Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
บารมีพ่อหรือจะสู้มานะตน เสี่ยโบ๊ท เด็กเกเรเรียนไม่จบสู่กัปตันเพชรยินดี

บารมีพ่อหรือจะสู้มานะตน เสี่ยโบ๊ท เด็กเกเรเรียนไม่จบสู่กัปตันเพชรยินดี

6 ธ.ค. 67
00:00 น.
|
850
แชร์

บารมีพ่อหรือจะสู้มานะตน "เสี่ยโบ๊ท เพชรยินดี" จากเด็กเกเรเรียนไม่จบสู่การขึ้นเป็นโปรโมเตอร์มวยอายุน้อยที่สุด ลั่นถ้าเป็นคนใช่ไม่ได้ เฮงซวย ก็เดินเส้นทางนี้ไม่ได้

เสี่ยโบ๊ท...ชื่อเรียกนี้มีที่มา

ชื่อเรียก "เสี่ยโบ๊ท" เป็นวัฒนธรรมของวงการมวย ซึ่งผมเกิดมาก็เป็นเสี่ยแล้ว ด้วยความที่คนที่เป็นโปรโมเตอร์มวยในยุคก่อน ส่วนใหญ่เขาจะเป็นเสี่ยเรียกกันว่าเสี่ย อย่างพ่อผมก็เสี่ยเน้า พี่ชายผมก็เสี่ยตังค์ แต่จริงๆ ไม่ได้มาจากฐานะความร่ำรวยนะ มันเป็นการยกย่องให้เกียรติกัน

ชีวิตที่เติบโตมาในสนามมวย

ผมเติบโตมาในครอบครัวที่อยู่ในวงการมวย กิจวัตรประจำวันจะคุ้นเคยกับการได้เจอกับนักมวย เข้าสนามมวย มาค่ายมวย เป็นเรื่องปกติชีวิตธรรมดาของเรา ซึ่งมันอาจจะแตกต่างกับชีวิตเด็กคนอื่น ด้วยความที่อาชีพของคุณพ่อเป็นอาชีพที่มีเอกลักษณ์ เพราะมีแค่ไม่กี่คนในประเทศนี้ที่เป็นโปรโมเตอร์มวย และใช้อาชีพนี้ในการเลี้ยงดูคนในครอบครัวตั้งแต่เล็กยันโต สำหรับเราเป็นเรื่องปกติ ตอนเช้าไปโรงเรียน ตอนเย็นกลับมาเข้าค่ายมวย ค่ายมวยเสร็จไปสนามมวย เป็นแบบนี้ตั้งแต่เล็กยันโตเลย

ผมเองผมเคยอยากชกนะ เคยขอคุณพ่อชกครั้งหนึ่งตอนนั้นที่มีนักมวยญี่ปุ่นเขาเดินทางมาซ้อมที่ประเทศไทย แล้วหาคู่ชก เราก็ขอลองขึ้นไปชกด้วยได้ไหม แต่พ่อไม่ให้ชก (หัวเราะ)

เกเร..เรียนไม่จบ แต่ต้องขึ้นมาเป็นโปรโมเตอร์มวยที่อายุน้อย เพราะอยากมีเงิน

ผมกลับมาจากเมลเบิร์นเพราะไปเรียนต่อตอนมัธยมปลาย แล้วเรียนไม่จบเพราะเกเร เขาส่งกลับมาเพราะไปตั้งแก๊งอยู่ที่เมลเบิร์น ทางโรงเรียนบอกว่ามานี่ไม่เรียนหนังสือก็กลับประเทศคุณซะ ผมก็กลับมา ตอนกลับมาก็ยังไม่มีวุฒิ ม.6 พ่อก็จะให้ไปเรียนอีกโรงเรียนหนึ่งที่เราไม่เคยเรียนมาก่อน แต่ต้องไปซ้ำชั้น ม.3 ใหม่ ซึ่งผมก็ไม่ยอมไป เพราะผมคิดว่าถ้าไปผมจะกลายเป็นลูกไล่เป็นเด็กโข่งเป็นตัวตลก ก็เลยหาวิธีการของตัวเอง แล้วก็ค้นพบว่ามีการเรียนแบบ GED ที่เหมือน กศน. บ้านเราแต่เป็นของอเมริกา ผมก็ไปเรียนอยู่ปีนึง เรียนไปด้วยเที่ยวเล่นไปด้วยวันๆ นึงไม่ได้ทำอะไรแล้วก็ขอตังค์พ่อบ่อย

จนวันหนึ่งพ่อบอกกับผมว่า "มึงกลับมาไหม มึงดีแต่ผลาญเงินนะ" มันกลายเป็นคำพูดที่เป็นปมในใจว่าเราขอตังค์เขาไม่ได้แล้ว ต้องหางานทำ แต่ก็ไม่รู้จะทำอะไร ก็มีอาชีพเดียวของที่บ้านที่น่าจะรองรับก็ได้คือการเป็นโปรโมเตอร์มวย ตอนนั้นผมอายุแค่ 18 เอง อาชีพที่ใกล้ตัวแล้วหาเงินได้เร็วที่สุดเยอะที่สุดก็คือการเป็นโปรโมเตอร์มวย

จริงๆ สนใจมาตลอดนะ แต่ก็ไม่คิดว่าจะได้ทำเพราะยังเด็ก ส่วนใหญ่โปรโมเตอร์มวยเขาต้องอายุ 40-50 ขึ้นไป ไม่มีรุ่นเด็กๆ เพราะเด็กเขาก็ไม่ยอมรับ การเป็นโปรโมเตอร์ได้คุณต้องมีบารมี มีเงินพอสมควรที่จะดูแลคนได้ แต่เรายังไม่มีอะไรเลย เพราะฉะนั้นมันไม่มีใครมาเชื่อเด็กอายุ 18 หรอก แต่ด้วยความที่เราอยากมีตังค์ก็เลยไปขอพ่อจัดมวยในฐานะผู้ช่วยโปรโมเตอร์ พ่อก็ให้จัด ปรากฏว่าวันแรกที่จัดมันดันประสบความสำเร็จ

เก็บได้ 1.7 ล้าน ได้ส่วนแบ่งมาประมาณ 2 แสนบาทในตอนนั้น เด็ก 18 ได้เงินแบ่งมา 2 แสน มันเรื่องใหญ่นะ ก็เลยคิดว่าตัวเองมาถูกทางแล้ว เจอหนทางของตัวเองแล้วเลยตัดสินใจว่านี่แหละคืออาชีพที่เราต้องการ

ลบข้อครหา มาถึงวันนี้ได้เพราะพ่อ

ข้อครหาจะเป็นในมุมที่ว่าพ่อบังคับผมมาทำ อยากจะให้ลูกสืบสานงานต่อ ไม่รู้เรื่องอะไรหรอก พ่อก็แค่เอาชื่อของเรามาใส่ ที่เหลือก็มีคนทำงานให้หมด เหมือนเราไม่ได้ใช้ฝีมือของตัวเราเอง แต่วันนั้นก็จริงอย่างที่เขาคิด ก็เราอายุ 18 มันจะเก่ง 100% ก็เป็นไปไม่ได้ใช่ไหมครับ เราก็แค่คนที่เข้าไปทำงานแต่เราใช้วิธีการที่มันฉีกแนวจากคนอื่นเขาที่เขาไม่ทำกันอยู่ วันที่ผมจัดวันแรกผมเอามวยเด็กๆ รุ่นใหม่วัยรุ่นเด็กที่มีอนาคตแต่เป็นรุ่นเล็ก เอามาต่อยกัน แต่ที่คนเยอะเพราะผมจัดเดิมพันทุกคู่

สมมติแดงมาจากขอนแก่น น้ำเงินมาจากโคราช แดงต้องมีเงินมาวางเดิมพันเอาไว้ก่อนเลยขั้นต่ำ 3 แสน คือเงินที่เขารวมกันมาทั้งหมู่บ้าน แล้วคนทั้งหมู่บ้านก็ต้องมาเชียร์คนขอนแก่นคนนี้ โคราชก็เหมือนกัน นั่นเลยเป็นเหตุผลว่าทำไมคนเต็มสนามมวย มันเป็นข้อบังคับของผมที่ตั้งกติกาว่า ถ้ารายการนี้ใครอยากจะชกต้องเดิมพัน ไม่เดิมพันผมไม่ให้ชก มันก็เลยทำให้รายการเล็กๆ กลายเป็นคนเยอะขึ้นมา ถ้าปกติรายการแบบนี้เขาเก็บกันได้ไม่เกิน 7-8 แสนแต่ว่าผมใช้วิธีการแบบนี้มันก็เลยทะลุไป 1.7 ล้าน

ตอนอายุ 25 เองครับ ก็ถือว่าใช้เวลาสั่งสมประสบการณ์พอสมควร เป็นโปรโมเตอร์ที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของวงการมวย

เขายอมรับไหมก็ไม่แน่ใจ วันนั้นผมไม่กล้าพูดอย่างเต็มปากเต็มคำว่าเขายอมรับไหม แต่ที่ผ่านมาผมก็ทำยอดทำสถิติมาตลอดนะ ในช่วงเวลาก่อนที่จะเป็นโปรโมเตอร์ ผมก็จัดรายการมวยใหญ่ๆ หลายรายการ ผมจัดรายการมวยเก็บราคาถูก 180 บาท ผมก็เคยจัด มันมีโปรเจกต์ที่ทำมาเรื่อยๆ ก็เหมือนเป็นการสะสมประสบการณ์ จนวันแรกที่ผมมาจัดตอนอายุ 25 ผมจัดแล้วปิดสนามมวยคือวันที่สมรักษ์ คำสิงห์ ต่อยกับ จอมโหด (เกียรติอดิศักดิ์)

แล้วเราก็ทำมาเรื่อยๆ จนอายุ 27-28 พ่อก็ประกาศลาออกจากการเป็นโปรโมเตอร์ ผมก็เคว้ง เพราะวันที่พอลาออก มวยในสังกัดของพ่อเลิกตามพ่อหมดเลย ด้วยอายุของเขาถึงวัยจะปลดเกษียณเนอะ มวยเอกๆ ในสังกัดเลิกไม่เท่าไร ค่ายมวยที่เคยอยู่กับพ่อย้ายหนีหมดเลย ก็เลยไม่มีมวยจัด

ไม่รู้จะทำอย่างไรเลยตอนนั้น ก็พยายามหลายวิธี ไปขอมวยเขามาจัดมั้งแต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้ เขาจะให้หรือไม่ให้มันเป็นสิทธิ์ของเขา เราก็ต้องใช้ความดิ้นรนความพยายาม อยากจัดมวยดีๆ แต่มันไม่ใช่ของเราเองก็ต้องกัดฟันอดทน ตั้งหน้าตั้งตาสร้างมวยขึ้นมา สร้างใหม่รื้อระบบกันใหม่

บารมีพ่อหรือจะสู้มานะตน

วันนั้นคือวันที่ต้องพิสูจน์ตัวเอง เพราะเหตุผลที่เขาย้ายจากเราไปเพราะเขาไม่เชื่อมั่นในตัวเรา เราอายุ 25 มาเป็นหัวหน้าเขา เขาจะเคารพเราไหม มันยากนะ เขาอาจจะเคารพพ่อเราจริง แต่ตัวเราเองในเมื่อพ่อลาออกแล้ว เขาจะเชื่อมั่นในตัวเราไหม บารมีก็ยังน้อย ที่ผ่านมาเราทำได้ก็จริงแต่ก็ต้องยอมรับความจริงว่าเราใช้บารมีของพ่อในการช่วย มันไม่ใช่ตัวเรา 100 % พูดได้เต็มปาก เราไม่ได้อายใคร พ่อผมเป็นคนปูเส้นทางให้ผม แต่ถ้าเกิดผมเป็นคนใช้ไม่ได้ เฮงซวย ผมก็เดินเส้นทางนี้ไม่ได้ พ่อปูให้แล้วเราก็ต้องพยายามทำให้ดีกว่าพ่อเท่านั้นเอง

"เพชรยินดี อะคาเดมี่" มาตรฐานใหม่วงการมวยไทย

ก้าวแรกที่ผมเข้ามาทำงานในฐานะของคนในวงการมวย ปณิธานสำคัญที่สุดของผมก็คือ เปลี่ยนแปลงวงการมวย ผมต้องเปลี่ยนแปลงวงการมวยให้ได้ ผมเห็นมูลค่าของมวยไทยมันยิ่งใหญ่มาก ผมไปเรียนต่างประเทศมาผมยิ่งรู้ว่าต่างชาติเขามองมวยไทยเป็นของล้ำค่า โคตรเจ๋ง เป็นสิ่งที่เป็นมรดกโลก มีมูลค่าที่ประเมินค่าไม่ได้ แต่สภาพที่ผมเห็นอยู่ในประเทศของเราคือ ค่ายมวยสังกะสี กลิ่นน้ำมันมวยเน่าๆ เหม็นๆ กลิ่นอับ สกปรก พื้นปูน มันไม่น่าที่จะเข้ามาเรียนรู้ ความประทับใจแรกคุณก็ไม่ได้แล้ว สิ่งที่ผมอยากเปลี่ยนแปลงคือผมอยากห่อแพ็คเกจใหม่ให้กับมวยไทย เลยตัดสินใจว่าจะเริ่มทำจากค่ายมวยของผมก่อน

ที่ตรงนี้เป็นค่ายมวยเก่าตั้งแต่รุ่นพ่อของผม ตอนนั้นน้ำท่วมก็เลยคุยกับพ่อว่าถ้ามันจะต้องรีโนเวทค่ายแล้ว รื้อทำใหม่เลยดีกว่าทำให้มันดีเลย แล้วพ่อผมไม่เคยขัด สนับสนุนตลอด พ่อก็บอกเอาสิทำเลย แต่ทำแล้วต้องทำให้มันดีนะ ถ้าทำไม่ดีอย่าทำ ลงทุนแล้วเอาทีเดียวให้มันจบ เอาให้สุดไปเลย ก็เลยซื้อที่สองข้างประกบจาก 100 ตารางวา ก็เป็นไร่ครึ่ง แล้วก็ตั้งใจว่าจะทำเป็นสปอร์ตคอมเพล็กซ์

คือเป็นที่ๆ รองรับทุกอย่างเกี่ยวกับมวยไทย ออฟฟิศก็อยู่ที่นี่ ค่ายมวยก็อยู่ที่นี่ ต่างชาติที่มาเรียนมวยไทยก็มาพักที่นี่ โดยที่เราทำเป็นโรงแรมมีห้องพักทั้งหมด 24 ห้อง สำหรับชาวต่างชาติ มีฟิตเนส ชั้นบนสุดจะเป็นที่พักของนักมวยไทย ตัวชั้นสองจะเป็นลานมวย เป็นค่ายมวย ส่วนชั้นล่างก็จะเป็นล็อบบี้เอาไว้ดูแลแขก ก็พยายามทำให้มันออกมาให้มันดีที่สุดเท่าที่กำลังเราจะทำได้ จริงๆ คิดไว้มากกว่านี้นะแต่เงินหมดก่อน แต่ทั้งหมดจนเสร็จสิ้นก็ประมาณร่วมร้อยล้านครับ

ครอบครัวเปิดโอกาสให้ทำอย่างเต็มที่ เพื่อจะได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง

คนเราทุกคนสุดท้ายแล้วมันไม่มีใครที่ดีร้อยเปอร์เซ็นต์หรอก แม้กระทั่งตัวพ่อผมเอง ทุกคนมีข้อดีข้อเสีย เราเคยเห็นพ่อทำงานมาแบบนี้ พ่อเขามีข้อดีแน่นอนเขาถึงมาได้ขนาดนี้ แต่ข้อเสียในตัวพ่อเขาก็มี ซึ่งเราก็มองเห็น เพราะเราเป็นลูก เราก็ต้องเอามาประยุกต์เข้ากับสิ่งที่มันเพอร์เฟกต์ สิ่งใหม่ แนวคิดที่มันนอกกรอบ อะไรที่พ่อเขาไม่เคยทำแล้วเรากล้าที่จะทำ

แต่ผมโชคดีอย่างหนึ่งตรงที่ครอบครัวผมเป็นครอบครัวที่ไม่เคยปิดกั้น เวลาปล่อยให้ผมทำงานอะไรก็แล้วแต่จะไม่เคยสั่งเบรกผมเลย ให้ผมลองจนสุดทาง ดีหรือไม่ดีค่อยมาคุยกันทีหลัง เหมือนเป็นการให้เกียรติซึ่งกันและกัน บ้านผมจะมีข้อดีตรงนี้ ทำให้ผมโตเร็วกว่าคนอื่นๆ เพราะว่าถ้าเป็นบ้านอื่นพอลูกจะทำอย่างนี้ก็เอ๊ะแล้ว ไม่ได้นะ อย่าทำแบบนี้นะ ทำแล้วไม่ดีนะ แต่พ่อผมถ้าทำแล้วไม่ดีจริง ขาดทุน พ่อผมปล่อยให้ขาดทุนเลยนะ ให้เรียนรู้เลยว่าการขาดทุนเพราะว่าเราผิดพลาดตรงนี้ เรียนรู้จากสถานการณ์จริง เพราะว่าถ้าเกิดเราไม่ได้เรียนรู้จริงๆ เราจะไม่รู้เลยว่าการแก้ไขมันคืออะไร

ผมเรียนรู้ตั้งแต่อายุ 18 จนถึงตอนนี้ผม 36-37 แล้ว เรียนรู้มาตลอด เราเลยเป็นเวอร์ชั่นคนอายุ 36 ที่เจอโลกมาค่อนข้างเยอะกว่าคนอื่น เพราะเราต้องปะทะกับคน ปะทะกับคนรุ่นพ่อผมมาโดยตลอด ต้องเจอคนประเภทที่เห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ เอาเปรียบคนอื่น รังแกคนอื่น เจอประเภทนักเลง มาเฟีย อันธพาล ผมเจอมาทุกรูปแบบแล้ว

จนตอนนี้ 36 แล้วมันก็เลยทำให้รู้สึกไม่ได้ตื่นเต้นกับเรื่องราวเหล่านี้ ถ้าเป็นภาษามวย เขาเรียกว่าการสร้างกระดูกมวย เลยสามารถจะเจอกับแรงปะทะได้โดยที่เราไม่ได้หวั่นอะไรครับ

Advertisement

แชร์
บารมีพ่อหรือจะสู้มานะตน เสี่ยโบ๊ท เด็กเกเรเรียนไม่จบสู่กัปตันเพชรยินดี