ผู้นำฮามาสแถลง ต้องการทำข้อตกลงยุติสงครามในกาซา พร้อมปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอลทั้งหมดแลกกับนักโทษปาเลสไตน์ แต่ขอปฏิเสธข้อเสนอปล่อยตัวประกัน 10 คนของอิสราเอล เพราะการที่จะให้ฮามาสปลดอาวุธนั้นเป็นไปไม่ได้
วันพฤหัสบดีที่ 17 เมษายน 2568 เจ้าหน้าที่ระดับสูงของฮามาส คาลิล อัล ฮัยยา แถลงการณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งว่า จะไม่ยอมรับข้อตกลงชั่วคราว 45 วันที่อิสราเอลเสนอมาก่อนหน้า กล่าวว่า ข้อเสนอชั่วคราวของอิสราเอลเป็นความพยายามของนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ที่จะขยายเวลาสงครามให้ยืดเยื้อต่อไป
“เนทันยาฮูและรัฐบาลของเขา ใช้ข้อตกลงชั่วคราวบังหน้าเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของตน ใช้วิธีเดินหน้าทำสงครามกวาดล้างและทำให้ผู้คนอดอยาก แม้ว่าจะต้องแลกด้วยการเสียสละตัวประกันของเขาทั้งหมดก็ตาม” อัล ฮัยยา หัวหน้าทีมเจรจาของฮามาสให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ “เราจะไม่มีส่วนร่วมในการส่งเสริมนโยบายเช่นนี้”
ฮัยยาชี้ว่าฮามาสพร้อมเจรจาข้อตกลงที่ครอบคลุม (comprehensive package negotiations) กล่าวว่าฮามาสพร้อมปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอลที่เหลือทั้งหมด แลกกับการยุติสงครามในฉนวนกาซา ปล่อยชาวปาเลสไตน์ที่ถูกคุมขังอยู่ในอิสราเอล และฟื้นฟูฉนวนกาซาขึ้นใหม่
ก่อนหน้านี้ (14 เมษายน 2568) อิสราเอลเสนอข้อเสนอหยุดยิงในกาซาชั่วคราว อย่างน้อย 45 วัน แลกกับการปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอล 10 คนภายในสัปดาห์แรกของการตกลง และให้กลุ่มฮามาสและกลุ่มติดอาวุธในปาเลสไตน์ทั้งหมดปลดอาวุธ
ด้านอิสราเอลจะปล่อยตัวผู้ถูกคุมขังชาวปาเลสไตน์ออกมาหลายร้อยคนเช่นกัน พร้อมเปิดทางให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมเข้าถึงฉนวนกาซา เพื่อนำไปสู่การเจรจายุติสงครามอย่างถาวรต่อไป
ฮามาสกล่าวว่า ข้อเรียกร้องของอิสราเอลที่ขอให้ฮามาสปลดอาวุธเพื่อยุติสงครามนับว่า “ล้ำเส้น” เกินไปและเป็นข้อเรียกร้องที่ฮามาสไม่สามารถยอมรับได้ นอกจากนี้อิสราเอลไม่ได้ให้คำมั่นว่าสงครามจะจบลงถาวร ฮามาสจึงออกมาตอบโต้ว่า กลุ่มจะไม่เห็นชอบกับข้อตกลงหยุดยิงใดๆ ที่มีเขื่อนไขให้ฮามาสต้องปลดอาวุธ หรืออนุญาตให้อิสราเอลสามารถกลับเข้ามาในฉนวนกาซาได้อีกหลังถอนกำลังในระยะแรก
มีตัวประกันชาวอิสราเอลถูกจับไป 251 คนจากการโจมตีวันที่ 7 ตุลาคม 2566 ปัจจุบันมีตัวประกัน 58 คนที่ยังอยู่ในนวนกาซา ซึ่งอิสราเอลกล่าวว่า 34 คนในจำนวนนั้นเสียชีวิตลงแล้ว ก่อนหน้านี้ฮามาสปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอล 38 คนระหว่างการหยุดยิงที่เริ่มต้นวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา
สประชาชาติชี้ว่า สถานการณ์ในฉนวนกาซาขณะนี้อยู่ในสภาพ “วิกฤตทางมนุษยชนที่เลวร้ายที่สุด” ตั้งแต่สงครามเริ่มต้น ฮามาสกล่าวว่า อิสราเอลต้องการใช้ความหิวโหยเป็นอาวุธ ปฏิเสธไม่ให้เข้าถึงสิ่งของจำเป็น อย่างเช่น ยา น้ำดื่ม และอาหารสำหรับพลเรือนมาต่อเนื่องยาวนาน 7 สัปดาห์แล้ว
อิสราเอล คาตซ์ รัฐมนตรีกลาโหมของอิสราเอลแถลงมื่อวันพุธที่ 16 เมษายน 2568 ว่า “นโยบายของอิสราเอลนั้นชัดเจน จะไม่มีความช่วยเหลือทางมนุษยนชนใดเข้าถึงฉนวนกาซาได้ การปิดช่องทางช่วยเหลือคือเครื่องมือกดดันหลัก ที่เราใช้ขัดขวางไม่ให้ฮามาสนำไปใช้เป็นเครื่องมือต่อรองกับประชาชน [...] ณ ขณะนี้ยังไม่มีแผนเปิดทางให้ความช่วยเหลือเข้าถึงฉนวนกาซา และไม่มีการเตรียมการให้ความช่วยเหลือใด”
รายงานเมื่อวันที่ 17 เมษายนชี้ว่า อิสราเอลยังคงโจมตีฉนวนกาซาอย่างต่อเนื่อง การโจมตีทางอากาศระลอกล่าสุดของอิสราเอล ฆ่าประชาชนชาวปาเลสไตน์ไปกว่า 40 คน โฆษกฝ่ายป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน มาห์มูด บัสซาล ระบุว่า ขีปนาวุธของอิสราเอลสองลูกได้โจมตีเต็นท์หลายหลังในพื้นที่อัล-มาวาซี เมืองคานยูนิส ทางตอนใต้ของฉนวนกซา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 16 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก และมีผู้บาดเจ็บ 23 คน
กองทัพอิสราเอลกล่าวว่ากำลังตรวจสอบรายงานการโจมตีดังกล่าว กล่าวว่ากองทัพเพียงมุ่งเป้าไปที่สิ่งที่คิดว่าเป็น “ศูนย์บัญชาการและควบคุม” ของฮามาส
อียปต์ทำหน้าที่เป็นตัวกลางผู้เจรจาหาทางออกให้ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ และทำสำเร็จในช่วงสั้นๆ ช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา แม้จะจบลงด้วยการเปิดฉากสู้รบอีกครั้งในเดือนมีนาคม หลังอิสราเอลปิดช่องทางการขนส่งสินค้าและเปิดฉากโจมตีทางอากาศ
ความพยายามเจรจาล่าสุดของอียิปต์ที่กรุงไคโรสัปดาห์นี้จบลงโดยไร้ความคืบหน้า และมีแนวโน้มว่าท่าทีอันแข็งกร้าวล่าสุดของฮามาสจะทำให้การเจรจาตึงเครียดมากขึ้น