วันพฤหัสบดี ที่ผ่านมา ฟอร์ด มอเตอร์ ประกาศลงทุนในยานยนต์ไฟฟ้าเต็มกำลัง เพิ่มการจ้างงานกว่า 6 พันตำแหน่ง แต่ในขณะที่ เทสลา กำลังจะลดพนักงานประจำลง 10%เพราะมีความกัวลกับภาวะเศรษฐกิจที่แย่ลง
เรื่องวุ่นๆของอีลอน มัสก์ มีออกมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา อีลอน มัสก์ ซีอีโอของ เทสล่า ส่งอีเมลถึงพนักงานทุกคนที่ทำงานในโรงงานผลิตรถยนต์ว่าทางบริษัทจะลดพนักงานประจำลง 10% และพึ่งพาลูกจ้างรายชั่วโมงแทน ซึ่งนั่นทำให้ราคาหุ้นของเทสล่าร่วงลงอย่างหนักถึง 10% เพราะก่อนหน้านี้มัสก์ ก็เคยส่งอีเมล์ไปยังผู้บริหารของบริษัทเกี่ยวกับการระงับจ้างงานทั้งหมดทั่วโลก ทั้งที่เทสลาเคยโพสต์รับสมัครงานราว 5,000 ตำแหน่งสำหรับตำแหน่งงานในโตเกียวและเบอร์ลิน เหตุผลเพราะ มัสก์มีมุมมองไม่ดีเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ
ส่วนเอกสารทางการเงิน ณ สิ้นปี 2564 เทสลามีพนักงานทั้งหมด 99,290 คนทั่วโลก
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ถูกถามเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจเชิงลบของอีลอน มัสก์ หลังจากที่เทสล่าประกาศจะลดจำนวนพนักงานลง ซึ่งโจ ไบเดน ตอบว่า ขณะที่มัสก์ กำลังกลัวและกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจไม่ดี แต่บริษัท ฟอร์ด กำลังเพิ่มการลงทุนในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า และเพิ่มพนักงานถึง 6,000 คน และโจไบเดน ยังได้ชื่นชม เอกชนรายอื่นๆ เช่น Chrysler , Stellantis สำหรับการลงทุนที่คล้ายคลึงกันในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกาและ Intel สำหรับการเพิ่มงานใหม่ 20,000 ตำแหน่งในการผลิตชิปคอมพิวเตอร์อีกด้วย
ไบเดนยังพูดเหน็บด้วยว่า “คุณก็รู้ โชคดีมากในทริปไปดวงจันทร์ของเขา ”
อย่างไรก็ตามสำหรับค่ายรถยนต์อย่างฟอร์ด ได้ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา จะจ้างงานเพิ่มอีกราว 6,200 ตำแหน่งในมิดเวสต์และปรับปรุงโรงงาน 3 แห่งเพื่อผลิตรถยนต์ไฟฟ้า และพัฒนาพลังงานใหม่ รวมถึงมัสแตงคูเป้ รุ่นที่เจ็ดด้วย ซึ่งใช้เงินลงทุนมากถึง 3,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้ฟอร์ดจะเพิ่มพนักงานเพื่อเพิ่มการผลิตรถตู้เชิงพาณิชย์ และรถปิคอัพไฟฟ้าFord F-150 ด้วยโดยนอกเหนือจากงานใหม่แล้ว พนักงานชั่วคราวในโรงงานเกือบ 3,000 คน กำลังจะกลายเป็นพนักงานแบบฟูลไทม์ ทำให้พนักงานจะได้รับสิทธิสวัดิการต่างๆเพิ่มขึ้นด้วย โดยกำลังจะมีการไปเจรจากับทางสหภาพยานยนต์
.
ขณะนี้อุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้า แต่ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจหลายประเทศทั้งยุโรป หรือแม้สหรัฐ ก็ยังมีความเสี่ยงจากภาวะถดถอย ซึ่งเป็นสิ่งที่ท้าทายการลงทุนของภาคธุรกิจ ส่วนในกรณีของเทสล่าเอง ก็อาจจะได้รับผลกระทบจากล็อคดาวน์ในจีนก่อนหน้านี้ด้วยที่ส่งผลต่อกำลังการผลิตรถยนต์ที่มาจากจีน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"ถ้าไม่เข้าออฟฟิศ ก็ลาออก!" เจ้าพ่อเทสลาประกาศหมดเวลา WFH
Foxconn ชี้ Supply Chain ครึ่งปีหลังดูดีขึ้น หลังจีนคลายล็อกดาวน์เซี่ยงไฮ้
เพราะจีนล็อกดาวน์ แบรนด์รถญี่ปุ่นจุก ยอดผลิตรวมเดือนเมษาลดลง 21%