"จิราพร" เผย สคบ. ส่งตัวอย่างทองร้าน "แม่ตั๊ก" ตรวจที่สถาบันอัญมณีแล้ว พบสลากทองไม่ถูกกฎหมาย จ่อตั้งข้อหาเพิ่ม
นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึง กรณีการตรวจสอบร้านขายทองออนไลน์ ห้างเพชรทองเคทูเอ็น ถนนหทัยราษฎร์ ของแม่ตั๊ก-กรกนก ว่า จากเดิมสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ให้มาชี้แจงแล้วภายในวันพรุ่งนี้ (4 ต.ค.) ขณะนี้เข้ากระบวนการสืบสวนของตำรวจแล้ว สคบ. มีหน้าที่เป็นพยานในการนำพยานหลักฐานต่าง ๆ ให้ตำรวจ ซึ่ง สคบ. ได้ส่งตัวอย่างทองทั้งหมด 6 ตัวอย่าง ไปตรวจสอบที่สถาบันอัญมณี ซึ่งได้ตรวจทั้ง 2 แบบ คือ แบบเอกซเรย์และแบบเผา
ทั้งนี้ จากที่ สคบ.ลงไปตรวจร้านดังกล่าว พบว่า สลากร้านทองร้านดังกล่าวไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ก็จะส่งข้อมูลให้ตำรวจ เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ขณะเดียวกันร้านขายทองไม่ได้มีการจดทะเบียนออนไลน์แบบขายตรง แต่ว่าขายออนไลน์ ซึ่งก็จะต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงวิธีการต่าง ๆ หากผิดก็จะส่งให้ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.)ต่อไป
ขณะเดียวกัน เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เชิญ เลขาฯ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อติดตามเรื่องว่าเข้าสู่กระบวนการแล้วหรือไม่ ซึ่งได้รับรายงานว่า ตำรวจ ปคบ. ได้ส่งข้อมูลที่เป็นมูลฐานความผิดฉ้อโกงไปยัง ปปง. แล้ว ซึ่งจะมีการประชุม คณะกรรมการธุรกรรม ในวันนี้ 17 ตุลาคมนี้ จะเป็นการสอบสวนในเชิงลึก และพิจารณาดูว่าจะมีมติให้ยึดทรัพย์และอายัดทรัพย์หรือไม่ หากมีมติให้อายัดทรัพย์ ก็จะมีขั้นตอนในการคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายต่อไป
นางสาวจิราพร ระบุว่าจากเคสนี้จะมีการขยายผลตรวจสอบร้านค้าขายทองออนไลน์อื่น ๆ ต่อไป โดยจะเป็นการทำงานบูรณาการร่วมกัน รวมถึงอินฟลูเอ็นเซอร์และดาราดังที่เข้ามาร่วมขายของด้วย ซึ่ง สคบ.มีกฎหมายเกี่ยวกับโฆษณาที่สามารถตรวจสอบได้ โดยทุกคนยินดีทำงานร่วมกันที่จะเร่งตรวจสอบการใช้อินฟลูเอนเซอร์และดาราดัง เข้ามาสร้างความน่าเชื่อถือและจงใจให้มีการซื้อสินค้า
เมื่อถามว่าการอายัดทรัพย์สินทำไมไม่ดำเนินการทันที นางสาวจิราพร กล่าวว่า วันนั้นมีการหารือกับ ปปง.และสคบ.มีการประสานงานกับตำรวจเฝ้าระวังทรัพย์สินของผู้ประกอบการร้านทองไว้อยู่แล้ว รวมถึงดูการเคลื่อนไหว หากผิดปกติจะอายัดทรัพย์ไว้ก่อน จากการตรวจสอบเบื้องต้น ยังไม่พบความเคลื่อนไหวของบัญชี ซึ่งประเด็นนี้ตนเองให้ความสนใจ และมีความกังวล ได้กำชับเจ้าหน้าที่ว่าต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด
Advertisement