นิตยสาร Forbes เป็นนิตยสารเกี่ยวกับธุรกิจและการเงินในสหรัฐอเมริกา ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1917 โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมือง เจอร์ซีซิตี รัฐนิวเจอร์ซีย์
โดยนิตยสาร Forbes ยังตีพิมพ์เกี่ยวกับลำดับเศรษฐีของโลก ลำดับของดารา และลำดับบริษัทที่น่าสนใจในสหรัฐอเมริกา เป็นต้น และปัจจุบันมีฉบับภาษาไทยในชื่อ "Forbes Thailand"
ในปี 2023 ก็เช่นเดียวกัน นิตยสาร Forbes ได้มีการจัดอันดับมหาเศรษฐีในปี 2023 จำนวน 2,640 คนทั่วโลก
ปรากฏว่า บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกในปีนี้ คือ “เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์” ชาวฝรั่งเศส ด้วยทรัพย์สิน 7.1 ล้านล้านบาท มาจากธุรกิจสิ่งทอและสินค้าแฟชั่น หรือสินค้าลัคชูรี่ที่เรารู้จักกันดี เช่น แบรนด์หลุยส์วิตตอง หรือ แบรนด์คริสเตียน ดิออร์
ส่วนอันดับที่ 2 คงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก “อีลอน มัสก์” Iron Man เจ้าพ่อในอาณาจักร Tesla, Space X, Twitter ด้วยทรัพย์สิน 6.1 ล้านล้านบาท
ส่วนของประเทศไทยนั้น อันดับที่ 1 คือ เจ้าสัวแห่ง CP หรือ “ธนินท์ เจียรวนนท์” ยังคงเป็นเจ้าสัวอันดับ 1 และลำดับที่ 116 ของโลก ด้วยทรัพย์สิน 5.08เเสนล้านบาท
อันดับที่ 2 คุณ เจริญ สิริวัฒนภักดี หรือเจ้าของ Thai Bev ด้วยทรัพย์สิน 5.05เเสนล้านบาท
ทีม SPOTLIGHT ได้รวบรวม 5 อันดับมหาเศรษฐีระดับโลก และ 5 อันดับบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศไทย โดยวัดมูลค่าสินทรัพย์แบบเรียลไทม์ ในวันที่ 9 เม.ย.2566 เวลา 13.00 น.
5 อันดับมหาเศรษฐีระดับโลก
1.“เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ & ครอบครัว
สัญชาติ : ฝรั่งเศสฯ
อายุ : 74 ปี
ประเภทธุรกิจ : ธุรกิจสิ่งทอและสินค้าแฟชั่น
อาณาจักร : LVMH Moët Hennessy Louis Vuitton
สินทรัพย์ : 7.1 ล้านล้านบาท
เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ ชายผู้ที่คว้าตำแหน่งร่ำรวยที่สุดในโลก ในปี 2023 ด้วยตำแหน่งเป็นประธานของบริษัท LVMH ที่เป็นแบรนด์แฟชั่นลัคชูรี่ระดับโลก อย่าง Louis Vuitton, Christian Dior, Celine และอื่นๆ อีกมากมาย
โดยในปี 2022 บริษัท LVMH มีกำไรที่ 1.4 หมื่นล้านยูโร และยอดขายกว่า 7.9 หมื่นล้านยูโร
2.อีลอน มัสก์
สัญชาติ : สหรัฐฯ
อายุ : 51 ปี
ประเภทธุรกิจ : ธุรกิจยานยนต์
อาณาจักร : Tesla, SpaceX, Twitter, PayPal
สินทรัพย์ : 6.1 ล้านล้านบาท
เจ้าพ่อแห่งวงการปฎิรูปคมนาคม อย่าง อีลอน มัสก์ หรือ Iron Man ในโลกแห่งความเป็นจริง ได้ร่วงลงมาจากบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกอันดับ 1 มาสู่ลำดับ 2 ในปีนี้
อีลอน มัสก์ ได้ขยายอาณาจักรของตนในหลากหลายรูปแบบ ทั้งเป็น CEO บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ อย่าง Tesla Inc. CEO บริษัทธุรกิจอวกาศเอกชน Space X และยังเป็นผู้ร่วมลงทุนและก่อตั้งบริษัทจ่ายเงินออนไลน์ อย่าง PayPal
ล่าสุด เพิ่งปิดดีลการครอบครอง Twitter ในราคา 44,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.5 ล้านล้านบาท) และดำรงตำแหน่ง “ชีฟ ทวิต” (Chief Twit) หรือหัวหน้าทวิตเตอร์
อย่างไรก็ตาม ปีนี้ อีลอน มัสก์ ต้องเผชิญกับปัญหาอย่างหนักในฐานะ CEO ของ Twitter เนื่องจากบริษัททวิตเตอร์ได้สูญเสียรายได้กว่า 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อวัน และเพิ่งปลดปลดพนักงานในบริษัทราว 50% หรือ 3,700 คน
ในปี 2022 และมูลค่าของหุ้น Teslaได้ตกมากกว่า 70% ในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา
3.เจฟฟ์ เบโซส์
สัญชาติ : สหรัฐฯ
อายุ : 59 ปี
ประเภทธุรกิจ : ธุรกิจเทคโนโลยี
อาณาจักร : Amazon
สินทรัพย์ : 3.8 ล้านล้านบาท
เจฟฟ์ เบโซส์ ที่ผ่านมาได้เคยครองตำแหน่งเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลกใน ปี 2017 ก่อนตกมาอยู่อันดับ 4 ในปี 2022 และในปีนี้คว้าบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกอันดับ 3
เจฟฟ์ เป็นผู้ก่อตั้งและเป็นประธานบริหารของเว็ปไซต์ Amazon หนึ่งในเว็บไซต์อีคอมเมิร์ชที่ใหญ่ที่สุดระดับโลก โดยเจฟฟ์ตั้งเป้าว่า อยากจะทำเว็บไซต์ที่ขายของทุกอย่าง และผู้คนที่ต้องการสินค้าต้องนึกถึงเว็บไซต์ของเขาเป็นอันดับแรก และเป็นเหมือน แม่น้ำ Amazon ที่เป็นแม่น้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ล่าสุดในปี 2022 ราคาหุ้นของ Amazon ได้ร่วงลงมากว่า 40% เนื่องจากปัญหา The Great Layoff ของเหล่าบริษัเทคโนโลยี และอีคอมเมิร์ซ และในปี 2023 Amazon ยังเตรียมปลดพนักงานรอบสอง กว่า 9,000
4.แลร์รี เอลลิสัน
สัญชาติ : สหรัฐฯ
อายุ : 78 ปี
ประเภทธุรกิจ : ธุรกิจเทคโนโลยี
อาณาจักร : Oracle Corporation
สินทรัพย์ : 3.64 ล้านล้านบาท
ผู้จัดตั้งประธานบริหาร และหัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยี ของบริษัท Oracle Corporation ที่เคยได้อันดับที่ 8 ในปี 2022 ก่อนจะขึ้นมาเป็นที่ 4 ในปีนี้
Oracle Corporation เป็นบริษัทให้บริการเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ที่พัฒนาโปรแกรมฐานข้อมูล, เครื่องมือสำหรับพัฒนาฐานข้อมูล, ระบบวางแผนทรัพยากรองค์กร, ระบบลูกค้าประชาสัมพันธ์ และมีการบริการมากถึง 63 ภาษา
ในเดือนมิ.ย.2022 ที่ผ่านมา TikTok ได้ประกาศย้ายฐานข้อมูลผู้ใช้งานสหรัฐฯ ไปเก็บที่ Oracle เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของข้อมูลให้ลูกค้าชาวอเมริกันมากขึ้น
5.วอร์เรน บัพเฟตต์
สัญชาติ : สหรัฐฯ
อายุ : 92 ปี
ประเภทธุรกิจ : การลงทุน & การเงิน
อาณาจักร : Berkshire Hathaway
สินทรัพย์ : 3.61 ล้านล้านบาท
ถ้าเราจะพูดถึงบุคคลที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก จากการลงทุนและการเล่นหุ้น เราจะนึกถึงใครไม่ได้เลยนอกจาก วอร์เรน บัพเฟตต์ หรือ “ผู้ไม่เคยล้มเหลวจากการลงทุน” โดยเขาได้เริ่มต้นค้าหุ้นตั้งแต่อายุ 11 ปี มาจนถึงปัจจุบันวัยเลข 9 เขาก็ยังคงวนเวียนอยู่ในวงการนี้ไม่ได้หายไปไหนเลย ปัจจุบันหุ้นที่เขาถือมากที่สุด นั้นก็คือ Apple INC เป็นมูลค่ามากกว่า 1.4แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามมาด้วย Bank of America Corp (BAC) มูลค่า 3.5หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
แต่หากย้อนกลับไปวันแรกที่เขาเริ่มต้นธุรกิจนี้ เขาลงทุนด้วยเงินเพียง หนึ่งแสนดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น และเขาเริ่มซื้อหุ้น Berkshire Hathaway ราคาที่ 7.60 ดอลลาร์ต่อหุ้น จนในปี 2022 ราคาอยู่ที่ 16 ล้านบาทต่อหุ้น
5 อันดับบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศไทย
การจัดลำดับในปีนี้ของ Forbes ได้มีความน่าสนใจ ที่พี่น้องตระกูลเจียรวนนท์ ได้ติดถึง 3 ลำดับ จาก 5 ลำดับในประเทศไทย นั่นก็คือ
มูลค่าสินทรัพย์ 5.08 แสนล้านบาท
มูลค่าสินทรัพย์ 2.04 แสนล้านบาท
มูลค่าสินทรัพย์ 2.01 แสนล้านบาท
1.พี่น้องตระกูลเจียรวนนท์
ประเภทธุรกิจ : หลากหลาย
อาณาจักร : เครือเจริญโภคภัณฑ์
เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือที่เรารู้จักกันในแบรนด์ “ซีพี” ถ้าจะให้พูดถึงบริษัทลูกของซีพี คงไม่สามารถอธิบายได้หมด เพราะเขามีแนวคิดหลักในการทำธุรกิจ นั้นก็คือ “ระบบครบวงจร” นั้นก็คือต้องทำเองตั้งแต่ขั้นแรก ไปจนขั้นสุดท้ายของห่วงโซ่อุปทาน ทำให้ปัจจุบันมีการลงทุนอยู่ใน 21 ประเทศ แบ่งประเภทธุรกิจออกเป็น 8 สายธุรกิจหลัก ครอบคลุม 14 กลุ่มธุรกิจย่อย เช่น
และในปี 2022 เครือซีพี เคยติดโผ 1 ใน 136 บริษัทที่มีจริยธรรมมากที่สุดในโลก ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 อยู่ในหมวดกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม
2.เจริญ สิริวัฒนภักดี
ประเภทธุรกิจ : อาหาร,เครื่องดื่ม, อสังหาริมทรัพย์
อาณาจักร : TCC Group/ Thai Bev
สินทรัพย์ : 5.05เเสนล้านบาท
ลำดับโลก : 118
อาณาจักร TCC Group ได้ก่อตั้งขึ้นมามากกว่า 30 ปี โดยคุณเจริญ โดยคติประจำใจของคุณเจริญ คือ "อดทน เสียสละ เงียบ ร่าเริง" นั่นก็คือ ตั้งใจทำงาน ไม่สร้างเรื่องกับใคร และถ้ามีอะไรเกิดขึ้นก็ต้องรู้จักคำว่าปล่อยวาง
ปัจจุบันไทยเจริญคอร์ปอเรชั่น ประกอบด้วย 5 กลุ่มหลัก ได้แก่
3.สารัชถ์ รัตนาวะดี
ประเภทธุรกิจ : พลังงาน
อาณาจักร : กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์
สินทรัพย์ : 4.19เเสนล้านบาท
ลำดับโลก : 141
ในปี 2020 สารัชถ์ รัตนาวะดี เคยได้อันดับ 1 มหาเศรษฐีในเมืองไทย แซงหน้า เจ้าสัวซีพี ครอบครัวเจียรวนนท์ สารัชถ์เริ่มตั้งบริษัท กัลฟ์ อิเล็คตริก จำกัด ทำธุรกิจพลังงานในปี 2537 และเป็นผู้ผลิตเอกชนรายใหญ่ให้กับ กฟผ.ในการผลิตไฟฟ้า
ในปี 2560 ได้เปิดขายหุ้น IPO ให้กับประชาชนทั้วไป ในราคาหุ้นละ 45 บาท สิ่งที่น่าสนใจคือ ปัจจุบัน 91% ของลูกค้ากัลฟ์ คือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยและ 9% คือโรงงานอุตสาหกรรม