แพลตฟอร์ม ’Threads’ ของ Meta กำลังเสียส่วนแบ่งการตลาดให้กับสตาร์ทอัปโซเชียลมีเดียอย่าง ‘Bluesky’ เนื่องจากกำลังตามหลังในการดึงดูดผู้ใช้งานที่ออกจากแพลตฟอร์ม ‘X’ ของอีลอน มัสก์ หลังจากการเลือกตั้งของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
นับตั้งแต่วันเลือกตั้ง การใช้งานแอปพลิเคชั่น Bluesky ในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร พุ่งสูงขึ้นเกือบ 300% เป็น 3.5 ล้านคนต่อวัน ตามข้อมูลจากกลุ่มวิจัย Similarweb เว็บไซต์ดังกล่าวได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น เนื่องจากนักวิชาการ นักข่าว และนักการเมืองฝ่ายซ้าย เลิกใช้งาน X หลังเจ้าของแพลตฟอร์ม ผู้ซึ่งเป็นมหาเศรษฐีระดับโลก ออกตัวสนับสนุนประธานาธิบดีคนใหม่
Jasmine Enberg รองประธานและนักวิเคราะห์หลักของ eMarketer กล่าวว่า การแข่งขันเพื่อแทนที่ X มีความรุนแรงขึ้น Threads กลายเป็นแพลตฟอร์มหลักสำหรับอดีตผู้ใช้งาน X จำนวนมาก แต่การหลั่งไหลเข้ามาของผู้ใช้รายใหม่สู่ Bluesky หลังการเลือกตั้ง ได้เพิ่มการแข่งขันให้มากขึ้น แม้ว่าฐานผู้ใช้งานของ Bluesky จะยังเล็กกว่า Threads มาก แต่ Meta มองว่า เป็นภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นได้
การเติบโตของ Bluesky ในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรเกิดขึ้นหลังจากที่ ‘มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Meta เลือกที่จะลดความสำคัญของเนื้อหาทางการเมืองในแอปต่างๆ ของบริษัทโดยเจตนา ซึ่งรวมถึง Facebook และ Instagram ด้วย
การเคลื่อนไหวดังกล่าว ถูกตีความอย่างกว้างขวางว่า เป็นความพยายามที่จะลุกขึ้นมาต่อต้านความขัดแย้งระหว่างพรรคการเมือง และหลีกเลี่ยงการถูกดึงเข้าไปในการดีเบตเกี่ยวกับเสรีภาพในการพูด โดยก่อนวันที่ 5 พฤศจิกายน Threads มีผู้ใช้งานรายวันมากกว่า Bluesky ถึง 5 เท่าในสหรัฐอเมริกา แต่ปัจจุบัน Threads มีขนาดใหญ่กว่าคู่แข่งเพียง 1.5 เท่า
โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งตำหนิแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียมาอย่างยาวนานว่า เป็นช่องทางที่ปิดกั้นเสียงของฝ่ายอนุรักษ์นิยม เคยระบุว่า Meta เป็น ‘ศัตรูของประชาชน’ และขู่จะจำคุกซักเคอร์เบิร์ก หากเขากลับเข้ารับตำแหน่ง แต่เมื่อเดือนที่ผ่านมา ทรัมป์กลับชื่นชอบซักเคอร์เบิร์กมากขึ้น เพราะเขาอยู่ห่างจากการเลือกตั้ง
Meta ซึ่งเป็นผู้เล่นรายใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรม กำลังดำเนินการอย่างรวดเร็ว เพื่อตอบสนองต่อผู้ใช้งานที่มาใหม่ ด้วยการนำฟีเจอร์ยอดนิยมมาใช้ เช่นเดียวกับที่เคยทำกับคู่แข่งอย่าง Snapchat และ TikTok ในอดีต โดยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา แพลตฟอร์มเปิดตัวฟีเจอร์ที่ผู้ใช้งานสามารถเลือกฟีดแบบกำหนดเอง ตามหัวข้อหรือบุคคลที่พวกเขาต้องการติดตามได้
โดยฟีเจอร์ใหม่นี้ กำลังเลียนแบบความสามารถที่มีอยู่ของ Bluesky หลังจากทดสอบฟีเจอร์ดังกล่าวเพียง 5 วันเท่านั้น และยังได้จุดประกายการคาดเดาว่า Meta กำลังพยายามที่จะ ‘ขัดขวาง’ การเติบโตของ Bluesky หรือไม่
การเคลื่อนไหวของ Meta เพื่อปราบ Bluesky มาจากแนวทางที่คุ้นเคย ในปี 2016 ‘Instagram’ ได้เปิดตัว ‘Stories’ โพสต์ชั่วคราวที่หายไปหลังจากถูกเผยแพร่ใน 24 ชั่วโมง หลังจากฟีเจอร์ที่คล้ายกันได้รับความนิยมในหมู่ผู้ใช้ ‘Snapchat’ ส่วนในปี 2020 บริษัทได้เปิดตัว ‘Reels’ ผลิตภัณฑ์วิดีโอรูปแบบสั้นที่ออกแบบมา เพื่อแข่งขันกับความนิยมที่เพิ่มขึ้นของคู่แข่งอย่าง ‘TikTok’
หน่วยงานกำกับดูแลการผูกขาดได้กล่าวหา Meta มานานแล้วว่า ใช้กลยุทธ์ ‘คัดลอก-ซื้อ-ฆ่า’ เพื่อต่อต้านคู่แข่งอย่างไม่เป็นธรรม และรักษาความโดดเด่นในโซเชียลมีเดีย ผู้พิพากษาของรัฐบาลกลางได้ตัดสินเมื่อต้นเดือนนี้ว่า คดีความของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่บังคับให้ Meta แยก Instagram และ WhatsApp ออกจากกันนั้น สามารถเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดีได้
อย่างไรก็ตาม ในกรณีนี้ ทั้ง Meta และ Bluesky ยังคงไล่ตาม X ที่ใหญ่กว่า แม้ว่าบริษัทจะปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นหรือแบ่งปันข้อมูลผู้ใช้ แต่มัสก์กล่าวเกี่ยวกับ X เมื่อวันพฤหัสบดีว่า ยังคงทำสถิติใหม่ในการใช้งาน เนื่องจากเป็นแพลตฟอร์มที่น่าสนใจที่สุดบนอินเทอร์เน็ต
ขณะที่ Meta กล่าวว่า แพลตฟอร์มเปิดตัวฟีเจอร์ และอัปเดต Threads ใหม่เป็นประจำ ซึ่งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มีผู้ใช้งาน Threads มากกว่า 275 ล้านคน และบริษัทจะยังคงเผยแพร่ฟีเจอร์และการอัปเดตใหม่ๆ ต่อไป ในขณะที่ทำงานเพื่อให้บริการชุมชนที่กำลังเติบโตนี้
Katie Harbath อดีตผู้อำนวยการด้านนโยบายของ Meta กล่าวว่า ฟีดไทม์ไลน์ของ Threads ไม่มีประสิทธิภาพต่อผู้ใช้งานที่ต้องการเนื้อหาเกี่ยวกับเหตุการณ์แบบเรียลไทม์ แพลตฟอร์มต้องตัดสินใจว่า จะนำเนื้อหาทางการเมือง และการสนทนาแบบเรียลไทม์กลับมาหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากตัวเลขผู้ใช้งาน Bluesky ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
Adam Tinworth อาจารย์ด้านวารสารศาสตร์จาก มหาวิทยาลัยลอนดอน กล่าวถึง Bluesky ว่า เป็นสิ่งที่แยกออกมาจาก Twitter โดยพื้นฐาน และถือเป็น ‘สิ่งทดแทน’ สำหรับผู้ที่ผิดหวังกับ X ขณะที่ Threads เป็นตัวเลือกที่แตกต่างอย่างมาก และล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ในช่วงการเลือกตั้งสหรัฐฯ จากการผลักข่าวสาร และการเมืองออกไปจากฟีด
Instagram มีบทบาทสำคัญในการเติบโตของ Threads โดยเชิญชวนผู้ใช้งานกว่า 2 พันล้านคนให้สมัครใช้ Threads และติดตามบัญชีเดียวกันที่ผู้ใช้ติดตามบน Instagram โดยอัตโนมัติ แต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Mosseri กล่าวว่า Threads จะไม่นำเข้าการเชื่อมต่อ Instagram ของผู้ใช้อีกต่อไป โดยกล่าวว่า การทดสอบภายในแสดงให้เห็นว่าผู้คนชอบสร้างชุมชนใหม่บน Threads มากกว่า
ส่วน Bluesky เปิดตัวครั้งแรกในปี 2019 โดย ‘แจ็ค ดอร์ซีย์’ มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาโปรโตคอล หรือมาตรฐานเดียวที่แพลตฟอร์มโซเชียลและนักพัฒนาอื่นๆ สามารถสร้างข้อเสนอที่ปรับแต่งตามความต้องการมากขึ้นได้ ส่วนปัจจุบัน Bluesky อยู่ใต้การบริหารโดย ‘เจย์ กราเบอร์’ นักรณรงค์ด้านสิทธิดิจิทัลและวิศวกรซอฟต์แวร์
แม้การเติบโตของ Bluesky ได้รับความช่วยเหลือจากฟีเจอร์ที่ให้ผู้ใช้งาน สามารถติดตามกลุ่มบัญชีที่ได้รับการคัดสรรด้วยการคลิกเพียงครั้งเดียว ในอินเทอร์เฟซที่คล้ายกับ X แต่แพลตฟอร์มดยังประสบปัญหาการหยุดให้บริการ และข้อผิดพลาดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเติบโตอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ คำถามซึ่งว่า แพลตฟอร์มจะสร้างรูปแบบธุรกิจที่ใช้งานได้จริงในอนาคตได้อย่างไร? เพราะในช่วงแรก แพลตฟอร์มได้รับเงินทุนจาก Twitter และระดมทุนจากการร่วมทุนได้ 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 517.86 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา และ 8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 276.19 ล้านบาทในปีก่อนหน้า
Adam Mosseri หัวหน้า Threads กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า Bluesky มียอดผู้ลงทะเบียนใช้งานมากกว่า 15 ล้านคนในเดือนพฤศจิกายนเพียงเดือนเดียว และผ่านมา 3 เดือนแล้วที่มีผู้ลงทะเบียนใช้งานมากกว่า 1 ล้านคนต่อวัน ทำให้ตอนนี้ Threads มีงานต้องทำอีกมาก
ที่มา Financial Times, Washington Post