ไฟเซอร์ ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2566 พลิดขาดทุน 2,380 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากยอดขายยาและวัคซีนที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19ลดลง
ไฟเซอร์ อิงค์ หนึ่งในบริษัทยาที่ใหญ่ที่สุดในโลกของสหรัฐ ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 / 2566 พบว่า ขาดทุน 2.38 พันล้านดอลลาร์ หรือ 42 เซนต์/หุ้น ซึ่งแย่ลงหากเทียบกับไตรมาส 3 ปีที่แล้ว ซึ่งเปรียบเทียบกับรายได้สุทธิ 8.61 พันล้านดอลลาร์หรือ 1.51 ดอลลาร์ต่อหุ้นในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
รายได้ของไฟเซอร์ ในไตรมาสที่ 3 อยู่ที่ 1.323 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 42% จากปี่ที่แล้ว และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.334 หมื่นล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ยอดขายยาแพกซ์โลวิด (Paxlovid) ซึ่งเป็นยารักษาโรคโควิด-19 อยู่ที่ 202 ล้านดอลลาร์ ทรุดตัวลงมากถึง 97% ในไตรมาส 3 ขณะที่รายได้จากการจำหน่ายวัคซีนป้องกันโควิด-19 ก็ปรับตัวลงเหลือ 1.31 พันล้านดอลลาร์ลดลง 70% จากระดับ 4.4 พันล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เมื่อรวมกันแล้ว ทั้งยาและวัคซีนโควิด ทำรายได้ประมาณ 1.5 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสนี้ ซึ่งเปรียบเทียบกับยอดขายประมาณ 12,000 ล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
สถานการณ์โควิดของโลกที่ดำเนินมายาวนานกว่า 2 ปี ได้คลี่คลายลงเรื่อยๆ ทำให้การใช้ยาแพกซ์โลวิดและวัคซีนโควิด-19 ต่ำกว่าคาด มีรายงานว่า ไฟเซอร์ต้องทำข้อตกลงที่จะรับคืนยาแพกซ์โลวิดจำนวนเกือบ 8 ล้านคอร์สจากรัฐบาลสหรัฐ
ปัจจัยทั้งหมดนี้จึงทำให้บริษัท ยอมปรับลดคาดการณ์ยอดขายของปี 2566 ลงเหลือ 5.8-6.1 หมื่นล้านดอลลาร์ รวมถึงการประกาศลดต้นทุนบริษัทลงอีก 3,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ไฟเซอร์ เคยเปิดเผยเมื่อเดือนก.พ.2565 ว่า บริษัทคาดการณ์รายได้สูงเป็นประวัติการณ์ในปี2565 ที่ระดับ 98,000-102,000 ล้านดอลลาร์ จากอานิสงส์การจำหน่ายยา และวัคซีนต้านโควิด-19 โดยบริษัทคาดการณ์ยอดจำหน่ายวัคซีนโควิด-19 จำนวน 3.2 หมื่นล้านดอลลาร์และยอดจำหน่ายยาแพกซ์โลวิดจำนวน 2.2 หมื่นล้านดอลลาร์ ในปี 2565
สำหรับราคาหุ้นของไฟเซอร์ ลดลงประมาณ 40% แล้วในปีนี้ ทำให้มูลค่าตลาดของบริษัทอยู่ที่ประมาณ 172,000 ล้านดอลลาร์
หากไม่รวมผลิตภัณฑ์ Covid รายรับส่วนนี้เพิ่มขึ้น 10% จากแรงหนุนของวัคซีนตัวใหม่ Abrysvo ที่ใช้ต่อต้านไวรัส RSV ที่ระบาดในช่วงไตรมาส 3 และเป็นที่ต้องการของผู้สูงอายุและสตรีมีครรภ์ โดยมียอดขาย 375 ล้านเหรียญ นับ เป็น “การเติบโตที่รวดเร็วมาก” และไฟเซอร์คาดว่าโมเมนตัมดังกล่าวจะดำเนินต่อไป
Albert Bourla ซีอีโอของ Pfizer ระบุว่า บริษัทใกล้บรรลุเป้าหมายในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ 19 รายการภายในระยะเวลา 18 เดือน โดยมีผลิตภัณฑ์ยาใหม่ๆ ที่มาช่วยทดแทนและหนุนรายได้ของบริษัทให้เติบโตต่อไป ทั้งยาไมเกรน ยารักษาโรคกล้ามเนื้อหัวใจ ยาเม็ดรักษาอาการลำไส้ใหญ่บวมเป็นแผล, วัคซีนไข้กาฬหลังแอ่น และแน่นอนว่าเป็นวัคซีนป้องกันโควิดเวอร์ชันใหม่ล่าสุด
นอกจากนี้ บริษัทคาดว่าจะปิดการซื้อกิจการบริษัท Seagen ซึ่งเป็นผู้ผลิตยารักษาโรคมะเร็งมูลค่า 43,000 ล้านดอลลาร์ ในปลายปี 2023 หรือต้นปี 2024 ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข เช่น การอนุมัติจากคณะกรรมาธิการการค้าของรัฐบาลกลาง ขณะที่คณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเป็นหน่วยงานบริหารของสหภาพยุโรป ได้อนุมัติข้อเสนอการซื้อหุ้นเมื่อต้นเดือนนี้แล้ว ไฟเซอร์ยังคงเชื่อว่าข้อตกลงดังกล่าวจะช่วยสร้างยอดขายได้มากกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ภายในปี 2573