นายพิจินต์ อภิวันทนาพร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารการเงิน บมจ. ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก(OR) กล่าวกับทีมข่าว "SPOTLIGHT" ว่า ในช่วงกลางเดือน ธ.ค.นี้ บริษัทเตรียมนำเสนอแผนธุรกิจและการลงทุนฉบับใหม่ช่วง 5 ปีช่วงระหว่างปี 2565-2569 ต่อคณะกรรมการบริษัท(บอร์ด) โดยจะมีการเพิ่มจำนวนงบลงทุนจากแผน 5 ปีช่วงระหว่างปี 2564-2568 ฉบับเดิมที่ตั้งบลงทุนไว้ที่ประมาณ 74,000 ล้านบาท โดยบริษัทยังเน้นสัดส่วนการขยายการลงทุนในกลุ่มธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน(Non Oil) และธุรกิจต่างประเทศ เนื่องจากมีอัตรากำไรที่ค่อนข้างดีกว่าธุรกิจกลุ่มน้ำมัน
ทั้งนี้ตามแผนการลงทุนช่วง 5 ปีเดิมดังกล่าวจะส่งผลให้บริษัทจะมีสัดส่วนกำไรก่อนภาษี, ค่าเสื่อม และดอกเบี้ยจ่าย(EBITDA) เปลี่ยนแปลงจากปัจจุบันที่มาจากธุรกิจกลุ่มน้ำมันอยู่ที่ประมาณ 70%, กลุ่มธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมันมีสัดส่วนประมาณ 25% และธุรกิจต่างประเทศอีกสัดส่วนประมาณ 5% มาเป็นจากธุรกิจกลุ่มน้ำมันอยู่ที่ประมาณ 50-55%, กลุ่มธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมันมีสัดส่วนประมาณ 35% และธุรกิจต่างประเทศอีกสัดส่วนประมาณ 12%
สำหรับแผนการลงทุนระยะสั้นในปี 2565 ในกลุ่มธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมันบริษัทจะเน้นขยายลงทุนในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม(Food and Beverage:F&B) รวมถึงที่ไม่ใช่ธุรกิจ F&B ด้วยเช่นกันซึ่งจะเป็นธุรกิจที่ให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการในสถานีบริการน้ำมัน
โดยในปีหน้าคาดว่าบริษัทจะมีการเข้าซื้อหรือควบรวมกิจการ(M&A) มีจำนวนมากกว่าปีนี้ที่บริษัทได้ซื้อปิดดีลไปจำนวน 4 ดีล เพื่อนำมาใช้สร้างประโยชน์ร่วมทางธุรกิจ(Synergy) กับฐานธุรกิจเดิมคือสถานีบริการน้ำมันที่ปัจจุบันมีเครือข่ายคลุมบริการทั่วประเทศแล้วประมาณกว่า 2,000 แห่ง อีกทั้งตามแผน 5 ปีจะยังขยายเพิ่มจำนวนสถานีบริการน้ำมันใหม่เฉลี่ยอีกประมาณ 100 แห่งต่อปี
ทั้งนี้ในปีนี้ได้ประกาศเข้าซื้อหุ้นในบริษัท อาทิ บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด สัดส่วน 20% ผู้ดำเนินธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์ “โอ้กะจู๋” ,บริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส (Flash Express), บริษัทบริการด้านโลจิสติกส์จัดส่งพัสดุอันดับ 3 ของประเทศ , บริษัท อิ่มทรัพย์ โกลบอล คูซีน จำกัด (ISGC)ผู้ดำเนินธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นแบรนด์ KOUEN และแบรนด์อื่นๆ
"โออาร์มีแผนจะใช้สถานีบริการน้ำมัน ปตท.ตอนนี้ที่มีมากกว่า 2,000 สาขาแล้วในทั่วประเทศซึ่งถือเป็นแพลตฟอร์มธุรกิจที่แข็งแรงของบริษัทนำมาสร้าง Synergy กับธุรกิจใหม่อย่างในธุรกิจ Non Oil อาหารและเครื่องดื่มหรือธุรกิจอื่นๆที่มีบริการดึงดูดคนให้เข้ามาใช้ชีวิตในปั๊มน้ำมันของ ปตท.มากขึ้นใช้เวลาที่ยาวขึ้นโดยการสร้างเป็นรูปแบบคอมมูนิตี้ รวมถึงรองรับในอนาคตที่อีวีคาร์กำลังจะมาในอนาคตเราก็พร้อมในธุรกิจนีด้วยเตรียมตัวจะทำให้คนที่จะรถยนต์เข้ามาชาร์จไฟฟ้าเข้ามาใช้ชีวิตจับจ่ายซื้อของหรือบริการอื่นๆที่ลูกค้าต้องการได้ด้วย ดังนั้นแผนการขยายเพิ่มจำนวนของปั๊มน้ำมันจะยังเดินหน้าตามแผน 5 ปีที่ แห่งต่อปีเพื่อรองรับการสร้างคอมมูนิตี้ในอนาคต ส่วนปีนี้ที่บริษัทเปิดปั๊มกับร้านคาเฟ่ อเมซอน ที่ลดลงน้อยกว่าแผนบ้างจากเดิมจะเปิดได้ 95 สาขา คาดว่าทั้งปีจะเปิดได้ 86 สาขา
ส่วนร้านคาเฟ่ อเมซอน ปีนี้จะเปิดสาขาได้ 407 สาขา จากแผนเดิม 420 สาขา มาจากผลกระทบของ COVID-19 แต่สาขาที่เลื่อนเปิดไปในปีนี้่จะนำไปรวมการเปิดสาขาในปีหน้าทั้งหมด" นายพิจินต์ กล่าว