มารผจญ! อดีตสามีโหดบุกง้อเมีย อาหวังดีปิดบ้านห้ามศึกสองผัวเมีย ถูกตีแขนหัก กระดูกมือขวาหักผิดรูป จนต้องยกเลิกงานบวชไม่มีกำหนด
วันที่ 15 มี.ค. 67ที่จ.นนทบุรี ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก น.ส.เฉิดฉันท์ หรือ ไผ่ อายุ 43 ปี พนักงานบริษัทเอกชนว่า น้องชายคือนายฉันท์วิท หรือ จิ๋ว อายุ 30 ปี ได้ถูกหลานเขยใช้ไม้ตีทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ กระดูกมือขวาหักผิดรูป ตาซ้ายฟกช้ำ เลือดกำเดาไหล หลังหวังดีปิดบ้านห้ามศึกสองผัวเมีย คือนายณรงศักดิ์ หรือ อ่อน อายุ 28 ปี และ น.ส.ปรีญา หรือ น้องเบียร์ อายุ 20 ปี พนักงานบริษัทเอกชน หลานสาวของตน
ก่อนมีปากเสียงทะเลาะกันถึงขั้นมีการทำร้ายร่างกายเกิดขึ้น เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 มี.ค. 67 เวลาประมาณ 20.30 น. ที่เกิดเหตุภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านไทรน้อย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี แจ้งความไว้ที่ สภ.ไทรน้อย แต่คดียังไม่มีความคืบหน้า และถูกคู่กรณีข่มขู่ ห่วงความไม่ปลอดภัยของครอบครัวและน้องเบียร์ ต้องคอยไปรับ-ส่ง เวลาไปทำงานตลอดเวลา
เหตุการณ์นี้ทำให้นายฉันท์วิท หรือ จิ๋ว น้องชายของตนที่ตั้งใจว่าจะบวชทดแทนบุญคุณพ่อแม่ในวันที่ 15 มี.ค. นี้ แต่มาเกิดเรื่องก่อน จนทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องเลื่อนงานบวชออกไปอย่างไม่มีกำหนด
น.ส.เฉิดฉันท์ กล่าวว่า ตนให้น้องเบียร์ย้ายมาอยู่ที่บ้านด้วยประมาณ 3-4 เดือน หลังจากเลิกรากับนายอ่อน และชวนไปทำงานที่เดียวกัน นายอ่อนก็ตามมาง้อ และตามไปดูที่ทำงาน หาเรื่องทะเลาะ ด่าทอ หึงหวง ส่งข้อความมาท้าทายบอกว่า “เดี๋ยวเจอกูแน่ ไม่กลัวใครหรอก”
ตนจึงพาน้องเบียร์ไปแจ้งความ และตกลงเจรจาแยกย้ายกันไป จากนั้นก็กลับมากินข้าวที่บ้านปกติ เห็นนายอ่อนบุกเข้ามาเอาตัวน้องเบียร์ เพื่อจะให้กลับไปอยู่ด้วย ช่วงนั้นชุลมุนมาก ตนพยายามเรียกให้คนมาช่วย แต่ไม่มีใครมา นายอ่อนจึงเอาไม้มาฟาดแขนน้องชายตนหัก และพูดว่า “มึงอยากตายมั้ย เดี๋ยวกูยิงให้ตายเลย” พร้อมทำท่าหยิบของในกระเป๋า แต่เรารู้ว่ามันไม่มีอะไร
จากนั้นจึงรีบหนีเข้าไปในบ้าน แต่นายอ่อนก็ยังไม่ยอมไปไหน จนตนต้องโทรแจ้งตำรวจ นายอ่อนจึงวิ่งหนีออกไป ตนจึงรีบไปแจ้งความและโทรไปหาแม่ของนายอ่อน เขากลับบอกว่าฝั่งตนไปทำร้ายลูกชายเขา ถ้าลูกเขาเป็นอะไรขึ้นมาจะเล่นงานเรา ซึ่งวันนั้นนายอ่อนไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร และตนไม่มีอาวุธใดๆ น้องชายตนชกต่อยกันมือเปล่า หลังเกิดเหตุนายอ่อนพยายามติดต่อ และโทรหาน้องเบียร์ แต่น้องบล็อกการติดต่อทุกช่องทาง ตอนนี้ห่วงเรื่องความปลอดภัยของน้องเบียร์ กลัวว่านายอ่อนจะกลับมาทำร้ายและพาตัวน้องเบียร์ไป
นายฉันท์วิท กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนนั่งกินข้าวกันอยู่ในบ้านก่อนจะออกไปเฝ้าแม่ที่โรงพยาบาล ขณะกำลังสูบบุหรี่เห็นนายอ่อนเดินเข้ามาและพังประตูรั้ว ตนจึงไล่ให้พี่สาว และน้องเบียร์เข้าไปหลบในบ้าน จากนั้นตนได้มีการชกต่อยกับนายอ่อน หันมาอีกทีนายอ่อนหยิบไม้มาฟาดที่แขนตน ทำให้ตนแขนหักผิดรูป พี่สาวตนจึงมาช่วยจับแยก และรีบวิ่งเข้าไปหลบในบ้าน ปิดประตูไม่ให้นายอ่อนเข้ามาได้
ตนไม่เคยมีเรื่องส่วนตัวกับนายอ่อน ครั้งนี้คือปกป้องคนในบ้าน และไม่อยากให้นายอ่อนทำร้ายใคร หรือพาน้องเบียร์กลับไป ตนไปโรงพยาบาลหมอบอกกระดูกเคลื่อน ข้อนิ้วหัก ฟกช้ำที่บริเวณดวงตา
ตอนนี้ต้องใส่เฝือกอ่อนที่แขนเพื่อพยุงไว้ก่อน หมอนัดอีกทีวันที่ 21 มี.ค. นี้ ตอนนี้ตนไม่ได้ทำงาน เนื่องจากต้องลาออกจากงานมาเฝ้าแม่ที่โรงพยาบาลทุกวัน ตนตั้งใจไว้ว่าวันที่ 12 มี.ค. จะเข้าไปอยู่วัดก่อนจะบวชทดแทนบุญคุณพ่อแม่ ซึ่งกำหนดการคือบวชวันที่ 15 มี.ค. ทำพิธีส่งตัวเข้าวัดแล้ว แต่มาเกิดเรื่องซะก่อนจึงต้องเลื่อนงานบวชออกไปอย่างไม่มีกำหนด ตนเสียใจมาก ตั้งใจบวชให้แม่และไม่รู้จะได้บวชอีกเมื่อไหร่ ตอนนี้ค่ารักษาพยาบาลก็ยังสรุปไม่ได้เนื่องจากต้องส่งตัวไปรักษาต่ออีกที่ เงินก็ไม่ค่อยมีแถมต้องมาเจ็บตัว อยากให้นายอ่อนมารับผิดชอบค่าเสียหาย รวมถึงเรื่องงานบวชของตนด้วยที่ต้องมาพัง เพราะเขา
ด้านน้องเบียร์ กล่าวว่า ตนอยู่กินกับนายอ่อนมา 5-6 ปี มีลูกด้วยกัน 1 คน ตลอดเวลาที่คบหากันมานายอ่อนทำงานไม่เป็นหลักแหล่ง ชอบดื่มเหล้าและเสพยา เวลาขอเงินตนไม่ได้ก็จะทำร้ายทุบตี ตนทนไม่ไหวจึงขอเลิก ก่อนเลิกกันนายอ่อนให้ตนยกลูกให้แล้วจะยอมเลิก และไม่ยุ่งเกี่ยว ตนจึงยอม หลังจากตกลงเลิกลากับนายอ่อน ตนได้บอกว่าจะย้ายมาทำงานอยู่กับอาที่ จ.นนทบุรี ทำให้นายอ่อนรู้ว่าตนไปอยู่ที่ไหน
ก่อนหน้านี้นายอ่อนเคยมาขอคืนดี สัญญาว่าจะไม่ทำร้ายทุบตี แต่สุดท้ายก็เหมือนเดิม กินเหล้าเมาไม่ยอมไปทำงาน ตนเลยขอเลิกแบบเด็ดขาด แต่นายอ่อนก็ไม่ยอมจะเอาตนกลับไปอยู่ด้วย ซึ่งก่อนเกิดเหตุวันนั้นประมาณ 12.00 น. ตนและนายอ่อน ได้ไปทำบันทึกข้อตกลงที่ สภ.ไทรน้อยว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกันอีก แต่หลังจากนั้นประมาณ 20.30 น. นายอ่อนได้บุกเข้ามาที่บ้านขณะที่กำลังนั่งกินข้าว เพื่อจะพาตนกลับไปอยู่ด้วยและทำร้ายร่างกายอาของตนจนได้รับบาดเจ็บ
ตนยืนยันว่าจะไม่กลับไปอยู่ด้วยเด็ดขาด ตอนนี้เสียใจมากที่ทำให้อาของตนบาดเจ็บและบวชไม่ได้ อยากให้นายอ่อนยอมเลิกและรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น ตนขอแค่นี้ ตนไม่มีอะไรจะพูดถึง เสียใจกับทุกๆ อย่าง ตนคิดถึงลูกอยากเอามาอยู่ด้วย แต่นายอ่อนชอบเอาลูกมาอ้าง จึงต้องยอมตัดใจให้ลูกอยู่กับพ่อแม่ของนายอ่อนที่ จ.ขอนแก่น ทุกวันนี้ตนอยู่แบบหวาดระแวง จะไปทำงานต้องให้อาเดินไปรับไปส่ง หากวันไหนเข้ากะพร้อมกันก็ดีไป แต่วันไหนเข้างานคนละกะก็ต้องให้อาลำบากเดินไปรับไปส่งแบบนี้ทุกวัน ตนไม่รู้จะทำยังไงต่อ แต่อยากให้ต่างคนต่างอยู่กันไปไม่ต้องมาข้องเกี่ยวกันอีก
Advertisement