หนุ่มสมุทรสงคราม ร้องกองปราบฯ อ้างโดน สจ.คนดัง สั่งลูกน้องทำร้ายร่างหาย ใช้ปืนตีจนหน้าผากแตก แขนหัก 3 ท่อน
วันที่ 19 เม.ย.67 ที่ศูนย์รับแจ้งความ บช.ก. พหลโยธิน จตุจักร กทม. จ่าคิงส์ ธมนันท์ แตงทิม เจ้าของเพจ สะพานใหม่ อดีต สห.ทอ. พานายเชิดศักดิ์ (สงวนนามสกุล) ผู้เสียหายจาก จ.สมุทรสงคราม เดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อ พงส.กก.5 บก.ป. เพื่อขอเข้าคุ้มครองพยาน
กรณีอ้างว่าถูกสมาชิกสภาจังหวัดสมุทรสงคราม (สจ.) คนดัง จ.สมุทรสงคราม กับสารวัตรกำนันให้ลูกน้องไปตามมาพบก่อนที่บ้าน สจ.คนดังกล่าว โดยมีผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ และพวกช่วยกันรุมทำร้าย จนกระดูกหน้าผากแตก ข้อมือหัก สมองกระทบกระเทือน
นายเชิดศักดิ์ เปิดเผยว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 มี.ค .เวลาประมาณ 09.35 น. ก่อนเกิดเหตุตนกำลังขับรถจะเข้าวัด เจอลูกน้อง สจ.คนดังขับรถมาในอาการมึนเมา ทำให้รถตนเสียจังหวะ ก่อนจะเข้าไปเตือนสติ ด้วยการตบหน้าเบาๆ ไป 2-3 ครั้ง เพื่อเรียกสติเขา ถามเขาว่าจำตนได้หรือเปล่า ก่อนจะขอโทษเขาไปและแยกย้าย
หลังจากนั้นไม่นาน ขณะที่ตนพักผ่อนอยู่ที่บ้านพักย่านลาดใหญ่กับ น.ส.กชกร ภรรยา และ พระดนัย ได้พานายสิทธิชัย หรือหน่อง ลูกน้อง สจ.คนดังกล่าวขับรถมาเรียกตนให้ไปพบที่บ่อปลาของ สจ.คนดังกล่าว ตนจึงขับรถตามไป เมื่อไปถึงบ่อปลา สจ.คนดัง ได้เดินมาหาตนที่รถแล้วดึงกุญแจรถออกไป
จากนั้นพยายามจะฉุดกระชากให้ตนลงจากรถ ตนไม่ยอมลง สจ.คนดังได้ล็อกคอตนไว้แล้วบอกให้นายสมพร หรือเจต ลูกน้องอีกคนที่เดินตามมา ชักปืนขึ้นลำ แล้วเปิดประตูรถด้านซ้ายเข้ามาทำร้ายตน โดยเอาปืนขนาด 11 มม.ตบเข้าที่ใบหน้าหลายครั้ง จนขัดขืนไม่ได้ก่อน สจ.คนดัง จะกระชากตนลงจากรถ แล้วให้นายเจต กระหน่ำตีใบหน้าด้วยปืนอีกหลายที
จากนั้น สจ.คนดังกับผู้ใหญ่บ้านซึ่งเป็นพี่น้องกับ สจ.ได้ช่วยกันรุมชกต่อย ตนจนต้องแกล้งสลบ ค่อยเข็นรถออกมาแล้วโทรเรียกภรรยาให้เอากุญแจสำรองมาให้ ขับรถกลับที่พัก ไปรักษาตัวที่ รพ.
แพทย์เอ็กซเรย์พบกระดูกหน้าผากแตก ใบหน้าพกช้ำ เมื่อไปแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท้องที่เกิดเหตุแล้วแต่ตำรวจไม่ลงคดีให้ ตนกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะกลุ่ม สจ.มีอิทธิพลในพื้นที่มาก เคยทำร้ายพี่น้องประชาชนในสมุทรสงครามมาแล้วหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีใครกล้าเอาผิด บางรายที่โดน สจ.คนดังกับลูกน้องรุมทำร้ายจนสลบก็เอาเงินฟาดหัวสั่งให้ปิดปากไม่ให้ไปแจ้งความ ก็ต้องจำใจยอม เพราะกลัวจะโดนทำร้ายซ้ำอีก
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนรับแจ้ง และประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลาดใหญ่ ท้องที่เกิดเหตุให้เร่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
Advertisement