อิสราเอลเมินเสียงร้อง สั่งห้ามส่งความช่วยเหลือ กาซากลายเป็นหลุมศพหมู่
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอิสราเอล อิสราเอล แคตซ์ กล่าวว่า จะยังคงปิดกั้นความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไม่ให้เข้าสู่ฉนวนกาซา โดยอ้างว่าเป็นการกดดันฮามาสให้ปล่อยตัวตัวประกันที่เหลือ พร้อมประกาศว่า ขณะนี้พื้นที่ในกาซากว่า 30% ถูกเปลี่ยนให้เป็นเขตกันชนของอิสราเอลแล้ว และสามารถควบคุมปฏิบัติการได้เต็มรูปแบบในพื้นที่และเส้นทางสำคัญหลายแห่งทั่วฉนวนกาซา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอลยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ในปัจจุบันไม่มีใครวางแผนให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมใด ๆ เข้าไปในฉนวนกาซา และจะไม่มีการเตรียมการใดๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือดังกล่าวได้ ที่สำคัญ อิสราเอลจะยกระดับความขัดแย้งด้วย “กำลังมหาศาล” หากฮามาสไม่ส่งตัวประกันกลับคืน
อิสราเอลปิดกั้นเสบียงความช่วยเหลือต่างๆ รวมถึงอาหาร เชื้อเพลิง น้ำ และยารักษาโรค ไม่ให้เข้าสู่ฉนวนกาซาตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม ก่อนที่ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและกลุ่มก่อการร้ายปาเลสไตน์จะล้มเหลว โดยหันไปโจมตีดินแดนดังกล่าวทั้งทางอากาศและภาคพื้นดินแทน นับเป็นเวลากว่า 7 สัปดาห์แล้วที่กาซาขาดแคลนอาหาร น้ำดื่ม ยารักษาโรค และอุปกรณ์ดำรงชีพที่จำเป็น ซ้ำยังถูกโจมตีอย่างหนักจากกองทัพอิสราเอล
กาซากำลังเป็นหลุมศพหมู่
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเป็นหนึ่งในหน่วยงานบรรเทาทุกข์ที่ระบุว่า การปิดกั้นเสบียงทั้งหมดที่ส่งไปยังฉนวนกาซาของอิสราเอลเป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติและละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ แต่อิสราเอลกลับปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว ด้านองค์กรการกุศลทางการแพทย์ Médecins Sans Frontières ออกมาเตือนว่า กาซากำลังกลายเป็นหลุมศพหมู่สำหรับชาวปาเลสไตน์
ชาวปาเลสไตน์มากกว่า 51,000 คนเสียชีวิตในฉนวนกาซาตั้งแต่ความขัดแย้งเริ่มต้นขึ้น รวมถึงมากกว่า 1,600 คนตั้งแต่ที่อิสราเอลกลับมาโจมตีทางอากาศและปฏิบัติการภาคพื้นดินอีกครั้งเมื่อวันที่ 18 มีนาคม อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขของฉนวนกาซาไม่ได้แยกตัวเลขระหว่างพลเรือนและนักรบฮามาส แต่ระบุว่า มากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้เสียชีวิตเป็นผู้หญิงและเด็ก
มะห์มุด ชาลาบี ผู้อำนวยการองค์กรช่วยเหลือทางการแพทย์เพื่อชาวปาเลสไตน์กล่าวว่า แพทย์และกลุ่มช่วยเหลือภาคสนามตกอยู่ในสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมที่เลวร้ายลงทุกวัน นับว่าย่ำแย่ที่สุดในรอบ 18 เดือน โดยเฉพาะการขาดแคลนสิ่งจำเป็นพื้นฐาน และการกลับมาสู้รบและโจมตีชาวปาเลสไตน์อีกครั้งในฉนวนกาซา
อิสราเอลปรามฝรั่งเศส อย่ายอมรับรัฐปาเลสไตน์
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง ออกมาเคลื่อนไหวรุนแรง แถลงอย่างเป็นทางการว่า ฝรั่งเศสตั้งใจจะยอมรับปาเลสไตน์ในสถานะ “รัฐ” ในงานประชุมสหประชาชาติเกี่ยวกับความขัดแย้งอิสราเอล-ปาเลสไตน์ในเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ โดยอ้างว่าเป็นเส้นทางที่ถูกต้องที่จะช่วยปกป้องสิทธิของชาวปาเลสไตน์และสร้างแนวทางสองรัฐ พร้อมเรียกร้องให้อิสราเอลกลับเข้าสู่โต๊ะเจรจาเพื่อยุติสงคราม
ล่าสุด สำนักงานนายกรัฐมนตรีของเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอลออกมาตอบโต้แล้ว ระบุว่า รัฐปาเลสไตน์ที่ก่อตั้งขึ้นไม่กี่นาทีจากเมืองต่าง ๆ ของอิสราเอลจะเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มก่อการร้ายอิหร่าน และประชาชนอิสราเอลส่วนใหญ่คัดค้านอย่างหนักแน่น พร้อมชี้ให้เห็นว่า ในรัฐบาลปาเลสไตน์ เด็ก ๆ ได้รับการปลูกฝังให้ทำลายอิสราเอล และมอบรางวัลเป็นเงินให้กับฆาตกรที่ฆ่าชาวยิว โดยสะท้อนถึงการวิพากษ์วิจารณ์หนังสือเรียนและเงินช่วยเหลือที่มอบให้กับครอบครัวของผู้ก่อเหตุชาวปาเลสไตน์ที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำของอิสราเอลมายาวนาน
การโจมตีครั้งล่าสุดของอิสราเอลไม่เพียงแต่สร้างความไม่สบายใจให้กับนานาชาติ ผู้วางตัวเป็นกลางเท่านั้น แต่ในกลุ่มชาวยิวด้วยกันเองก็ไม่สามารถยอมรับการกระทำดังกล่าวได้ ด้านสมาชิกกลุ่มชาวยิวชั้นนำของอังกฤษออกมาประณามการกระทำล่าสุดของอิสราเอลในฉนวนกาซา โดยสมาชิกคณะผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นองค์กรที่ใหญ่ที่สุดที่เป็นตัวแทนของชาวยิวในอังกฤษ ระบุในจดหมายเปิดผนึกว่า จิตวิญญาณของอิสราเอลกำลังถูกพรากออกมา พวกเขาไม่สามารถ "หลับตาหรือนิ่งเฉย" เกี่ยวกับสงครามในฉนวนกาซาได้ อีกต่อไป ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นการแตกหักครั้งสำคัญจากลุ่มที่เคยสนับสนุนรัฐบาลอิสราเอล
ฟิลิป โกลเดนเบิร์ก ทนายความคนหนึ่งซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ลงนาม กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในฉนวนกาซาเป็น การละเมิดค่านิยมทางจริยธรรมของชาวยิวโดยสิ้นเชิง และเนทันยาฮูสร้างความเสียหายให้กับโครงการไซออนิสต์มากกว่าที่กลุ่มฮามาสจะสร้างได้เสียอีก
