Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ยุค AI เฟื่องฟู  ดันอุตสาหกรรมชิปทั่วโลก  มีรายได้กว่า 24 ล้านล้านบาท
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

ยุค AI เฟื่องฟู ดันอุตสาหกรรมชิปทั่วโลก มีรายได้กว่า 24 ล้านล้านบาท

11 ก.พ. 68
12:09 น.
|
389
แชร์

อุตสาหกรรม AI กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีความต้องการใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลก ปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนตลาด ได้แก่ การพัฒนาโมเดล AI ขั้นสูง ระบบคลาวด์ และชิปประมวลผลเฉพาะทาง ซึ่งเป็นหัวใจหลักของเทคโนโลยี AI แล้วไทยจะได้ประโยชน์อะไรจากยุค AI เฟื่องฟูบ้าง SPOTLIGHT พาไปหาคำตอบ

ปัจจุบัน Nvidia ครองตลาดชิป GPU สำหรับ AI ขณะที่ Google เป็นผู้นำด้านชิป ASIC ซึ่งออกแบบมาเพื่อการประมวลผล AI โดยเฉพาะ คาดว่าในปี 2026 Google จะยังคงเป็นเจ้าตลาดในฝั่งนี้ และล่าสุด Apple เองก็กำลังทดลองใช้ชิป TPU ของ Google เพื่อพัฒนาโมเดล AI ของตนเอง ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวบน iPhone และ Mac ภายในปี 2025

การเติบโตของ AI ยังผลักดันให้เกิดความต้องการสูงในกลุ่มศูนย์ข้อมูล (Data Center) และบริการคลาวด์ รายใหญ่ในตลาด ได้แก่ AWS, Google, Microsoft, Huawei และ Alibaba โดย Mckinsey คาดการณ์ว่ามูลค่าตลาด Data Center โลกจะเติบโตจาก 2.4 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2024 เป็น 5.8 แสนล้านดอลลาร์ภายในปี 2032 หรือเติบโตเฉลี่ยปีละ 11.6%

การเติบโตของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์

จากรายงานของการ์ทเนอร์ อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกมีมูลค่ารวม 626 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2567 เติบโต 18.1% จากปีก่อนหน้า และคาดการณ์ว่าจะเพิ่มเป็น 705 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2568 หรือคิดเป็นเงินไทยมากกว่า 24 ล้านล้านบาท เรียกว่ามีมูลค่าสูงกว่า GDP ประเทศไทยทั้งประเทศ ซึ่งการเติบโตนี้ได้รับแรงหนุนจากความต้องการชิป AI และหน่วยความจำที่ใช้ในดาตาเซ็นเตอร์ ซึ่งรายได้ในกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นจาก 64.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2566 เป็น 112 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2567

โอกาสและความท้าทายของไทยในอุตสาหกรรม AI

1. โอกาสในการส่งออกสินค้าในห่วงโซ่อุปทาน AI

SCB EIC ประเมินว่าไทยมีโอกาสเติบโตในตลาดส่งออกสินค้าที่เกี่ยวข้องกับ AI เช่น ชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์และคอมพิวเตอร์ ปัจจุบัน 83% ของการส่งออกเซมิคอนดักเตอร์ไทยไปสู่ตลาดสหรัฐฯ และ 40% ของคอมพิวเตอร์ที่ส่งออกก็มุ่งไปยังตลาดนี้ สะท้อนโอกาสในการขยายตัวเพิ่มเติม เนื่องจากสหรัฐฯ เป็นผู้นำด้าน AI และลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2023 การลงทุนด้าน AI ของสหรัฐฯ สูงถึง 6.72 หมื่นล้านดอลลาร์ มากที่สุดในโลก

2. การลงทุนจากต่างชาติและอุตสาหกรรม Data Center

สงครามเทคโนโลยีระหว่างจีน-สหรัฐฯ ทำให้เกิดการย้ายฐานการผลิตมายังอาเซียน ไทยได้รับผลบวกจากแนวโน้มนี้ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และ Data Center ข้อมูลจาก BOI พบว่า 40% ของการลงทุนต่างชาติในไทยอยู่ในภาคอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงมีโครงการขนาดใหญ่ เช่น

  • การผลิต Wafer และการทดสอบชิป มูลค่า 19,856 ล้านบาท
  • การผลิตแผงวงจรพิมพ์ (PCB) มูลค่า 61,302 ล้านบาท
  • การลงทุน Data Center และ Cloud Service กว่า 167,989 ล้านบาท จาก AWS, Google, Huawei, Alibaba และ NextDC

ข้อจำกัดของไทยและการแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้าน

แม้ไทยจะมีโอกาสเติบโตในห่วงโซ่อุปทาน AI แต่ยังมีข้อจำกัดสำคัญ ได้แก่

  • ไทยยังไม่สามารถผลิตชิปขั้นสูงได้เอง ต่างจากมาเลเซียที่เป็นฐานการผลิตและทดสอบชิปขนาดใหญ่ มีบริษัทอย่าง Intel และ Infineon ตั้งโรงงาน ทำให้สหรัฐฯ พึ่งพาการนำเข้าชิปจากมาเลเซียมากกว่าไทยถึง 2 เท่า
  • ความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลต่ำ IMD จัดอันดับไทยอยู่ที่ 41 จาก 63 ประเทศในด้านความสามารถทางดิจิทัล และเป็นอันดับ 3 ในอาเซียน ตามหลังสิงคโปร์และมาเลเซีย
  • โครงสร้างพื้นฐานยังไม่พร้อม โดยเฉพาะระบบพลังงานที่ไม่เสถียร ส่งผลต่อการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ซึ่งต้องการระบบไฟฟ้าที่มั่นคง
  • ขาดบุคลากรด้านเทคโนโลยี ไทยยังขาดแคลนวิศวกรเซมิคอนดักเตอร์และนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของอุตสาหกรรม AI

แนวทางพัฒนาเพื่อแข่งขันในสมรภูมิ AI

เพื่อให้ไทยสามารถแข่งขันได้ในตลาด AI จำเป็นต้องดำเนินมาตรการเร่งด่วน ได้แก่

  1. พัฒนาอุตสาหกรรมชิปขั้นสูง ไทยควรดึงดูดการลงทุนในภาคการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ต้นน้ำ เช่น การออกแบบและผลิตชิปของตัวเอง
  2. ยกระดับโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะระบบพลังงานและเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเพื่อรองรับการผลิตขั้นสูง
  3. พัฒนาบุคลากรด้านเทคโนโลยี โดยสนับสนุนการศึกษาและฝึกอบรมในสาขาวิทยาศาสตร์ข้อมูล วิศวกรรม AI และเซมิคอนดักเตอร์
  4. ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา เพื่อให้สามารถผลิตสินค้านวัตกรรมที่มีมูลค่าเพิ่มสูงและลดการพึ่งพาการนำเข้าเทคโนโลยีจากต่างประเทศ
  5. มุ่งสู่อุตสาหกรรมสีเขียว เนื่องจากแนวโน้มโลกให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะช่วยดึงดูดนักลงทุนที่ให้ความสำคัญกับ ESG (Environmental, Social, and Governance)

อุตสาหกรรม AI กำลังเปลี่ยนโฉมโลก เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ AI ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การพัฒนาโมเดล แต่ยังรวมถึงโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ชิปประมวลผลและศูนย์ข้อมูล แม้ไทยจะมีโอกาสในการขยายการส่งออกสินค้าและดึงดูดการลงทุน แต่ยังคงมีข้อจำกัดด้านเทคโนโลยีและบุคลากรที่ต้องเร่งพัฒนา หากไทยสามารถยกระดับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีให้สอดรับกับแนวโน้ม AI โลกได้ ก็มีโอกาสก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีของอาเซียนในอนาคต

ที่มา:การ์ทเนอร์ , SCB EIC

แชร์
ยุค AI เฟื่องฟู  ดันอุตสาหกรรมชิปทั่วโลก  มีรายได้กว่า 24 ล้านล้านบาท