ธุรกิจการตลาด

อังกฤษสั่งปรับ TikTok 5.4 ร้อยล้านบาท เหตุปล่อยให้เด็กอายุต่ำกว่า 13 เล่นแอพ

5 เม.ย. 66
อังกฤษสั่งปรับ TikTok 5.4 ร้อยล้านบาท เหตุปล่อยให้เด็กอายุต่ำกว่า 13 เล่นแอพ

‘TikTok’ เคราะห์ซ้ำกรรมซัดไม่หยุด ล่าสุดถูกหน่วยงานด้านการคุ้มครองข้อมูลของสหราชอาณาจักรสั่งปรับ 12.7 ล้านปอนด์ หรือราว 5.4 ร้อยล้านบาท จากกรณีที่ TikTok ปล่อยให้เด็กอายุต่ำกว่า 13 ปีเข้าใช้แอพพลิเคชั่น ทำให้มีการเก็บข้อมูลส่วนตัวของเยาวชนอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย

คำสั่งนี้ของสำนักงานคณะกรรมาธิการด้านข้อมูลข่าวสารแห่งสหราชอาณาจักร (ICO) ออกมาเมื่อวันที่ 4 เมษายน จากคำแถลงของ ICO TikTok ได้ทำการละเมิดกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสหราชอาณาจักรหลายประการ รวมไปถึงการละเลยปล่อยให้ประชาชนของสหราชอาณาจักรที่อายุต่ำกว่า 13 ปี ถึง 1.4 ล้านคนใช้แอพ TikTok ในปี 2020 ถึงแม้ตามกฎการใช้งานของ TikTok เอง ประชาชนที่อายุไม่ถึง 14 ปีจะไม่สามารถใช้ TikTok ได้

ทาง ICO มองว่าเป็นการปล่อยปละละเลย ไม่ทำหน้าที่ของ TikTok ที่ทำให้ในปัจจุบันข้อมูลของเยาวชนจำนวน 1.4 ล้านคนสุ่มเสี่ยงรั่วไหล และถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด และการสั่งปรับในครั้งนี้เป็นการแสดงให้ทุกฝ่าย รวมไปถึงผู้ที่จะทำธุรกิจในลักษณะนี้ เห็นว่าสหราชอาณาจักรจริงจังกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนตัวของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเยาวชน

โดยหลังมีคำสั่งปรับดังกล่าวออกมา TikTok ก็ได้ออกมากล่าวว่า ถึงแม้บริษัทจะไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินของ ICO เพราะทางบริษัทมองว่าตัวเองได้มีความพยายามที่จะกีดกันไม่ให้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 13 ปีเข้าใช้แอพมาโดยตลอด แต่ TikTok ก็ยินดีที่ ICO ยอมลดค่าปรับให้ เพราะในปี 2022 ทาง ทาง ICO ได้เคยเสนอตัวเลขค่าปรับมาแล้วที่ 25 ล้านปอนด์ ซึ่งมากกว่าตัวเลขในปัจจุบันประมาณ 2 เท่า

คำสั่งนี้ออกมาในขณะที่ TikTok กำลังถูกเล่นงานอย่างหนักจากหน่วยงานด้านกฎหมายของชาติตะวันตก โดยในวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา Shou Xi  ซีอีโอของ TikTok ก็เพิ่งขึ้นให้การกับสภาคองเกรสหรือสภานิติบัญญัติสูงสุดในรัฐบาลกลางสหรัฐฯ เพื่อแก้ต่างในข้อกล่าวหาที่ว่า TikTok ได้แชร์ข้อมูลของผู้ใช้ในสหรัฐฯ ให้แก่รัฐบาลจีน ซึ่งส่งผลอย่างมากต่อความมั่นคงของประเทศ

โดยในระหว่างการรับฟังของสภาคองเกรส เขาก็ได้ปฏิเสธอย่างแข็งขันว่า TikTok ไม่มีการปล่อยข้อมูลผู้ใช้ให้หน่วยงานรัฐ และรัฐบาลจีนไม่เคยติดต่อขอข้อมูลจากบริษัท ถึงแม้สหรัฐฯ ยังมีท่าทีแข็งกร้าวต่อ TikTok และอาจบีบให้ TikTok ขายกิจการให้นักลงทุนต่างประเทศจนพ้นสภาพจากการเป็นบริษัทจีนหากยังต้องการดำเนินธุรกิจในสหรัฐฯ ต่อ

นอกจากนี้ หลายๆ ประเทศตะวันตก ไม่ว่าจะเป็น สหรัฐฯ แคนาดา สหภาพยุโรป และล่าสุด นิวซีแลนด์ ยังได้ออกมาแบนการติตดั้ง TikTok ในโทรศัพท์ทำงานของเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐเพื่อเพิ่มการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลราชการ

 

ที่มา: CNBC, CNN 

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT