ราคาเปลี่ยนหน้าจอ Huawei Mate XT แพงกว่า Galaxy Z Fold 6 ถึง 5 เท่า

Huawei เปิดเผยราคาอะไหล่สำหรับ Mate XT หรือสมาร์ทโฟนจอพับสามทบรุ่นแรกของโลก ซึ่งได้สร้างความตกใจให้กับผู้บริโภคเป็นอย่างมากอีกครั้ง นับตั้งแต่ที่เปิดตัว Mate XT Ultimate Design ด้วยราคาเริ่มต้นประมาณ 2,809 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 93,300 บาท 

คอนเทนต์แนะนำ

เปิดใจ น้องเฟิร์น นิสิตคณะเภสัชศาสตร์ ผู้ชนะเลิศออกแบบโลโก้ "หมูเด้ง"

"ใหม่ ดาวิกา" ไม่ทน! ฟ้องคนด่าแรง เอาเงินมาช่วยเหลือสัตว์

ตำนาน นางนพมาศ จากพิธี "จองเปรียง" สมัยสุโขทัย สู่ประเพณี "ลอยกระทง"

ราคาเปลี่ยนหน้าจอ Huawei Mate XT แพงกว่า Galaxy Z Fold 6 ถึง 5 เท่า

เนื่องจากหากหน้าจอพับของโทรศัพท์เสียหายมากจนต้องมีการซ่อมแซม ผู้ใช้งานอาจต้องจ่ายเงินเพิ่มอีก 7,999 หยวน (ประมาณ 1,123 ดอลลาร์สหรัฐฯ) หรือสูงถึง 37,500 บาท สำหรับแผง OLED ทดแทน แต่หากผู้ใช้งานปฏิเสธข้อเสนอนี้ และต้องการหน้าจอใหม่ ผู้ใช้งานจะต้องเสียเงิน 9,799 หยวน (ราว 1,376 ดอลลาร์สหรัฐฯ) หรือประมาณ​ 45,900 บาท

อย่างไรก็ตาม Huawei ได้เสนอวิธีประหยัดเงินค่าซ่อมหน้าจอ Mate XT โดยหน้าจอทดแทนที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ (refurbished) มีราคาถูกกว่าเล็กน้อยที่ 6,999 หยวน (ประมาณ 983 ดอลลาร์สหรัฐฯ) หรือประมาณ 32,800 บาท รวมทั้งแผนประกันเปลี่ยนหน้าจอเริ่มต้นที่ 3,499 หยวน (ประมาณ 492 ดอลลาร์สหรัฐฯ) หรือราว 16,400 บาท สำหรับการเปลี่ยนหน้าจอ 1 ครั้งภายใน 1 ปีแรกหลังจากซื้อ Mate XT 

ส่วนชิ้นส่วนทดแทนอื่นๆ ของ Mate XT Ultimate Design มีราคาถูกกว่าเล็กน้อย เช่น แบตเตอรี่ราคา 499 หยวน (ประมาณ 70 ดอลลาร์สหรัฐฯ) หรือ 2,340 บาท และกล้องราคา 269-759 หยวน (ราว 38-107 ดอลลาร์สหรัฐฯ) หรือ 1,260-3,600 บาท แมผู้ใช้งานต้องคอยลุ้นว่า เมนบอร์ดของ Mate X จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น เนื่องจาดการเปลี่ยนชิ้นส่วนมีราคาสูงถึง 9,099 หยวน (ประมาณ 1,278 ดอลลาร์) หรือ 42,600 บาท

The Verge ได้เปรียบเทียบการซ่อมหน้าจอพับด้านในของ Samsung Galaxy Z Fold 6 ที่รวมถึงการเปลี่ยนแผง OLED ขอบโลหะ และแบตเตอรี่ของโทรศัพท์ จะได้รับส่วนลดเหลือเพียง 200 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 6,640 บาท สำหรับการซ่อมครั้งแรก และหากหน้าจอพังอีก ราคาจะขยับขึ้นเป็น 549 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 18,230 บาท  

ในขณะที่ Pixel Fold รุ่นดั้งเดิม ของ Google ที่ได้ร่วมมือกับ iFixit เพื่อจำหน่ายหน้าจอพับทดแทนในราคา 899.99 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 29,900 บาท) หรือ 909.99 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 30,200 บาท ) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชุดซ่อมที่รวมแบตเตอรี่ใหม่ด้วย

ตามข้อมูลของ Omdia บริษัทวิจัยตลาดในอังกฤษ ชี้ว่า ตอนนี้บริษัทจีนหลายแห่งเปิดตัวสมาร์ทโฟนแบบพับได้หลายรุ่น โดยจะช่วยเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดของผู้ผลิตจอแสดงผลในท้องถิ่นในกลุ่มนี้ให้มากกว่า 50% ในปีนี้ ในเวลาเดียวกัน ได้เน้นย้ำถึงภัยคุกคามต่อ Samsung Electronics ที่กำลังดิ้นรนเพื่อบุกเบิกในตลาดจีน รวมถึง Apple ที่ยังไม่ได้เข้ามาในกลุ่มผลิตภัณฑ์นี้ 

Joy Guo นักวิเคราะห์หลักของ Omdia กล่าวว่า ในบรรดาโทรศัพท์พับได้ 21 รุ่นที่คาดว่าจะเปิดตัวในปีนี้ มี 18 รุ่นที่ผลิตโดยแบรนด์จีน เช่น Huawei, Honor, Vivo และ Xiaomi ซึ่งส่วนใหญ่จัดหาจอแสดงผลจากผู้ผลิตจอ OLED ของจีน ได้แก่ BOE, China Star Optoelectronics Technology, และ Visionox ซึ่งคาดว่าจะครองส่วนแบ่งรวมกัน 53% จากการจัดส่งจอแสดงผลแบบพับได้ 25.8 ล้านชิ้นในปีนี้ จากเพียง 32% ในปี 2023 

โดย Guo ให้สัมภาษณ์กับ Nikkei Asia ว่า "ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนชาวจีนคิดว่า โทรศัพท์พับได้จะช่วยปรับปรุงราคาขายเฉลี่ยได้ เนื่องจาก Apple ไม่มีโทรศัพท์พับได้ และโทรศัพท์พับได้ของ Samsung ไม่เป็นที่นิยมในจีน ดังนั้นพวกเขาจึงคิดว่ามีโอกาสที่จะเข้าสู่กลุ่มผลิตภัณฑ์ระดับไฮเอนด์ รวมทั้งผู้ผลิตจอแสดงผลในจีน มักมีความยืดหยุ่นในการตอบสนองความต้องการของลูกค้ามากกว่า Samsung”

ถึงแม้ผู้ผลิตจอแสดงผลในจีนกำลังเร่งผลิตสินค้าใหม่ออกสู่ตลาดในจีน แต่ยังไม่ชัดเจนว่าการนำไปใช้งานทั่วโลกจะเติบโตได้เร็วเพียงใด Omdia ได้ปรับลดการคาดการณ์ยอดจัดส่งโทรศัพท์หน้าจอพับได้ทั่วโลกจาก 27 ล้านเครื่องเหลือ 24 ล้านเครื่องในปีนี้ เนื่องจากยอดขาย Galaxy Z ของ Samsung ต่ำกว่าที่คาดไว้ และกลยุทธ์อนุรักษ์นิยมของผู้เล่นในจีน ยังคงมีราคาแพง โดยส่วนใหญ่มีราคาสูงกว่า 1,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ

ที่มา The Verge, Nikkei Asia