จากกรณีที่ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตลิ่งชัน พิพากษา ศ.ดร.พิรงรอง รามสูต กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านกิจการโทรทัศน์ มีความผิด ม.157 สั่งจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญาฯ คดี "ทรูไอดี" ยื่นฟ้องออกหนังสือเตือนทีวีดิจิทัล มีโฆษณาแทรกในสัญญาณที่นำไปออก ผิดกฎ “Must Carry” ที่มีโฆษณาแทรกไม่ได้ ชี้มีเจตนากลั่นแกล้งโจทก์ให้ได้รับความเสียหาย
ประวัติ ศ.ดร.พิรงรอง รามสูต กรรมการ กสทช.ด้านกิจการโทรทัศน์
ศ.ดร.พิรงรอง รามสูต เกิดเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2510 ปัจจุบันอายุ 57 ปี เป็นบุตรสาวของศาสตราจารย์พิเศษ นายแพทย์ ธีระ รามสูต อดีตอธิบดีกรมควบคุมโรค และ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.พันธุ์ทิพย์ รามสูต (ข้าราชการบํานาญ) มีพี่น้องทั้งหมด 3 คน ได้แก่ พี่ชายคนโต คือ ศาสตราจารย์ ดร.พงษ์ราม รามสูต หัวหน้าภาควิชาเวชศาสตร์สังคมและสิ่งแวดล้อม และหัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศทางแอนติบอดี้คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล และ นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติปี 2563 ส่วนพี่ชายคนกลาง คือ นายแพทย์พชร รามสูต แพทย์อิสระด้านโรคผิวหนังและเลเซอร์ผิวหนัง
ศ.ดร.พิรงรอง จบการศึกษาจากเตรียมอุดมศึกษา จากนั้นศึกษาต่อที่คณะอักษรศาสตร์ ได้รับเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รวมทั้งได้รับมอบหมายให้เป็นผู้อัญเชิญพระเกี้ยวในงานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ ก่อนสำเร็จปริญญาโท M.A. (Communication) University of Hawaii at Manoa ประเทศสหรัฐอเมริกา และปริญญาเอก Ph.D. (Communication) Simon Fraser University ประเทศแคนาดา
เส้นทางการทำงานของ ศ.ดร.พิรงรอง รามสูต
พิรงรอง รามสูต เริ่มต้นทำงานเป็นนักข่าวและผู้เรียบเรียงข่าวของ หนังสือพิมพ์ The Nation ก่อนจะลัดฟ้าไปศึกษาต่อแล้วกลับมาเข้าทำงานในตำแหน่ง อาจารย์ประจําภาควิชาวารสารสนเทศ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในปี 2535 ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจ ทำให้ได้รับการแต่งตั้งเป็นรองอธิการบดีด้านการสื่อสารบริการสังคมและพันธกิจสากล ตำแหน่งบริหารจุฬาลงกรณ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในปี 2559-2563 โดยมีส่วนสำคัญในการกำหนดนโยบายสื่อในระดับประเทศและนานาชาติและการผลักดันนโยบายสาธารณะที่เกี่ยวกับการกำกับดูแลสื่อและเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างต่อเนื่อง
ต่อมาได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านกิจการโทรทัศน์ โดยมีผลงานโดดเด่นหลายด้าน แต่ที่ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนและสังคมคือ การเป็นเสียงส่วนน้อยในการคัดค้านการควบรวมกิจการของ "ทรู-ดีแทค" เพราะเห็นว่ากรณีนี้เป็นการถือครองธุรกิจประเภทเดียวกัน ซึ่งสามารถส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางในตลาดบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในแง่การลดหรือจำกัดการแข่งขัน การคุ้มครองผู้บริโภค และการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ทั้งนี้ โดยอาศัยอำนาจตามข้อ 8 ของประกาศ กทช. เรื่องมาตรการเพื่อป้องกันมิให้มีการกระทำอันเป็นการผูกขาดหรือก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในการแข่งขันในกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2549 และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ ยังทำระบบ Social Credit มอนิเตอร์เนื้อหาทั้งคอนเทนต์ที่เป็นปัญหา เช่น เรื่องโป๊เปลือย เซ็กซ์ โฆษณาแฝง รวมถึงมอนิเตอร์เนื้อหาเชิงบวกที่ส่งเสริมกลุ่มเป้าหมายที่อาจถูกมองข้าม เช่น เด็กและเยาวชน ผู้สูงอายุ กลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่ม LGBTQ ถ้าใครทำเนื้อหาเหล่านี้จะได้คะแนนเพิ่ม ซึ่งช่วยให้ผู้ผลิตสื่อระมัดระวังในการนำเสนอ และเป็นแรงจูงใจให้ผลิตคอนเทนต์ดีๆ ออกมาเพื่อให้ได้รับ Social Credit ที่ดีตามไปด้วย
ล่าสุด ศ.ดร.พิรงรอง รามสูต ถูกศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตลิ่งชัน สั่งจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ฐานมีความผิด ม.157 โดยชี้ว่ามีเจตนากลั่นแกล้งโจทก์ให้ได้รับความเสียหาย หลังจากที่ "ทรูไอดี" เป็นโจทก์ยื่นฟ้องกรณีออกหนังสือเตือนทีวีดิจิทัล มีโฆษณาแทรกในสัญญาณที่นำไปออก ผิดกฎ “Must Carry” ที่มีโฆษณาแทรกไม่ได้ โดยศาลอนุญาตให้ ศ.ดร.พิรงรอง ประกันตัวได้ โดยมีเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ทำให้ไม่มีผลกระทบต่อตำแหน่ง กสทช.
Advertisement