แม้ Huawei ท้าชน Apple ด้วย Mate XT แต่ ‘ชิป’ ยังคงเป็นจุดอ่อน

ในขณะที่ Huawei พยายามเอาชนะ Apple โดยการเปิดตัวสมาร์ทโฟนพับได้สามทบมูลค่าเกือบแสนบาทรุ่นแรกของโลก อย่าง ‘Mate XT’ ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ iPhone 16 เปิดตัวไปอย่างยิ่งใหญ่ แต่มีนักวิเคราะห์ออกมาให้ความเห็นว่า ความสามารถของชิป Huawei ยังคงมีจุดอ่อน แม้ว่าจะมีความก้าวหน้าใหม่ๆ เกิดขึ้นแล้วก็ตาม

คอนเทนต์แนะนำ

เปิดใจ น้องเฟิร์น นิสิตคณะเภสัชศาสตร์ ผู้ชนะเลิศออกแบบโลโก้ "หมูเด้ง"

"ใหม่ ดาวิกา" ไม่ทน! ฟ้องคนด่าแรง เอาเงินมาช่วยเหลือสัตว์

ตำนาน นางนพมาศ จากพิธี "จองเปรียง" สมัยสุโขทัย สู่ประเพณี "ลอยกระทง"

Martin Yang นักวิเคราะห์อาวุโสด้านเทคโนโลยีเกิดใหม่ กล่าวกับ CNBC ว่า ชิปของ Huawei ยังคงตามหลังเทคโนโลยีล้ำสมัยอยู่ 2-3 ปี ซึ่งช่องว่างด้านเทคโนโลยี สำหรับระบบที่อยู่บนชิป หรือ SoC ที่นำการประมวลผลกลาง รวมเข้ากับการเชื่อมต่อเซลลูลาร์ กำลังกว้างขึ้น

เนื่องจาก Huawei ยังไม่สามารถผลิตชิปที่ต่ำกว่า 7 นาโนเมตรได้ ซึ่งยิ่งทรานซิสเตอร์มีขนาดเล็กลงเท่าไร ก็ยิ่งสามารถใส่ลงในชิปได้มากขึ้น จึงทำให้ระดับความก้าวหน้าของทรานซิสเตอร์เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม การเปิดตัวสมาร์ทโฟน ‘Mate 60’ ซึ่งมีชิป 7 นาโนเมตรขั้นสูงที่มาจากประเทศจีน ในปีที่ผ่านมาของ Huawei ทำให้นักวิเคราะห์หลายคนรู้สึกเกินคาด จากความเร็วที่บริษัทจีน สามารถเข้าถึงเกณฑ์มาตรฐานนี้ได้ ภายใต้ข้อจำกัดทางการค้าของสหรัฐฯ ที่จำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูง

โดยความสำเร็จในครั้งนั้น ทำให้ Huawei สามารถแย่งส่วนแบ่งการตลาดกลับคืนมาจาก Apple ในจีน และก้าวสู่ตลาดสมาร์ทโฟนที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้ แต่การเปิดตัว Mate XT ของ Huawei ในครั้งนี้ กลับไม่พูดถึงความก้าวหน้าของชิปเลย

ในขณะเดียวกัน iPhone 16 ของ Apple ใช้ชิป A18 ที่มีเทคโนโลยี 3 นาโนเมตร รุ่นที่ 2 ซึ่งมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 10-15% เมื่อเทียบกับชิป 3 นาโนเมตรรุ่นแรกของปีที่ผ่านมา โดย Yang เสริมว่า ชิปอาจไม่ใช่จุดโฟกัส หรือจุดการตลาดที่สำคัญสำหรับโทรศัพท์รุ่นใหม่ของ Huawei จึงเน้นย้ำฟีเจอร์การพับสามทบได้แทน

Huawei เริ่มเปิดรับพรีออเดอร์สมาร์ทโฟน Mate XT ตั้งแต่วันที่ 7 กันยายน ที่ผ่านมา โดยข้อมูลจากเว็บไซต์ระบุว่า ยอดพรีออเดอร์อยู่ที่มากกว่า 3.7 ล้านเครื่อง ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่า เมื่อถีงเวลาส่งสินค้าจริง Huawei อาจไม่สามารถทำได้ตามเป้า เหมือนช่วงทีเปิดตัว Mate 60 RS ที่ยอดจองมีมากกว่ายอดขายจริง

ส่วน Navkendar Singh จาก International Data Corporation ให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่า ถึงแม้ Huawei จะครองส่วนแบ่งการตลาดสมาร์ทโฟนแบบพับได้ แต่ตลาดนี้ยังคงเป็นกลุ่มเฉพาะ เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลเรื่องราคาและฟังก์ชันการใช้งาน

อย่างไรก็ตาม แนวคิดของสมาร์ทโฟนแบบพับสามทบถือเป็นความสำเร็จทางเทคนิค และตามที่ Will Wong นักวิจัยอาวุโสจาก IDC ได้ชี้ให้ Reuters เห็นว่า "แนวคิดนี้กำลังบอกผู้บริโภคว่า [Huawei] ยังคงเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี"

สองบริษัท สองแนวทาง

การเปิดตัว Mate XT ของ Huawei และ iPhone 16 ของ Apple แสดงให้เห็นถึงทิศทางที่แตกต่างกันอย่างมาก โดย Huawei มุ่งมั่นกับนวัตกรรมฮาร์ดแวร์ และหวังว่าสมาร์ทโฟนพับได้ จะได้รับความนิยมในฐานะผลิตภัณฑ์หลัก ในขณะที่ Apple มุ่งเน้นที่การปรับปรุงซอฟต์แวร์ โดยฝัง AI ลงในฟังก์ชันประจำวันให้ลึกยิ่งขึ้น

สำหรับ Huawei ความสำเร็จของ Mate XT ไม่ได้ขึ้นอยู่กับยอดขายเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการแสดงให้โลก โดยเฉพาะจีน เห็นว่า Huawei ยังคงอยู่ในตลาดนี้ ไม่ว่าจะถูกคว่ำบาตรหรือไม่ก็ตาม 

ขณะที่ Apple นั้น iPhone 16 ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งสู่อนาคตที่ขับเคลื่อนด้วย AI โดยที่อุปกรณ์ ไม่จำเป็นต้องพับหรืองอได้ แต่เพียงแค่ต้องทำงานได้อย่างชาญฉลาดมากขึ้นเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ คาดการณ์ว่า Apple จะยังคงครองตลาดโลกต่อไป ความสามารถด้าน AI การผสานรวมระบบนิเวศ และราคาที่จับต้องได้ของ iPhone 16 น่าจะช่วยผลักดันยอดขายนอกประเทศจีนต่อไป

ที่มา CNBC, KrASIA