อาลีบาบา ปรับลดพนักงานกว่า 20,000 ตำแหน่ง รายได้สุทธิร่วง 29%
ตลอดทั้งปี 2023 อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด เผชิญความจำเป็นต้องปรับลดพนักงานลงราว 20,000 ตำแหน่ง นับเป็นการบ่งชี้ถึงภาวะที่บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำทั่วโลกกำลังเผชิณแรงกดดันไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นบริษัทในซิลิคอนวัลเลย์ หรือแม้แต่ในเมืองหางโจวของจีนเอง
คอนเทนต์แนะนำ
อาลีบาบา ปรับลดพนักงานกว่า 20,000 ตำแหน่งในปี 2023 รายได้สุทธิร่วง 29% e-commerce จีนเผชิญแรงกดดัน
สำนักข่าว bloomberg ได้รายงานผลประกอบการ ณ เดือนธันวาคม 2023 อาลีบาบาซึ่งเคยมีพนักงานราว 240,000 ตำแหน่งในปี 2022 ขณะที่ต้นปี 2024 เหลือเพียง 219,260 ตำแหน่ง
สะท้อนแนวโน้มการลดพนักงานที่ค่อนข้างสม่ำเสมอ นับตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นมา อาลีบาบาเคยมีการปลดพนักงานรวม 22,857 ตำแหน่ง โดยแบ่งเป็นครึ่งปีแรก อาลีบาบา ปลดพนักงานลดลง 13,616 คน และปลายปีก็ปลดพนักงาน 9,241 คน การลดลงของจำนวนพนักงานครั้งนี้ สาเหตุหลักมาจากการที่บริษัทต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายเพื่อรักษาสภาพคล่องของบริษัทที่มีอายุมาถึง 23 ปี
ด้านผลประกอบการ อาลีบาบามีรายได้สุทธิลดลงเหลือ 22,740 ล้านหยวน หรือ 3,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 122,400 ล้านบาท ลดลงหนักถึง -29% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว สอดคล้องกับด้านกำไรสุทธิที่ลดลงรุนแรงถึง -50% ลงมาเหลือเพียง 3,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 122,400 ล้านบาท
อาลีบาบาซื้อหุ้นคืน มุ่งสู่กลยุทธ์ใหม่
นอกจากการปรับลดพนักงานแล้ว อาลีบาบายังเดินหน้ากลยุทธ์ซื้อหุ้นคืนตัวเอง (share buyback) มูลค่า 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์ที่สอดคล้องกับบริษัทเทคโนโลยีอเมริกันอย่าง Meta Platforms Inc. โดยในปี 2023 อาลีบาบาทุ่มซื้อหุ้นคืนตัวเองไปแล้ว 9,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญภายในอาลีบาบา จากเดิมที่เคยเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงสุดในจีน ต้องอาศัยพนักงานจำนวนมากเพื่อรองรับเครือข่ายธุรกิจอีคอมเมิร์ซ คลาวด์ โลจิสติกส์ และบริการอื่นๆ ที่ครอบคลุมหลายด้าน แต่ภายใต้การบริหารชุดใหม่ของแดเนียล จาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และโจ ไฉ ประธานกรรมการ อาลีบาบาทเริ่มโฟกัสไปที่การกระชับองค์กร ลดต้นทุน และเตรียมแยกหน่วยธุรกิจหลักออกเป็นบริษัทอิสระ ส่งผลให้เกิดการปลดพนักงานและขายสินทรัพย์ที่ไม่สำคัญออกไป
การปรับลดพนักงานครั้งนี้สะท้อนถึงภาพรวมของบริษัทเทคโนโลยีทั่วโลกที่กำลังเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว อาลีบาบาจำเป็นต้องปรับตัวและพลิกกลยุทธ์เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในตลาด ทั้งยังต้องเผชิญกับคู่แข่งอย่าง JD.com และ Pinduoduo ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วอีกด้วย
ที่มา bloomberg
