ธุรกิจการตลาด

Xiaomi บุกตลาดรถ EV เร่งคุยหาพาร์ทเนอร์ผู้ผลิต หวังดันรถรุ่นแรกออกปีหน้า

12 ต.ค. 66
Xiaomi บุกตลาดรถ EV เร่งคุยหาพาร์ทเนอร์ผู้ผลิต หวังดันรถรุ่นแรกออกปีหน้า

Xiaomi บริษัทเทคโนโลยีและสมาร์ทโฟนรายใหญ่ของจีนเตรียมกระโดดเข้าสังเวียนรถยนต์ไฟฟ้า เร่งพูดคุยกับผู้ผลิตอย่าง Brilliance Auto Group Holdings และ Chery Automobile Co. เพื่อหาพาร์ทเนอร์ ในระหว่างรอใบอนุญาตจากกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ (MIIT) ของจีนเพื่อผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของตัวเอง

ในวันที่ 12 ต.ค. สำนักข่าว Bloomberg ได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าวว่าในขณะนี้ Xiaomi กำลังพูดคุยกับผู้ผลิตรถ EV หลายราย เช่น Brilliance Auto Group Holdings Co. และ Chery Automobile Co. เพื่อผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของตัวเอง หลังในช่วงปลายเดือนสิงหาคมได้ยื่นเอกสารขอใบอนุญาตเพื่อผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากกระทรวงอุตสาหกรรมฯ จีน และตั้งบริษัทย่อยขึ้นมาเพื่อดูแลธุรกิจอีวีโดยเฉพาะ ชื่อว่า Xiaomi EV, Inc. ด้วยทุนจดทะเบียน 1 หมื่นล้านหยวน หรือราว 49 หมื่นล้านบาท นำโดย Lei Jun ซีอีโอของ Xiaomi

8yt6pq-highres(1)

Xiaomi ได้ประกาศแผนที่จะดำเนินธุรกิจด้านรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มตัวในเดือนมีนาคม และประกาศที่จะลงทุนเงินอีก 1 หมื่นล้านหยวนในธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าภายใน 10 ปีข้างหน้า โดยมีเป้าหมายที่จะพัฒนาเทคโนโลยีในการขับขี่ เช่น เทคโนโลยีไร้คนขับ ให้เหนือคู่แข่ง 

โดยจากการรายงานของ CNBC เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา Xiaomi เพิ่งเข้าซื้อ Deepmotion บริษัทพัฒนาระบบไร้คนขับเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของบริษัท ด้วยเงินลงทุน 77.37 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2.8 พันล้านบาท และคาดว่าจะส่งรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของบริษัทลงตลาดได้ภายในปีหน้า

ตลาดอีวีแข่งขันสูง ผู้ผลิตจีนเสี่ยงเจอมาตรการกีดกันจากยุโรป

ปัจจุบัน ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในจีนถือเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูงมาก เพราะตลาดเริ่มอิ่มตัว มีการผลิตรถยนต์ส่วนเกิน เศรษฐกิจจีนยังไม่ฟื้นจากการระบาดของโควิดทำให้ผู้บริโภคกำลังซื้อต่ำ และมีผู้เล่นจำนวนมาก เช่น BYD, Tesla, XPeng, Nio และ Li Auto ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าต้องเล่นสงครามราคาเพื่อจูงใจผู้ซื้อ หรือพยายามพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เหนือกว่าคู่แข่งออกมาให้ได้

นอกจากนี้ ขณะนี้ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของจีนยังกำลังเสี่ยงเจอมาตรการกีดกันสำคัญจากสหภาพยุโรปที่อาจจะทำให้ยอดขายของรถยนต์ไฟฟ้าของจีนลดลง เพราะในขณะนี้อียูอยู่ระหว่างการพิจารณาเพิ่มภาษีนำเข้าเพื่อกีดกันไม่ให้มีการนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าราคาถูกที่ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลจีนเข้ามาในประเทศสมาชิก เพื่อปกป้องผู้ผลิตรถยนต์ในยุโรปที่มีต้นทุนในการผลิตสูงกว่า และไม่สามารถสู้สงครามราคากับผู้ผลิตจีนได้

istock-1292252309

โดยหากอียูตัดสินใจบังคับใช้มาตรการนี้จริง การเคลื่อนไหวนี้จะส่งผลกระทบกับตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของจีนเป็นอย่างมาก โดยจะกระทบกับการส่งออกรถยนต์ถึง 2 ล้านคันที่จีนคาดจะส่งออกไปยังตลาดยุโรปภายในปี 2030 

นอกจากนี้ มาตรการนี้ยังจะทำให้การแข่งขันภายในตลาดจีนเข้มข้นมากขึ้นกว่าเดิม เพราะปัจจุบันผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของจีนมีการผลิตรถยนต์ส่วนเกินเป็นจำนวนมาก โดยผลิตเกินมากถึง 10 ล้านคันต่อปี หรือเทียบเท่ากับ 2 ใน 3 ของรถยนต์ที่ผู้ผลิตสหรัฐฯ ผลิตได้ในปี 2022 ทำให้หากจีนไม่สามารถส่งออกรถไปยังตลาดยุโรปได้ ผู้ผลิตก็ต้องแข่งกันหาตลาดใหม่ หรือลดราคากันอีกเพื่อดึงใจผู้บริโภค

ปัจจุบันยุโรปถือเป็นตลาดส่งออกรถยนต์ที่สำคัญของจีน โดย Reuters รายงานว่า ในช่วงเจ็ดเดือนแรกของปี 2023 ยอดส่งออกรถยนต์ที่ใช้พลังงานแบบใหม่ของจีนไปยังยุโรปเพิ่มขึ้นถึง 112% ปีต่อปี และ 361% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และข้อมูลของอียู ระบุว่า ปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้าของจีนคิดเป็นสัดส่วนถึง 8% ของรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดที่ขายในยุโรป และอาจจะเพิ่มขึ้นไปเป็น 15% ภายในปี 2025

ดังนั้น การเข้ามาเล่นในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของ Xiaomi ในขณะนี้จึงถือว่า เต็มไปด้วยความเสี่ยงและความท้าทายมากมาย เพราะนอกจากจะเข้ามาในช่วงที่ตลาดภายในประเทศค่อนข้างอิ่มตัวแล้ว ยังอาจจะต้องเผชิญการกีดกันจากภายนอกที่ทำให้การขยายตลาดไปนอกประเทศยากลำบากขึ้นอีก



อ้างอิง: Bloomberg, CNBC, Reuters

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT