Jaspal อยู่คู่กับวงการแฟชั่นไทยมา 51 ปีแล้วหากนับจากปี 1972 ที่เปิดร้านบูติกร้านแรก ความโดดเด่นของแบรนด์คือการการออกแบบเสื้อผ้า ready-to-wear ที่เป็นเอกลักษณ์ และปัจจุบันธุรกิจได้ขยายสู่สินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ ซึ่งล่าสุดบริษัทเตรียมระดมทุนเปิดเสนอขายหุ้นให้ประชาชนเป็นครั้งแรก IPO และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
บริษัท ยัสปาล จำกัด (มหาชน) หรือ JPC ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (แบบไฟลิ่ง) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) และนำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวนไม่เกิน 156 ล้านหุ้น คิดสัดส่วนไม่เกิน 26% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมด
นายจรัญ สิงห์สัจจเทศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยัสปาล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ และบริษัทย่อยรวมเรียกว่า กลุ่มบริษัทฯ เป็นผู้ดำเนินธุรกิจผลิต จัดหาและจัดจำหน่ายเสื้อผ้า สินค้าแฟชั่นและสินค้าไลฟ์สไตล์ ภายใต้แบรนด์ที่กลุ่มบริษัทฯ เป็นเจ้าของ และดูแลรวมกันกว่า 19 แบรนด์ เช่น Jaspal (ยัสปาล), ) Misty Mynx (มิสตี้ มิงซ์), CC Double O (ซีซี ดับเบิ้ลโอ), CPS CHAPS (ซีพีเอส แชปส์), Lyn (ลิน), Lyn Around (ลิน อะราวนด์), Fred Perry (เฟร็ด เพอร์รี่), Diesel (ดีเซล), Superdry (ซุปเปอร์ดราย) เป็นต้น โดยมีสินค้าที่ทันสมัยและหลากหลายมากกว่า 113,000 SKUs ครอบคลุมสินค้าตั้งแต่เสื้อผ้า เครื่องประดับ รองเท้า กระเป๋า เครื่องสำอางและแว่นตา เป็นต้น
นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทฯ ยังเป็นผู้ผลิต จัดหาและจำหน่ายที่นอนและเครื่องนอน ของตกแต่งบ้านและเฟอร์นิเจอร์ (กลุ่มธุรกิจที่นอนและเครื่องนอน) ภายใต้ Inhouse Brand และ Import Brand รวม 6 แบรนด์ มีสินค้ามากกว่า 21,500 SKUs ภายใต้แบรนด์ SANTAS, SANTAS Home, Stevens, Sealy, Tempur, และ Ethan Allen เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มด้วยคุณภาพและมาตรฐานระดับสากล
ทั้งนี้กลุ่มบริษัทฯ ถือเป็นหนึ่งในผู้นำในธุรกิจสินค้าแฟชั่นของภูมิภาคอาเซียนและเป็นบริษัทสัญชาติไทยที่มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ในอุตสาหกรรมเสื้อผ้าและรองเท้าเฉพาะอย่างของประเทศไทย มีช่องทางสาขาและจุดจำหน่ายในศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าชั้นนำ รวมทั้งสิ้น 462 สาขา ครอบคลุมทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงช่องทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์บริษัทฯ และแพลตฟอร์มซื้อขายออนไลน์ต่างๆ (Marketplace) ขณะที่กลุ่มธุรกิจที่นอนและเครื่องนอน มีช่องทางจำหน่ายผ่าน 3 ช่องทางหลัก ได้แก่ (1) สาขาหน้าร้านและจุดจำหน่ายในศูนย์การค้ามากกว่า 508 แห่ง (2) การขายงานโครงการ และ (3) การส่งสินค้าไปยังต่างประเทศ
หากดูผลประกอบการของบริษัท ยัสปาล จำกัด ที่ผ่านมา
ไตรมาส 1 /2566 รายได้ 2,932.56 ล้านบาท กำไร 242.99 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้ 11,584.33 ล้านบาท กำไร 914.50 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้ 9,153.06 ล้านบาท กำไร 221.47ล้านบาท
ปี 2563 รายได้ 9,020.59 ล้านบาท ขาดทุน -153.20ล้านบาท
ด้านนายทินพันธุ์ หวั่งหลี รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน ระบุว่า ปัจจุบัน แบบคำขออนุญาตและร่างหนังสือชี้ชวนอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของสำนักงาน ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ
ที่มา ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย