วันที่ 25 พ.ย.64 เมื่อเวลา 13.30 น. ที่รัฐสภา นายสัญญา นิลสุพรรณ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร แถลงภายหลังการประชุมถึงความคืบหน้าคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส อยู่วิทยา ว่ามีตัวแทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ผู้แทนกองบัญชาการตำรวจนครบาล 5 ผู้แทนสำนักงานจเรตำรวจ ผู้แทนกองการต่างประเทศ และผู้แทนจากสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อเข้าร่วมประชุม
กมธ.ได้ซักถามถึงการดำเนินการติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่ง สตช.โดยกองการต่างประเทศชี้แจงว่ามีการทำหนังสือประสานไปยังประเทศต่างๆ เพื่อสอบหาที่อยู่ของผู้ต้องหา ปัจจุบันได้รับความร่วมมือจากหลายประเทศตอบกลับมา และตำรวจสากลได้ออกหมายแดงคดีนี้แล้ว
นอกจากนี้ทาง กมธ.ได้เสนอให้นำมาตรการเชิงรุกต่างๆ มาใช้ติดตามผู้ต้องหา เช่น การให้เจ้าหน้าที่เดินทางไปต่างประเทศเพื่อติดตามนั้น ได้รับคำชี้แจงว่ามีปัญหาติดขัดในเรื่องงบประมาณ
นายสัญญา กล่าวต่อว่า ในส่วนการดำเนินการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการดำเนินการไม่ให้ผู้ต้องหาถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกกล่าวหา 18 ราย ส่วนการสืบสวนข้อเท็จจริงตำรวจ 4 รายที่ถูกกล่าวหาว่าเปลี่ยนแปลงความเร็วของรถ ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ คาดว่าจะสามารถทำรายงานการสืบสวนให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2564
ทั้งนี้ยังมีหลายประเด็นที่การตอบคำถามของผู้แทน สตช. ยังไม่มีความคืบหน้าและความชัดเจนเพียงพอ รวมทั้ง กมธ.ยังมีการหารือกรณีที่ ส.ส.ตั้งกระทู้ถามในสภา เรื่องการดำเนินการดังกล่าว หลังจากนี้คงจะมีการหารือร่วมกันระหว่าง กมธ.การตำรวจ กมธ.การป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ และ กมธ.การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน เพื่อประชุมร่วมกันในเรื่องนี้ พร้อมทั้งจะเชิญผู้แทน สตช. ที่อยู่ในระดับนโยบายมาชี้แจงต่อ กมธ.ด้วย เพื่อให้การคำตอบคำถามจะได้ประเด็นที่ครบถ้วน
เมื่อถามว่า การที่ตำรวจสอบถามไปยังประเทศต่างๆ พอจะยืนยันว่านายวรยุทธหลบอยู่ที่ประเทศใด นายสัญญากล่าวว่า ทางตำรวจได้สันนิษฐานว่าอยู่ประเทศออสเตรีย แต่ไม่ได้รับการยืนยันชัดเจนเพราะวีซ่าหมดอายุ และไม่ปรากฎว่ามีการใช้ผ่านยังไปยังประเทศออสเตรีย
เมื่อถามว่า กมธ.เคยเชิญครอบครัวหรือคนใกล้ชิดของนายวรยุทธที่ยังอยู่ในประเทศมาชี้แจงหรือไม่ นายสัญญากล่าวว่า ยังไม่ได้เชิญ เพราะไม่ได้มาเกี่ยวข้องโดยตรงกับคดีนี้ เนื่องจาก กมธ.ได้มุ่งเน้นไปที่การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถึงขั้นตอนการดำเนินคดี แต่ยอมรับว่าผู้ที่เป็นญาติอาจรู้ว่าอยู่ที่ใด แต่เชื่อว่าอาจจะปกป้องคนในครอบครัว ผู้ที่ถืออำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย มีหน้าที่ในการหาพยานหลักฐานหรือสืบเสาะ ซึ่งก็มีวิธีการหรือมาตรการเของเจ้าหน้าที่อยู่ ซึ่งทางตำรวจยืนยันว่าจะเร่งสรุปรายงานการตรวจสอบเรื่องการทำคดีและช่วยเหลือคดีให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคมนี้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- คดี บอส อยู่วิทยา ก.อ.ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง เนตร นาคสุข ปมสั่งไม่ฟ้อง
- ตั้งสอบวินัยร้ายแรง เนตร นาคสุข อดีต รองอัยการสูงสุด สั่งไม่ฟ้อง บอส อยู่วิทยา
- อัยการ-ตำรวจ ยันสั่งฟ้อง บอส อยู่วิทยา ขับรถชนคนตาย-เสพโคเคน หลังโซเชียลแชร์ข่าวเก่า
Advertisement