ตำรวจเร่งตามหาหญิงวัย 22 ปี หายตัวลึกลับหลังไปรับยาที่โรงพยาบาล พ่อมั่นใจเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ต้องการเรียกเงิน 30,000 บาท
กรณีเพจเฟซบุ๊กขอนแก่นร้องเรียนอะไรบอกไว้ที่นี่ ได้โพสต์ภาพหญิงสาวคนหนึ่งถูกจับและมีข้อความข่มขู่ ในโพสต์ระบุว่า โมโดนจับตัวไปและโดนขังไว้ตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม 2567 จากนั้นก็โพสต์สตอรี่ซึ่งมีข้อความว่า “ติดต่อมาแล้วจะปล่อยไปนะครับผม” ,“จำไว้นะครับตราบใดที่ยังติดสินบนผมอยู่ ผมไม่ปล่อยไปง่ายๆ ครับ จนกว่าจะมีญาติโกโหติกาติดต่อผมเข้ามา ผมไม่ทำอะไรครับ ข้าวน้ำผมไม่ให้อด ผมให้เวลา 5 วัน วันนี้วันที่ 3 เหลืออีก 2 วัน ถ้าไม่เจรจากับผมหรือเมียผม ผมไม่ปล่อยครับ” , “พรุ่งนี้เที่ยงไม่มีใครติดต่อมาก็ไม่ปล่อยนะคะ”
นอกจากนี้ยังมีแชตข้อความจากเพื่อนของหญิงที่ถูกจับตัวไป ถามว่าโมยังอยู่กับพี่เหรอ ซึ่งอีกฝ่ายตอบว่าครับ ไม่ทำร้ายร่างกาย ไม่ให้อดครับ ถ้าภายใน 5 วัน ญาติไม่ติดต่อมา เตรียมตัวหาร่างได้เลยครับ
ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังนายกิตติมา คำพิลัง อายุ 51 ปี พ่อน้องโม หรือนางสาวกิตติพร คำพิลัง อายุ 22 ปี ที่ถูกลักพาตัว ทราบว่า เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา น้องโมออกไปรับยาให้ลูกสาววัย 9 เดือนที่โรงพยาบาล ตกเย็นก็ใช้เบอร์คนอื่นโทรมาบอกว่ามือถือหาย ก่อนจะหายตัวไป และมีข้อความเข้ามาในเฟซบุ๊กลูกสาวว่าถูกจับตัวไป เพราะติดสินบนไว้เมื่อ 2 ปีก่อน และครั้งล่าสุดเย็นวานนี้ (5 ส.ค.) น้องโมโทรหาแม่ร้องไห้ เล่าทำนองว่าได้เซ็นสัญญาไปทำงานที่เขมร แต่ไม่ได้ไปทำเลยถูกจับตัว
ล่าสุดวันนี้ 6 ส.ค.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ทำการสอบปากคำนายกิตติมา คำพิลัง พ่อน้องโมได้เข้าพบตำรวจชุดสืบสวน
นายกิตติมา กล่าวหลังจากที่ตนเองได้เข้าปากคำกับทางตำรวจ พร้อมกับนำแชตข้อความที่ลูกสาวตนเองได้ส่งข้อความมาให้ ทำให้แน่ใจว่าลูกสาวของตนเองได้ตกเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์รูปแบบใหม่ เพราะที่ผ่านมาลูกสาวตนเองก็ไม่มีอะไรที่ผิดสังเกต โดยจะทำงานเสร็จแล้วก็กลับมาบ้านเลี้ยงลูก เมื่อก่อนเคยทำงานเป็นแอดมินของกลุ่มขายสินค้าออนไลน์ แต่ก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร มีเพียงเรื่องที่หากลูกสาวจะลาออกจากการเป็นแอดมิน จะต้องหาคนมาทำงานแทนให้ได้ก่อน ถ้าไม่อย่างนั้นจะต้องเสียเงินค่าประกันตำแหน่งจำนวน 40,000 บาท แต่สุดท้ายก็ลาออกมา หลังจากที่มีคนเข้ามาทานแทน
ขณะที่รถจักรยานยนต์ของลูกสาวที่ขี่ไปรับยา ก็ไม่พบที่โรงพยาบาลขอนแก่น คาดว่าลูกสาวจะขี่ไปด้วยและอยู่ที่ใดที่หนึ่งแน่นอน ตนเองจะไม่โอนเงินจำนวน 30,000 บาท ให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์แน่นนอน อยากให้ลูกสาวตั้งสติให้ดีแล้วติดต่อกลับมาหาตนเองหรือเข้าพบกับทางตำรวจ
ด้านนายพัฒนพงศ์ นิลเกตุ อายุ 23 ปี สามีของน้องโม เล่าว่า ตนเองเพิ่งอยู่กินฉันท์สามีภรรยากับน้องโมได้ไม่ถึง 1 ปี และเพิ่งมีลูกด้วยกัน 1 คน ตลอดเวลาที่คบหาอยู่กินด้วยกัน น้องโมไม่เคยเล่าเรื่องปัญหาขัดแย้งกับใคร หรือเรื่องติดหนี้ติดสินบนใครให้ฟัง ก็ใช้ชีวิตทำงานหาเงินตามปกติ ช่วงที่อยู่ด้วยกันก็ไม่เคยมีคนแปลกหน้ามาหา ตนเองจึงไม่รู้ว่าการถูกคนร้ายลักพาตัวไปนั้นเกิดจากสาเหตุอะไร และไม่รู้ว่ากลุ่มคนร้ายเป็นใคร ซึ่งตอนนี้เป็นห่วงภรรยามาก อยากให้กลับมาบ้านด้วยความปลอดภัยเพราะตอนนี้ลูกก็ยังเล็ก
ขณะที่ตำรวจชุดสืบสวนได้กระจายกำลังออกติดตามหานางสาวโมแล้วคาดว่าจะพักในห้องพักรายวันหรือรีสอร์ตภายในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นเพียงลำพัง.
Advertisement