‘TrueBusiness’ (ทรูบิสิเนส) ร่วมมือกับ ‘Google’ และ ‘Street Smart’ (สตรีท สมาร์ท) ยกระดับมาตรฐานการทำงานยุคใหม่ ที่สามารถทำงานที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้ ผ่านการใช้เครื่องมือเทคโนโลยี และ AI โดยมีจุดเด่นจากนวัตกรรมโซลูชันจาก Google Workspace และด้านบริหารจัดการของ Street Smart
สอดคล้องกับรายงานของ Gartner ที่เผยว่า ปี 2024 เป็นยุคของ ‘Future of Work’ หรือการทำงานในอนาคต ที่องค์กรและผู้บริหารทั่วโลกรู้สึกตื่นตัวเป็นอย่างมาก เนื่องจากกำลังเผชิญกับความคาดหวังที่เพิ่มขึ้น จากวิกฤตต้นทุนแรงงานที่ถึงจุดแตกหัก การทำ AI เข้ามาใช้ในการทำงานมากขึ้น และทักษะดิจิทัลที่อาจมาแทนที่การมีวุฒิการศึกษา
ทั้งนี้ การทำงานยุคใหม่ต้องมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยไม่เน้นกฎเกณฑ์หรือรูปแบบทำงานแบบเดิม สามารถทำงานจากที่ไหน เมื่อไหร่ กับใครก็ได้ เห็นได้จากรายงาน Gartner ว่า 10-40% ขององค์กรยุคนี้ สามารถลดต้นทุนการดำเนินงานได้จากการใช้นโยบาย Work-From-Home และการทำงานแบบไฮบริดที่เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าที่สุด เนื่องจากมีการบาลานซ์ระหว่างรูปแบบการทำงานในออฟฟิศ และอิสระในการทำงานจากที่ไหนก็ได้
นอกจากนี้ เทคโนโลยี AI ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้การทำงานยุคนี้มีประสิทธิภาพมากขึ้น หากพนักงานที่มีทักษะด้าน AI จะได้รับโอกาสมากกว่า หลังพบว่า กว่า 40% ของพนักงานในประเทศไทยที่มีทักษะหรือความชำนาญด้าน AI สามารถเพิ่มเงินเดือนได้สูงกว่า และองค์กรพยายามปรับตัวในการนำ AI มาใช้มากขึ้น
เมื่อเครื่องมือการทำงาน และ AI คือสองปัจจัยที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ในยุคนี้ TrueBusiness จึงเห็นถึงความสำคัญและโอกาสในการยกระดับการทำงานยุคนี้ และได้จับมือร่วมกับ Google Thailand และ Street Smart
นายฮาว ริ เร็น หัวหน้าสายงานการพาณิชย์ พันธมิตรเชิงกลยุทธ์และเทเลคอม-เทค ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า TrueBusiness มุ่งมั่นส่งเสริมองค์กรธุรกิจ และ SMEs โดยเฉพาะองค์กรที่พึ่งพาโซลูชันเพื่อเพิ่ม ประสิทธิภาพการทำงานร่วมกันของพนักงานที่ทำงานได้จากทุกที่ ทั้งในและนอกสำนักงาน ให้สามารถรับมือกับความท้าทายและรองรับการเปลี่ยนแปลงของการทำงานในทุกรูปแบบ
โดยการผสมผสานโซลูชันเหล่านี้ เข้ากับการดำเนินธุรกิจอย่างราบรื่นไร้รอยต่อ ภายใต้สภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมความร่วมมือและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานที่สูงขึ้น บวกกับการนำจุดแข็งของเหล่าพันธมิตร ทั้ง TrueBusiness, Google, และ Street Smart เพื่อนำเสนอโซลูชันด้านการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกัน และบริการด้านการบริหารจัดการแบบครบวงจร
ซึ่งจะถูกนำมาใช้ใน Google Workspace ในประเทศไทย มอบประสบการการณ์ใช้งานและเสริมศักยภาพให้ธุรกิจสามารถใช้งาน Google Workspace และ Gemini ในการผลักดันการทำงานร่วมกันและยกระดับการทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ
ซึ่งภายในปี 2028 คาดว่า การใช้ AI ในภาคส่วนธุรกิจจะเป็นตัวเปลี่ยนเกมที่สำคัญ โดยองค์กรส่วนใหญ่จะใช้ AI และคาดหวังผลประโยชน์มหาศาล และคาดว่า 98% ของนายจ้างและพนักงานในไทยจะใช้ Generative AI ในองค์กร เนื่องจาก Generative AI สามารถช่วยทำงานได้มากถึง 70% และมีความเป็นไปได้ที่จะเพิ่มประสิทธิภาพแรงงานมากถึง 14%
ส่วนในภาคการศึกษา แพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วย AI กำลังเปลี่ยนรูปแบบการสอนแบบครบจบรวดเดียว โดยคาดว่า 60% ของครูผู้สอนจะมีการใช้ AI ในห้องเรียน และสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการสอนได้ดีขึ้นถึง 10 เท่า
นาย Gary Lim, Head of Education & Channels, Global Workspace for Education จาก Google กล่าวว่า บริษัทมีความต้องการที่จะเสริมศักยภาพองค์กรธุรกิจและสถาบันการศึกษาไทย ด้วยพลังในการทำงานร่วมกันผ่าน Google Workspace โดยความร่วมมือในครั้งนี้ สะท้อนชัดถึงความสามารถในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและขับเคลื่อนการทรานส์ฟอร์มองค์กรสู่ดิจิทัล จากการผสานนวัตกรรมเครื่องมือของ Google กับความเชี่ยวชาญในการให้บริการในประเทศไทยของ TrueBusiness
โดยธีมของการทำงานในอนาคตจะเป็นดังนี้:
- ‘งาน’ ไม่ใช่สถานที่อีกต่อไป: 48% ของพนักงานจะยังทำงานนอกสถานที่หลังการระบาดโควิด-19
- เวลามีค่ามากขึ้น: 1 ใน 4 ของพ่อแม่ที่ทำงาน มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบครอบครัวเช่นกัน
- การเชื่อมต่อของมนุษย์เป็นสิ่งสำคัญ: 1 ใน 3 ของพนักงานรู้สึกขาดการเชื่อมต่อกับวัฒนธรรมของบริษัทและเพื่อนร่วมงาน
ในขณะที่สถาบันการศึกษากำลังเผชิญกับปัญหาการขาดแคลน และความเหนื่อยหน่ายของนักศึกษา หลังพบว่า นักศึกษาใช้เวลาเฉลี่ยมากถึง 53 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในการเรียนหนังสือ และ 44% ของคุณครู และ 35% ของอาจารย์ระดับมหาลัยรู้สึกเบิร์นเอ้าท์ จากปัญหางานล้นมือและจำนวนบุคคลากรขาดแคลน
ทั้งนี้ Generative AI มีศักยภาพในการลดภาระงานทั่วทั้งภาคการศึกษา และเพิ่มเวลาว่างของคุณครู ทำให้พวกเขามุ่งเน้นไปที่การสอนที่ยอดเยี่ยมมากขึ้น และประหยัดเวลาได้ 5 ถึง 10 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
ส่วน นายไดสุเกะ มัตสึบายาชิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Street Smart (ประเทศไทย) กล่าวว่า จากประสบการณ์ในสำนักงานใหญ่ที่ประเทศญี่ปุ่น พบว่า ลูกค้าของ Street Smart ส่วนใหญ่มีความสำคัญที่ดีกับประเทศไทย และเลือกตั้งฐานการผลิตในไทยจำนวนมาก บวกกับอุตสาหกรรมโทรคมนาคมที่แข็งแรง Street Smart จึงเลือกไทยเป็นจุดหมายหลักในการขยายการฐานลูกค้าในกลุ่มอาเซียน
โดยบริษัทเชื่อมั่นว่า ความร่วมมือกับ TrueBusiness ในครั้งนี้ จะเติมเต็มวิสัยทัศน์ในการนำพาความเปลี่ยนแปลงของสังคมผ่านการทรานสฟอร์มสู่ดิจิทัล ซึ่ง Street Smart จะนำความเชี่ยวชาญในการใช้ประโยชน์ รวมถึงการดูแลและสนับสนุน ในการใช้บริการ Google Workspace ที่สั่งสมจากการทำงานร่วมกับหลากหลายองค์กร ทั้งภาคเอกชนสถาบันการศึกษา และภาครัฐในประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้บริการลูกค้าในประเทศไทยผ่านความร่วมมือกับ TrueBusiness
การร่วมมือของ 3 ฝ่ายในครั้งนี้ เกิดขึ้นเพื่อตอบโจทย์ทั้งภาคธุรกิจและการศึกษา ผ่านเครื่องมือดังนี้:
- Google Workspace สำหรับองค์กรธุรกิจ: โซลูชันที่ช่วยให้การทำงานภายในองค์กรทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว มีความยืดหยุ่นสูง ตอบโจทย์วิถีการทำงานแบบใหม่ สื่อสารกันได้ทุกที่ เช่น Google Meet, Google Chat, Google Doc, และ Gmail
- Google Workspace สำหรับสถาบันการศึกษา: โซลูชันที่ครอบคลุมด้านการเรียน การสอน มีฟังก์ชั่นที่หลากหลาย เช่น ให้นักเรียนทำงานร่วมกันได้แบบเรียลไทม์ใน Google Doc หรือ Google Slide การไลฟ์สตรีมมีผู้ชมได้สูงสุดถึง 100,000 คน ช่วยประหยัดเวลาในการจัดชั้นเรียน กับ Google Classroom และ Assignment ช่วยให้ครูสามารถสร้าง จัดการ ตรวจงานและให้คะแนนงานที่มอบหมายให้ได้ง่ายๆ
- True GWS Care+: ล้ำหน้าไปอีกขั้นกับการบริหารจัดการ Google Workspace ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานและยกระดับประสิทธิภาพการทำงาน ผสานการทำงานที่ราบรื่นไร้รอยต่อ ช่วยให้ใช้งานได้อย่างคล่องตัว หมดกังวลกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน