จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอศาลอาญาคดีทุจริต และประพฤติชอบกลาง ออกหมายจับ น.ส. กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ หรือ พัช ประธานอำนวยการศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่าย-ออนไลน์ ในการเรียกรับเงินจากผู้ต้องหาในคดีบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด จำนวน 8.3 ล้านบาทนั้น ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
วันที่ 16 พ.ย. 67 รายงานข่าวแจ้งว่า มูลเหตุสำคัญที่นำมาสู่การออกหมายจับ และเข้าจับกุม น.ส.กฤษอนงค์นั้น เนื่องจากพบหลักฐานเป็นเส้นทางการเงิน ที่ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล โอนเข้าบัญชีของ มูลนิธิต่อต้านโกง-แชร์ลูกโซ่ "กฤษอนงค์ต้านโกง" จำนวน 4.5 แสนบาท รวมถึงเงินสดที่บอสพอลนำไปมอบให้อีกจำนวน 3 แสนบาท
สอดคล้องกับคำให้การของพยานบุคคลต่างๆ ที่ให้การไปในทิศทางเดียวกันว่า หลังมีการเปิดโปงธุรกิจเครือข่ายดิไอคอน จนเป็นข่าวดังขึ้นมา น.ส.กฤษอนงค์ ได้เข้าไปพูดคุยกับบอสพอล และคนใกล้ชิด เพื่อขอเรียกเงินจำนวน 7.5 แสนบาท แลกกับการไม่พาผู้เสียหายไปแจ้งความร้องทุกข์เพิ่ม หรือไม่เปิดโปงเรื่องราวให้บริษัทเสียหายไปมากกว่านี้ พร้อมทั้งพยายามพูดปลอบประโลมให้คำแนะนำทางคดีต่างๆ จนบอสพอล ต้องจำยอมจ่ายเงินรวมจำนวน 7.5 แสนบาทให้ตามที่ น.ส.กฤษอนงค์ เรียกร้อง
นอกจากนี้ฝั่งบอสคดีดิไอคอน รวมถึงพยานบุคคลต่างๆ ยังให้การสอดคล้องกันว่า ตัว น.ส.กฤษอนงค์ ยังมีการพูดแอบอ้างเรียกเงินบางส่วนเพิ่มอ้างว่าจะนำไปมอบให้กับเจ้าหน้าที่ หรือ ผู้หลักผู้ใหญ่ สอดคล้องกับหลักฐานจนเป็นเหตุให้มีการออกหมายจับ
จากแนวทางสืบสวนเจ้าหน้าที่ยังทราบอีกว่า แม้ น.ส.กฤษอนงค์ จะมีส่วนสำคัญในการเป็นตัวกลางเจรจากับบอสพอล จนทำให้ บอสพอลยอมจ่ายเงินชดใช้คืนให้กลุ่มผู้เสียหายจำนวน 10 ล้านบาท แต่ภายหลังกลับพบว่า น.ส.กฤษอนงค์ นั้น กลับไปเรียกเก็บเงินคืนจากผู้เสียหายคิดเป็นเงินร้อยละ 20 ของเงินที่ผู้เสียหายได้กลับคืนอีกด้วย
Advertisement