โคราชวิกฤต จะหมดฤดูฝนแล้ว ปริมาณน้ำในเขื่อนและอ่างเก็บน้ำ รวมทั้งจังหวัดเหลือเพียง 35% หวั่นกระทบต่อน้ำผลิตประปา
วันนี้ (1 กันยายน 2567) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและขนาดใหญ่ รวม 28 แห่ง ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา
ล่าสุดวันนี้มีปริมาณน้ำกักเก็บเหลือรวมเพียงแค่ 38.43% และน้ำที่ใช้การได้เพียง 35.09% เท่านั้น แม้ว่าช่วงนี้จะถึงช่วงใกล้ปลายฤดูฝนแล้วก็ตาม แต่ปรากฏว่าปริมาณฝนที่ตกลงมาในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ยังมีน้อยมาก ส่งผลให้ปริมาณน้ำที่ไหลลงอ่างเก็บน้ำต่างๆ น้อยกว่าทุกปีที่ผ่านมา
โดยสำนักงานชลประทานจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า วันนี้ (1 ก.ย.67) อ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 24 แห่ง มีปริมาณน้ำกักเก็บเหลืออยู่ 138.660 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 41.35 ของความจุกักเก็บทั้งหมด 335.33 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะที่อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 4 แห่ง มีปริมาณน้ำกักเก็บเหลือรวม 330.506 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 37.32 ของความจุกักเก็บรวม 885.49 ล้านลูกบาศก์เมตร
โดยแบ่งเป็น 1.อ่างเก็บน้ำลำตะคอง อ.สีคิ้ว มีปริมาณน้ำกักเก็บเหลืออยู่ 89.244 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 28.38 ของความจุกักเก็บทั้งหมด 314.49 ล้านลูกบาศก์เมตร
2.อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย มีปริมาณน้ำกักเก็บเหลืออยู่ 59.729 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 38.53 ของความจุกักเก็บทั้งหมด 155 ล้านลูกบาศก์เมตร
3.อ่างเก็บน้ำมูลบน อ.ครบุรี มีปริมาณน้ำกักเก็บเหลืออยู่ 65.258 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 46.28 ของความจุกักเก็บทั้งหมด 141 ล้านลูกบาศก์เมตร
และ 4.อ่างเก็บน้ำลำแชะ อ.ครบุรี มีปริมาณน้ำกักเก็บเหลืออยู่ 116.275 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 42.28 ของความจุกักเก็บทั้งหมด 275 ล้านลูกบาศก์เมตร
ซึ่งขณะนี้ถือว่าสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำต่างๆ ของ จ.นครราชสีมา อยู่ในช่วงวิกฤต ทำให้ท้องถิ่นและชุมชนหลายพื้นที่ต้องมีการวางแผนหาแหล่งน้ำสำรองไว้สำหรับใช้ในการอุปโภคบริโภค เพื่อป้องกันปัญหาขาดแคลนน้ำในช่วงหน้าแล้งที่จะถึงนี้.
Advertisement