ไขข้อสงสัยทำไม กทม. ปรับอัตราค่าธรรมเนียมเก็บขยะใหม่เป็น 60 บาท แต่ถ้าอยากจ่ายแค่ 20 บาท ต้องทำอย่างไร มีคำตอบ
เคยสงสัยหรือไม่ว่าทำไม กทม.ถึงจะต้องมีการปรับอัตราค่าธรรมเนียมเก็บขยะใหม่เป็น 60 บาท ทั้งนี้ การปรับค่าธรรมเนียมใหม่จะใช้เฉพาะบ้านที่ไม่คัดแยกขยะเท่านั้น สำหรับบ้านที่มีขยะไม่เกิน 20 ลิตร/วัน หรือไม่เกิน 4 กก./วัน และมีการคัดแยกขยะ ยังเก็บ 20 บาท เท่าเดิม
การปรับอัตราค่าขยะใหม่นี้ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการลดและคัดแยกขยะอย่างจริงจัง และมุ่งหวังให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความสะอาดและการจัดการสิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆ กัน
ปัจจุบัน กทม. รับภาระจัดการขยะในปริมาณสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในแต่ละวันต้องจัดการขยะเฉลี่ยเกือบหมื่นตัน ซึ่งมีใช้ค่าใช้จ่ายในการจัดการขยะอยู่ที่ประมาณ 2,300 บาท/ตัน เมื่อปริมาณขยะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ การแยกขยะจึงเป็นอีกแนวทางสำคัญที่จะช่วยลดภาระในด้านการจัดการขยะ โดยข้อบัญญัติฯ ค่าธรรมเนียมขยะฉบับใหม่ จะมีผลบังคับใช้ในอีก 180 วัน หลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งคาดว่าประมาณเดือนมิถุนายน 2568
ค่าธรรมเนียมขยะอัตราใหม่ สำหรับบ้านพักอาศัยทั่วไปที่มีขยะไม่เกิน 20 ลิตร/วัน (หรือประมาณ 4 กก./วัน) แบ่งเป็น 2 กรณี คือ
• กรณีบ้านที่ไม่คัดแยกขยะ
จะมีค่าธรรมเนียมขยะ 60 บาท/เดือน (แบ่งเป็น ค่าเก็บขนขยะ 30 บาท + ค่ากำจัดขยะ 30 บาท)
• กรณีบ้านที่คัดแยกขยะ
- จะมีค่าธรรมเนียมขยะเพียง 20 บาท/เดือน เท่าเดิม (แบ่งเป็น ค่าเก็บขนขยะ 10 บาท + ค่ากำจัดขยะ 10 บาท)
***ต้องลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการและปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด***
สำหรับการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ในเบื้องต้นจะเป็นการลงทะเบียนทางแอปพลิเคชัน BKK Waste Pay และจะต้องมีการส่งหลักฐานการคัดแยกขยะผ่านแอปพลิเคชันดังกล่าวอย่างสม่ำเสมอ
สำหรับประโยชน์ของการปรับอัตราค่าธรรมเนียม คือ
- ลดปริมาณขยะในพื้นที่กรุงเทพฯ
- พัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการขยะทั้งระบบ
- พัฒนาคุณภาพชีวิตคนกรุงเทพฯ
- ลดการสร้างก๊าซเรือนกระจก
Advertisement