ปัจจุบันเราอยู่ในยุคที่ทุกธุรกิจต่างหากลยุทธ์การทางตลาดแข่งขันกันมอบประสบการณ์ให้ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า นอกเหนือจากการพัฒนาตัวผลิตภัณฑ์และการบริการให้ดีเยี่ยม สิ่งที่จะเพิ่มยอดขาย สร้างฐานลูกค้าเดิมให้กลับมาใช้บริการซ้ำ หรือ ดึงดูดกลุ่มลูกค้าใหม่ให้เปิดใจมาใช้บริการ นั้นก็คือ Customer Experience และแน่นอนว่าสิ่งที่จะทำให้เราแตกต่างจากกับคู่แข่งได้นั้น ก็คือ Customer Experience อีกเช่นกัน
สำหรับสิ่งก่อสร้างอย่าง ตึก หรือ อาคาร คือ สิ่งก่อสร้างที่ไม่สามารถแปรเปลี่ยนได้ อย่างเช่น “ตึกคิง เพาเวอร์ มหานคร” เคยเป็นตึกที่สูงที่สุดในประเทศไทย (ระหว่างปี พ.ศ. 2559 – 2561) แต่เมื่อกาลเวลาเปลี่ยนก็มีตึกใหม่ๆที่สร้างขึ้นมาเพื่อทำลายสถิติ ดังนั้นสิ่งที่จะทำให้ “ตึกคิงเพาเวอร์ มหานคร” ยังคงเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมในหมู่ผู้บริโภค ก็คือการสร้าง ‘กิจกรรมภายในอาคาร’ ให้มีความโด่ดเด่น โดยล่าสุดได้มีการลงทุนสร้าง “มหานคร สกายเวิร์ส” สวนสัตว์แห่งจินตนาการที่แรกในไทย หรือ งานศิลปะแบบ Immersive ในธีม “มหานคร โอเอซิส” ที่มีการซ่อน ‘น้องหมูเด้ง’ อยู่ในนิทรรศการนี้
บทความนี้ทีม SPOTLIGHT ได้มีโอกาสพูดคุยสุด exclusive กับ มร.มาร์ค เบกาสาท กรรมการผู้จัดการ คิง เพาเวอร์ มหานคร และ คุณวณิชยา เกียรติดำรงวงศ์ ผู้จัดการทั่วไป คิง เพาเวอร์ มหานคร ถึงแนวคิดและคอนเซปต์สร้าง “มหานคร สกายเวิร์ส” สวนสัตว์แห่งจินตนาการที่แรกในไทย พร้อมกับโจทย์หลัก “ทำอย่างไรก็ได้ให้ลูกค้าเดินอยู่ใน “ตึกมหานคร” ให้นานที่สุด ทำอย่างไรให้ Customer Experience ดีที่สุด”
ย้อนกลับไป 9 ปีที่แล้ว โครงการแห่งหนึ่งที่ได้รับความสนใจอย่างมากในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่าการลงทุนกว่า 2.2 หมื่นล้านบาท พร้อมกับสิ่งที่ทำให้ทุกคนตกตะลึง คือการสร้างตึก 77 ชั้น ที่สูงที่สุดในไทยกว่า 314 เมตร ทำลายสถิติโครงการโฟร์ซีซั่นส์ ไพรเวท เรสซิเด้นซ์ กรุงเทพ และ ตึกใบหยก 2
ผ่านมาเกือบทศวรรษ แน่นอนว่า ‘ตึกมหานคร’ ได้ถูกทำลายสถิติไปไม่ซ้ำแล้วกับตำแหน่งตึกที่สูงที่สุดในประเทศไทย จากจุดขายที่สามารถทัศนียภาพของกรุงเทพฯ ได้อย่างสวยงามในทุกจุดแบบพาโนราม่า แต่เมื่อกาลเวลาเปลี่ยน พฤติกรรมของผู้บริโภคที่ได้มีการเปลี่ยนแปลงตาม ซึ่งแน่นอนว่าผู้บริโภคอย่างเราคงอยากไปสถานที่ใหม่ๆที่เราไม่เคยไป แต่หากไปสถานที่เดิมก็คงอยากได้ประสบการณ์ใหม่ๆที่ไม่จำเจ
ดังนั้นสิ่งที่จะทำให้ ‘ตึกมหานคร’ แตกต่างและยังคงรักษาฐานลูกค้าเดิม และดึงดูดลูกค้าใหม่ คือการสร้าง Customer Experiences และหนึ่งในนั้นคือการสร้าง “มหานคร สกายเวิร์ส” หรือ ‘สวนสัตว์แห่งจินตนาการ’ ที่แรกในไทย โดยมีการใช้เทคโนโลยีอย่าง Immersive มาถ่ายทอดผลงานศิลปะนี้
มร.มาร์ค ได้เล่าให้ทีม SPOTLIGHT ฟังว่า “ช่วงเวลาที่ ‘ตึกมหานคร’ ได้ตัดสินใจทำอะไรใหม่ๆ เป็นช่วงเดียวกันกับ ‘น้องหมูเด้ง’ กำลังโด่งดัง เลยมีแนวคิดอยากจะทำสวนสัตว์แห่งจินตนาการที่แรกในไทย และที่สำคัญคือจะต้องมี ‘น้องหมูเด้ง’ หนึ่งใน soft power ไทยที่เป็นที่รู้จักระดับโลก เลยได้มีการติดต่อทางสวนสัตว์ และ House of Illumination ผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะดิจิทัลในรูปแบบ Immersive เพื่อให้สวนสัตว์แห่งจินตนาการนี้ได้เกิดขึ้นจริง"
โดยได้มีการเนรมิตร พื้นที่ชั้น 4 ของตึกคิง เพาเวอร์ มหานคร ให้กลายเป็นสวนสัตว์ดิจิทัลในรูปแบบ Immersive ภายใต้ธีม “มหานคร โอเอซิส” ถึง 9 ห้องจัดแสดง จัดเต็มด้วย แสง สี เสียงเพื่อให้ผู้ชมได้สัมผัสความงดงามของธรรมชาติ ความมหัศจรรย์ของสัตว์ป่า และสิ่งมีชีวิต ที่สะท้อนความงดงามของธรรมชาติผ่านมุมมองล้ำยุค ตอบโจทย์ผู้ที่มองหาประสบการณ์การท่องเที่ยวที่แตกต่างและสร้างแรงบันดาลใจผ่านพื้นที่จัดแสดง และมีไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้ พบกับ “หมูเด้ง” ฮิปโปแคระสุดน่ารักจากสวนสัตว์เขาเขียวในประเทศไทย ที่กลายเป็นซูเปอร์สตาร์ในชั่วข้ามคืน ด้วยความน่ารักที่ทำให้ใครๆ ต่างหลงรัก และ คิง เพาเวอร์ มหานคร ได้นำหมูเด้งมาโลดแล่นผ่านศิลปะของ มหานคร สกายเวิร์ส ด้วยเช่นกัน
อย่างกันที่เรารู้กันว่า การจัดแสดงนิทรรศการแบบ Immersive หรือ นิทรรศการการสร้างประสบการณ์เสมือนจริง เป็นประสบการณ์ที่สร้างขึ้นเพื่อผู้บริโภครู้สึกเหมือนไปอยู่ในพื้นที่นั้นจริงๆผ่านการใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ ย่อมใช้เงินมหาศาล
และแน่นอนว่าทีม SPOTLIGHT ได้มีการถาม มร.มาร์ค เกี่ยวกับเม็ดเงินการลงทุนและความคาดหวังจากการจัดสวนสัตว์แห่งจินตนาการนี้ ซึ่งมร.มาร์คไม่ได้กล่าวถึงเม็ดเงินในการลงทุน แต่กลับพูดแค่ว่า โจทย์หลักในการสร้างสวนสัตว์แห่งจินตนาการ คือ “ทำอย่างไรก็ได้ให้ลูกค้าเดินอยู่ใน “ตึกมหานคร” ให้นานที่สุด ทำอย่างไรให้ Customer Experience ดีที่สุด”
คุณวณิชยา ได้แสดงความคิดกับทีม SPOTLIGHT ว่า “สำหรับนักท่องเที่ยวแล้ว ฝุ่น PM2.5 เหมือนจะไม่ใช่ปัญหาหลักสำคัญเขา เพราะนักท่องเที่ยวบางคนตั้งใจมาท่องเที่ยวประเทศไทยเป็นครั้งแรกและจะมาตึกมหานครเพื่อมาดูวิวที่สวยงามของกรุงเทพ แต่อาจจะไม่ได้ใช้เวลานานเท่าเดิม เช่น ขึ้นไปบนตึก ดูวิวเล็กน้อย ถ่ายรูป และลงจากตึก ซึ่งในทุกวันนี้เรามีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาที่ตึกมหานครมากกว่า 2,000 คน”
มร.มาร์ค ได้แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมว่า “ช่วงที่กรุงเทพเจอวิกฤตฝุ่น PM2.5 หนักๆ แน่นอนว่าเราได้รับผลกระทบโดยตรง เนื่องจากทุกคนไม่อยากทำกิจกรรมกลางแจ้งเพื่อสูดอากาศที่เป็นมลพิษ แต่ทุกคนในเมืองไทยเผชิญกับปัญหามลพิษทางอากาศ ไม่ใช่เพียงแค่เรา แต่หากเจาะลึกถึงอินไซต์ของตึกมหาครโดยตรงพบว่า ช่วงเช้าและช่วงเย็น ไม่ค่อยได้รับผลกระทบเท่าไร นักท่องเที่ยวยังคงมาเพื่อมาดูวิว แต่ช่วงเที่ยงและช่วงบ่าย จำนวนนักท่องเที่ยวอาจจะน้อยลงเล็กน้อย”
คุณวณิชยา ได้เล่าให้ทีม SPOTLIGHT ฟังว่า หลังจากโควิดพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวได้มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง จากแต่ก่อนจะมาในรูปแบบกรุ๊ปทัวร์ แต่ปัจจุบันนักท่องเที่ยวมาแบบครอบครัว เพื่อน คู่รัก หรือมาคนเดียว ส่งผลต่อรูปแบบบริการของตึกมหานครที่จะต้องมีการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไป
เช่นเดียวกันกับก่อนโควิด ‘ลูกค้าชาวจีน’ คือเบอร์หนึ่งที่มาตึกมหานครมากที่สุด แต่หลังจากโควิด ‘นักท่องเที่ยวชาวจีน’ ก็ไม่ได้มาเยอะเท่าแต่ก่อน แต่จะพบนักท่องเที่ยวจีนจำนวนมากในช่วงเทศกาล Chinese New Year ส่วนชาติที่มาแรง คือ ชาวอินเดีย ชาวรัสเซีย ชาวเกาหลีใต้ และชาวญี่ปุ่น รวมถึงชาวยุโรปเดินทางมาเยอะในช่วง school holiday
คุณวณิชยา ได้เล่าให้ทีม SPOTLIGHT ฟังว่า พอสัญชาตินักท่องเที่ยวเปลี่ยนจากชาวจีน เป็นชาวอินเดีย ทำให้เราต้องมีการปรับตัวอย่างพอควร ซึ่งแน่นอนว่า Product ของเรา ก็คือ ตึกมหานคร เราไม่สามารถเปลี่ยนอะไรได้ ทำให้เราต้องมาปรับใส่วนของภาคการบริการ operation และเมนูอาหารที่ตอบโจทย์ชาวอินเดียมากขึ้น ซึ่งโดยส่วนมากชาวอินเดียจะไม่กินเนื้อสัตว์ ทำให้องมีอาหารมังสวิรัสเพื่อตอบโจทย์
นอกจากนี้ ชาวอินเดียชอบการท่องเที่ยวแบบสนุกสนาน และชอบการท่องเที่ยวแบบตื่นเต้นเร้าใจ โดยตึกมหานครมี
คุณวณิชยา ได้ยกตัวอย่างว่า นักท่องเที่ยวชาวจีนดื้อแต่ฟัง ส่วนนักท่องเที่ยวชาวอินเดียนั้นดื้อและไม่ฟัง แต่สิ่งที่จะหยุดพวกเขาได้คือ การขู่ว่าถ้าไม่ฟังจะต้องปรับเงินนะ แต่อย่างไรก็ตาม พบว่านักท่องเที่ยวชาวอินเดียมียอดใช้จ่ายเงินมาก เช่น การซื้อของฝาก
สำหรับผู้ที่สนใจ Mahanakhon SkyVerse มีราคาตั๋วเพียง 350 บาท/ท่าน (ตั้งแต่เวลา 10.00 – 15.30น.) โดยสามารถซื้อเพิ่มเติมจากตั๋ว มหานคร สกายวอล์ค
และการปรับตัวของ คิง เพาเวอร์ มหานคร ในครั้งนี้เป็นทุ่มเทเพื่อสร้าง Customer Experience ให้กับลูกค้า เหมือนกับวลีที่บอกว่า People don’t buy things, they buy experiences (ผู้คนไม่ได้ซื้อสิ่งของ แต่พวกเขาซื้อประสบการณ์) เพราะ Customer Experience จะทำให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจ (Satisfaction) และแน่นอนว่าหากคนเราพึงพอใจ มีความสุขแล้วก็จะเกิดการบอกต่อ (Word-of-mouth) และพัฒนากลายเป็นความจงรักภักดี (Loyalty) ในตัวองค์กร สินค้า หรือบริการ ต่อไป