เต้ มงคลกิตติ์ ร้องสอบ หนัง “อำนาจ ศรัทธา อนาคต”

เต้ มงคลกิตติ์ ร้องสอบ หนัง “อำนาจ ศรัทธา อนาคต” อาจผิด ม.116 หรือไม่ พร้อมเผยปี 69 จะลงสมัครผู้ว่าฯกทม. หวั่น ทักษิณ ยิ่งขยับเยอะจะเกิดปฏิวัติ 

คอนเทนต์แนะนำ

ดับแล้ว 5 ศพ! นักท่องเที่ยวต่างชาติสังเวยชีวิตให้เหล้าผสมเมทานอลในลาว

ทำถึง! ทีมเชียร์ลีดเดอร์ขอนแก่นวิทยายน จากไวรัลชุดบอดี้มนุษย์และเปรต

รมช.คลัง แนะเข้าเว็บ Welfare.mof.go.th ยืนยันสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

วันที่ 12 มิ.ย. 67 ที่ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ และที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมายื่นหนังสือถึง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เพื่อขอให้ตรวจสอบภาพยนตร์เรื่อง “อำนาจ ศรัทธา อนาคต” หรือ “Breaking The Cycle” ว่าผู้ให้ทุนผู้กำกับ นักแสดงนำ โรงภาพยนตร์ อาจจะกระทำผิดตาม มาตรา 116 หรือไม่ 

นายมงคลกิตติ์ เปิดเผยว่า จากประเด็นที่มีการฉายภาพยนตร์เรื่อง อำนาจ ศรัทธา อนาคต หรือ Breaking The Cycle จึงทำให้ตนได้เข้าไปดูวันที่ 7 มิ.ย. 67 เวลา 14.00 น. โรงหนัง โดยตนมองว่ามีสิ่งผิดปกติ การเล่าเนื้อหาของภาพยนตร์ ที่เริ่มเล่าตั้งแต่ ปี 57 ถึงปี 63 พูดถึงการยึดอำนาจ ซึ่งในภาพยนตร์ไม่ได้พูดถึงสาเหตุของการยึดอำนาจ และไม่ได้พูดถึงเรื่องของ พ.ร.บ. นิรโทษกรรมปี 56 ก่อนที่จะมีมวลชน ออกมาขับไล่รัฐบาล เนื่องจากรัฐบาลกระทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง คือออก พ.ร.บ.สุดซอย 

และในภาพยนตร์จะโชว์นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ให้เป็นความหวังของคนไทยทั้งชาติ ถ้าบุรุษของประชาธิปไตย ตนมองว่าเป็นข้อมูลเพียงทางเดียว ซึ่งในภาพยนตร์ไม่ได้บอกรายละเอียดว่ายุบพรรคอนาคตใหม่ด้วยสาเหตุอะไร พูดแค่ในแง่มุมของ การเสนอแคนดิเดตนายกฯรัฐมนตรีในปี 62 ในเนื้อหาเป็นการพูดในเชิงบวกในด้านเดียว พูดให้ครอบคลุม ถึงเนื้อหา ซึ่งอาจจะทำให้ประชาชนและเยาวชนที่เข้าไปดูภาพยนตร์เรื่องนี้ให้เข้าใจว่านายธนาธร และพรรคอนาคตใหม่ จนมาถึงพรรคก้าวไกลในปัจจุบัน เป็นความหวังเดียวของชาติ 

นายมงคลกิตต์ กล่าวต่อว่า หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ต่ำกว่ามาตรฐาน ทำสังคมสับสน ควรลงทุน และให้ข้อมูลที่เป็นจริงครบทุกด้านกว่านี้ ตนจึงอยากให้ตำรวจสอบสวนกลางยื่นตรวจสอบภาพยนตร์เรื่องนี้ และเชิญนักแสดงนำของภาพยนตร์ ผู้กำกับ และแม้กระทั่งโรงภาพยนตร์ที่ไม่ตรวจสอบและยังให้ฉายภาพยนตร์เรื่องนี้ 

ทั้งนี้นายมงคลกิตต์ บอกว่า หลังจากที่ได้เข้าร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์ ในการเป็นที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค และได้มีการลงพื้นที่ภาคใต้ ตามที่ได้รับมอบหมาย และในปี 69 ตนวางแผนว่าจะลงเลือกตั้ง ผู้ว่าฯกรุงเทพมหานคร และหวังว่าประชาชนจะเลือกให้ตนไปรับใช้ และทำหน้าที่ของผู้ว่าฯกรุงเทพมหานคร 

ส่วนกลยุทธ์ในการฟื้นศรัทธา ให้พรรคประชาธิปัตย์กลับมาได้รับความนิยมจะเป็นอย่างไรนั้น นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ต้องขึ้นอยู่กับ นายทักษิณ ชินวัตร ว่านายทักษิณจะขยับไปในทิศทางไหน ซึ่งกังวลว่า ฝ่ายความมั่นคงอาจจะมีการปฏิวัติรัฐประหารหรือไม่