้อนถึงบทบาทสำคัญเชิงเศรษฐกิจและประวัติศาสตร์
ทั้งนี้ การจำกัดการนำเข้าจากสหรัฐฯ ในช่วงที่ผ่านมาได้ทำให้จีนต้องหันไปพึ่งพาวัตถุดิบจากตะวันออกกลางแทน แม้จะมีต้นทุนที่สูงกว่าและประสิทธิภาพการผลิตต่ำกว่า โกลด์แมน แซคส์ยังระบุว่า “จีนและสหรัฐฯ ต่างพึ่งพากันในด้านการค้าสารไฮโดรคาร์บอน โดยเฉพาะโพรเพนและอีเทน” ซึ่งเป็นหัวใจของกระบวนการผลิตโพรพิลีนในจีน
มาตรการของจีนในครั้งนี้สะท้อนแนวโน้มที่คล้ายกับฝั่งสหรัฐฯ ที่เพิ่งยกเว้นสินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เช่น สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ ชิปประมวลผล และหน้าจอแสดงผล จากภาษีนำเข้า 145% เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา โดยเป็นการผ่อนคลายชั่วคราวที่ช่วยลดแรงกระแทกต่อบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก เช่น Apple และ Nvidia
แม้สหรัฐฯ จะนำเข้าสินค้าจากจีนในสัดส่วนที่มากกว่า แต่จีนยังต้องพึ่งพาสินค้าจากสหรัฐฯ อย่างชัดเจนในบางอุตสาหกรรม เช่น อุปกรณ์การแพทย์ขั้นสูงจาก GE Healthcare และวัตถุดิบปิโตรเคมีที่สำคัญต่อกระบวนการผลิตในอุตสาหกรรมพื้นฐานของประเทศ
ในทางปฏิบัติ หน่วยงานภาครัฐของจีนได้ขอให้บริษัทเอกชนที่ได้รับผลกระทบจากภาษีนำเข้าส่งรหัสศุลกากรของสินค้าสหรัฐฯ ที่ต้องการให้ได้รับการยกเว้น โดยมีรายงานว่าสายการบินจีนบางแห่งได้รับแจ้งแล้วว่าการชำระค่าเช่าเครื่องบินกับบริษัทในเขตการค้าเสรีจะไม่ถูกจัดเก็บภาษีตามโครงสร้างใหม่
นอกจากนี้ยังมีรายงานจากสำนักข่าว Caijing ว่าจีนเตรียมยกเว้นภาษีเพิ่มเติมสำหรับผลิตภัณฑ์เซมิคอนดักเตอร์อย่างน้อย 8 รายการ แม้จะยังไม่ครอบคลุมชิปหน่วยความจำ ซึ่งอาจกระทบต่อบริษัท Micron Technology Inc. ผู้ผลิตชิปหน่วยความจำอันดับ 3 ของโลก
ทั้งนี้ แม้นักลงทุนคาดหวังว่าแรงกดดันทางเศรษฐกิจจะผลักดันให้ทั้งสองประเทศเดินหน้าเจรจาเพื่อลดความขัดแย้งทางการค้า แต่ในทางการเมือง ความสัมพันธ์ยังคงอยู่ในภาวะชะงักงัน
ล่าสุดทางการจีนเรียกร้องให้สหรัฐฯ ยกเลิกภาษีฝ่ายเดียวทั้งหมดก่อนจึงจะพร้อมเข้าสู่โต๊ะเจรจา ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้พยายามติดต่อประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เพื่อหารือโดยตรง แต่ยังไม่ได้รับการตอบสนอง โดยฝ่ายจีนเสนอให้เริ่มพูดคุยในระดับเจ้าหน้าที่ก่อน
แม้ยังไม่ปรากฏข้อสรุปอย่างเป็นทางการ การขยับตัวของทั้งสองฝ่ายครั้งนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นของแนวโน้มใหม่ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจโลกที่พึ่งพาโยงใยกันอย่างลึกซึ้ง กำลังกดดันให้มหาอำนาจต้องหันมาใช้ความร่วมมือมากกว่าการเผชิญหน้า