ธุรกิจการตลาด

ปตท.สผ. ขึ้นแท่นผู้ถือหุ้นใหญ่ ‘ยาดานา’ แหล่งก๊าซธรรมชาติพม่า หลัง Chevron ถอนลงทุนประท้วงรัฐประหาร

9 เม.ย. 67
ปตท.สผ. ขึ้นแท่นผู้ถือหุ้นใหญ่ ‘ยาดานา’ แหล่งก๊าซธรรมชาติพม่า  หลัง Chevron ถอนลงทุนประท้วงรัฐประหาร

‘เชฟรอน’ ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานจากสหรัฐฯ ถอนตัวจากธุรกิจใน ‘ยาดานา’ แหล่งก๊าซธรรมชาติในเมียนมาหลังประณามการรัฐประหาร และการละเมิดสิทธิมนุษยชนในเมียนมา และประกาศจะถอนตัวจากธุรกิจในเมียนมาตั้งแต่ 2 ปีก่อน ดันให้ ปตท.สผ. เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ 62.96%

เชฟรอนและ Unocal Corporation บริษัทลูกของเชฟรอนที่ทำธุรกิจในยาดานาประกาศจะถอนตัวจากโครงการตั้งแต่ปี 2021 หลังกองทัพเมียนมาเข้ายึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือน และเข้ายึดบริษัท Myanma Oil and Gas Enterprise (MOGE) รัฐวิสาหกิจน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่ได้กลายมาเป็นแหล่งรายได้สำคัญของคณะรัฐประหารเมียนมาตั้งแต่เกิดการรัฐประหาร

เพื่อแสดงความไม่เห็นด้วย เชฟรอนและ TotalEnergies กลุ่มบริษัทพลังงานจากฝรั่งเศสซึ่งเป็นหนึ่งในพาร์ทเนอร์ของโครงการในขณะนั้น ประกาศหยุดการรับส่งเงินจากธุรกิจยาดานาทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้มีเงินของทั้งสองบริษัทรั่วไหลไปสนับสนุนคณะรัฐประหาร ก่อนที่ TotalEnergies จะถอนตัวไปเต็มตัวในปี 2022

เชฟรอนทยอยขายสินทรัพย์ ถอนตัวออกจากโครงการอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2021 ก่อนที่ในวันจันทร์ที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา เชฟรอนจะออกมาประกาศถอนตัวจากยาดานาอย่างเป็นทางการ พร้อมประกาศโอนหุ้น 41.1% ให้กับ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ.ของไทย

การโอนหุ้นครั้งนี้ทำให้ ปตท.สผ.กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของโครงการยาดานาและพาร์ทเนอร์ในโครงการหนึ่งเดียวของรัฐบาลทหารเมียนมา โดยถืออยู่ทั้งหมด 62.96% ขณะที่ MOGE ถืออยู่ 37.04%

นักวิเคราะห์มองไม่กระทบกำไร แต่เสี่ยงถูกคว่ำบาตร

บล.กสิกรไทย ระบุว่า เนื่องจากการถอนตัวของเชฟรอนจากโครงการยาดานาเป็นการถอนการลงทุนไม่ใช่การซื้อขายสัดส่วน การโอนหุ้นนี้จะไม่มีผลกระทบต่อกำไรขาดทุนของบริษัท

ทั้งนี้ แม้กำไรของ ปตท.สผ. อาจเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากหุ้นที่ถือมากขึ้น แต่ความเสี่ยงที่สหรัฐจะคว่ำบาตรประเทศเมียนมามีสูงขึ้น โดยกิจกรรมในเมียนมาทั้งหมดของ ปตท.สผ. (ยาดานา + Zawtika) คิดเป็นประมาณ 8% ของยอดขายรวม 

ดังนั้น แม้ในตอนนี้ ปตท.สผ. ยังไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากเหตุการณ์นี้ แต่ก็เสี่ยงทำให้ได้รับผลกระทบภายหลังหากหลายๆ ประเทศที่เป็นคู่ค้าของปตท.สผ. ออกมาประกาศคว่ำบาตรสินค้าที่มาจากธุรกิจในเมียนมา

 

‘ยาดานา’ แหล่งก๊าซธรรมชาติใหญ่ของไทย

แหล่งก๊าซธรรมชาติยาดานา เป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติขนาดใหญ่กว่า 1.5 แสนล้านลูกบาศก์เมตรที่ตั้งอยู่ในทะเลอันดามัน ห่างจากชายฝั่งเมียนมาไป 60 กิโลเมตร 

แหล่งยาดานาถูกค้นพบในปี 1980 โดยในเบื้องต้นได้มีการสำรวจเพื่อทำธุรกิจมาตั้งแต่ปี 1992 จากความร่วมมือระหว่าง MOGE และ TotalEnergies ซึ่งเมื่อมีการประเมินแล้วว่าเป็นแหล่งก๊าซขนาดใหญ่ที่ทำธุรกิจได้จริง ก็มีธุรกิจพลังงานใหญ่อื่นๆ เข้ามาร่วมทุน ได้แก่ บริษัท ปตท. จำกัด ของไทย และ Unocal Corporation บริษัทลูกของเชฟรอน เพื่อสร้างฐานการผลิตและท่อส่ง

ธุรกิจนี้ถือเป็นโปรเจคสำคัญที่เชื่อมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและเมียนมา และทำให้ยาดานากลายมาเป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติที่สำคัญของไทย โดยมีการสร้างท่อส่งก๊าซธรรมชาติจากแหล่งผลิตโดยตรงมายังไทย ความยาวรวม 649 กิโลเมตร แบ่งเป็น

  • ท่อจากแหล่งผลิตไปยังชายแดนไทยยาว 409 กิโลเมตร อดีตดำเนินการโดย TotalEnergies แบ่งเป็นท่อใต้ทะเล 346 กิโลเมตร และท่อบนดินยาว 63 กิโลเมตร เชื่อมจากตะนาวศรีไปยังชายแดนไทย
  • ท่อส่งอีก 240 กิโลเมตรจากชายแดนเข้าไปยังกริดก๊าซธรรมชาติสำหรับส่งก๊าซต่อไปใช้ผลิตไฟฟ้าในโรงไฟฟ้าในราชบุรีและวังน้อย ดำเนินการโดย บริษัท ปตท. จำกัด  

ปัจจุบัน ยาดานาผลิตก๊าซธรรมชาติได้ปีละ 6 พันล้านลูกบาศก์เมตร โดย 70% ถูกส่งไปใช้ในประเทศไทยอีก 30% เก็บไว้สำหรับใช้ในเมียนมาโดย MOGE

นอกจากนี้ ก๊าซธรรมชาติจากแหล่งยาดานายังคิดเป็นประมาณ 15-20% ของก๊าซธรรมชาติที่ไทยใช้ในแต่ละปี และเป็นก๊าซธรรมชาติที่ไทยใช้สำหรับผลิตไฟฟ้าประมาณ 8% ของปริมาณไฟฟ้าที่ใช้ในแต่ละปี ทำให้แหล่งยาดานาเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญมากของรัฐบาลทหารพม่า โดยที่คู่ค้าและแหล่งรายได้สำคัญของแหล่งยาดานาก็คือประเทศไทยนี่เอง

 

อ้างอิง: Nikkei Asia, Offshore Technology

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT