บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) หรือ ปตท. ได้ศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งโรงงานผลิตเมทานอลแห่งแรกของประเทศไทยในนิคมอุตสาหกรรม เพื่อเปลี่ยนคาร์บอนจากโรงงานเป็นเมทานอลสะอาด เสริมศักยภาพการแข่งขันของบริษัทไทยในยุคที่มีการเก็บภาษีคาร์บอน รวมถึงสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนของปตท. (Carbon Neutrality) ภายในปี 2040
โรงงานผลิตเมทานอลแห่งแรกของไทย ลดการปล่อยมลพิษเป็น 0
ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เผยว่า ถ้าหากปตท. สามารถจัดตั้งโรงงานเมทานอลนี้ได้สำเร็จ โรงงานนี้จะเป็นโรงงานเมทานอลแห่งแรกของไทย เพราะในปัจจุบัน ไทยยังต้องนำเข้าเมทานอลจากประเทศตะวันออกกลางที่มีการผลิตเมทานอลที่ได้จากขั้นตอนการกลั่นน้ำมัน
เมทานอลที่จะได้จากโรงงานนี้จะเป็นผลิตภัณฑ์สะอาด และช่วยลดการปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของปตท. และบริษัทที่ใช้เมทานอลดังกล่าว เพราะแทนที่จะใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลในการผลิต เมทานอลจากโรงงานนี้จะเกิดขึ้นจากการนำคาร์บอนจากโรงงานอุตสาหกรรมไปทำปฏิกิริยากับไฮโดรเจนที่แยกออกมาจากนำโดยกระบวนการอิเล็กโทรไลซิส ซึ่งเมื่อนำไปใช้ประโยชน์แล้วเกิดเป็นคาร์บอนก็จับกลับมาใช้ประโยชน์ได้อีกเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด
ดังนั้น การผลิตเมทานอลด้วยวิธีนี้จะได้ประโยชน์ถึง 4 ทาง คือ
- ได้เมทานอลสะอาดที่เกิดจากการนำคาร์บอนและไฮโดรเจนฟรีจากอากาศมารีไซเคิล ซึ่งจะทำให้บริษัทที่ใช้เมทานอลนี้มีต้นทุนถูกกว่า หากมีการเก็บภาษีคาร์บอน
- ลดการพึ่งพาการนำเข้าเมทานอลจากต่างประเทศ
- ลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของโรงงานอุตสาหกรรมโดยรอบ เสริมศักยภาพให้บริษัทไทยในการแข่งขันกับบริษัทต่างประเทศในยุคเปลี่ยนผ่านพลังงาน
- นำกิจกรรมนี้ไปสร้างคาร์บอนเครดิต ขายให้กับบริษัทที่ต้องการซื้อคาร์บอนเครดิตไปหักลบกับคาร์บอนฟุตพริ้นท์ที่ตัวเองก่อ
ทั้งนี้ การผลิตเมทานอลด้วยวิธีนี้ยังมี ข้อเสียที่สำคัญ คือ มีต้นทุนการผลิตที่สูง เมื่อหักลบกับประโยชน์ที่จะได้แล้ว อาจจะไม่คุ้มทุน แต่ก็เป็นเรื่องที่ต้องศึกษาต่อไป เพราะการตั้งโรงงานเมทานอลสะอาด ถือเป็นวิธีการลดคาร์บอนวิธีหนึ่งที่มีศักยภาพสูง และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในอนาคตของบริษัทไทยได้จริง
ส่วนด้านการสนับสนุนจากรัฐบาล ดร.บุรณิน เผยว่า ปัจจุบันยังไม่แน่ชัดว่าปตท. จะได้การสนับสนุนจากรัฐบาลหรือไม่ แต่ก็มีโอกาสเพราะไทยกำลังผลักดันให้อุตสาหกรรมในภาพรวมเข้าสู่ภาวะความเป็นกลางทางคาร์บอน และโครงการนี้ก็สามารถทำให้ไทยบรรลุเป้าหมายนี้ได้ภายในปี 2024
ปัจจุบัน ไทยมีการนำเข้าเมทานอลเพื่อนำมาเป็นวัตถุดิบในผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี เป็นสารทำละลาย ทำสารเคลือบ ใช้ในการก่อสร้าง การผลิตพลาสติก เป็นสารผสมทำเชื้อเพลิงไบโอดีเซล และ LPG และในอนาคต สามารถนำไปใช้ผลิตเชื้อเพลิงสะอาดสำหรับอากาศยาน หรือ Sustainable Aviation Fuel ได้