แอนิเมชันญี่ปุ่นเป็นมากกว่าความบันเทิง แต่เป็นหนึ่งในวัฒนธรรมร่วมสมัยที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก สร้างรายได้มหาศาลและกวาดรางวัลระดับนานาชาติมาแล้วนับไม่ถ้วน ทว่า เบื้องหลังความสำเร็จที่เราเห็น กลับเป็นชีวิตของเหล่าผู้สร้างที่ต้องเผชิญกับความยากลำบากและการเอารัดเอาเปรียบอย่างไม่เป็นธรรม บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจปัญหาที่ซ่อนอยู่ภายใต้อุตสาหกรรมแอนิเมชันญี่ปุ่น และความพยายามของผู้คนในวงการที่ลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่ออนาคตของอนิเมะ
วิกฤตอุตสาหกรรมแอนิเมชันญี่ปุ่น ความสำเร็จที่ต้องแลกมาด้วยคราบน้ำตา
อนิเมะได้ครองใจผู้ชมและนักวิจารณ์ทั่วโลก อุตสาหกรรมแอนิเมชันของญี่ปุ่นสร้างรายได้หลายพันล้านเหรียญสหรัฐและได้รับรางวัลมากมายในแต่ละปี อย่างไรก็ตาม เบื้องหลังความสำเร็จอันงดงามนี้ ชีวิตของผู้สร้างกลับแตกต่างอย่างสิ้นเชิง เหล่าแอนิเมเตอร์รุ่นใหม่ต้องเผชิญกับสภาพการทำงานที่ยากลำบากและรายได้ที่ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ โดยเมื่อสิบปีก่อน แอนิเมเตอร์ CG ท่านหนึ่งทนไม่ไหวที่เห็นเพื่อนร่วมงานทยอยลาออก จึงริเริ่มเปิดหอพักราคาประหยัดสำหรับแอนิเมเตอร์รุ่นใหม่ เพื่อให้พวกเขาได้มีโอกาสพัฒนาทักษะและสร้างเครือข่ายกับเพื่อนร่วมอาชีพ
แม้จะมีความท้าทายอุตสาหกรรมอนิเมะของญี่ปุ่นยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องและยังได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติและคว้ารางวัลมาอย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่น สตูดิโอจิบลิก็ยังได้รับรางวัลปาล์มทองคำกิตติมศักดิ์จากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ซึ่งเป็นเพียงหนึ่งในรางวัลล่าสุดของสตูดิโอแอนิเมชันชั้นนำแห่งนี้ นอกจากนี้ร้านหนังสือ Tsutaya สาขาชิบูยะ ใจกลางกรุงโตเกียว ได้ปรับโฉมใหม่เป็นศูนย์กลางอนิเมะ ประกอบด้วยหุ่นจำลองตัวละครขนาดเท่าคนจริงและพื้นที่สำหรับเล่นการ์ดโปเกมอน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลทางวัฒนธรรมอันยิ่งใหญ่ของอนิเมะ นอกจากนี้ อุตสาหกรรมอนิเมะยังเป็นปัจจัยสำคัญในการส่งเสริมการท่องเที่ยว ดึงดูดแฟนๆ ให้เดินทางมาเยือนญี่ปุ่นเป็นจำนวนมากนมาก
เบื้องหลังความสำเร็จอันสวยหรู ของเหล่าชีวิต แอนิเมเตอร์ ที่ต้องดิ้นรน
ในขณะที่อุตสาหกรรมอนิเมะญี่ปุ่นเติบโตอย่างต่อเนื่องและได้รับการยอมรับในระดับโลก ความเป็นจริงที่อยู่เบื้องหลังภาพความสำเร็จกลับแตกต่างอย่างสิ้นเชิง เส้นทางอาชีพของแอนิเมเตอร์รุ่นใหม่เต็มไปด้วยความยากลำบากและอุปสรรค ตัวอย่างเช่น คุณ Genga แอนิเมเตอร์อิสระวัย 21 ปี ที่ทำงานในวงการนี้มาแล้ว 2 ปี เธอใฝ่ฝันที่จะได้ทำงานประจำในสตูดิโอแอนิเมชั่นชื่อดังของญี่ปุ่น แต่เส้นทางสู่ความฝันนั้นไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
Genga ต้องเผชิญกับชั่วโมงทำงานที่ยาวนานและค่าตอบแทนที่ไม่คุ้มค่า เธอเล่าว่าบางครั้งต้องทำงานติดต่อกันหลายวันโดยแทบไม่ได้พักผ่อน เพื่อให้สามารถประหยัดค่าใช้จ่าย เธออาศัยอยู่ในหอพักสำหรับแอนิเมเตอร์ที่มีค่าเช่ารวมค่าน้ำค่าไฟไม่ถึง 200 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน และแม้จะพยายามประหยัดอย่างเต็มที่ แต่ Genga และเพื่อนร่วมงานก็ยังต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก พวกเขาต้องจำกัดค่าใช้จ่ายด้านอาหาร บางคนถึงกับต้องรับจ้างงานพิเศษเพื่อให้มีรายได้เพียงพอต่อการดำรงชีพ ความเครียดและความกดดันจากการทำงานทำให้เพื่อนของเธอหลายคนต้องล้มเลิกความฝันที่จะเป็นแอนิเมเตอร์ไป
เรื่องราวของ Genga สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นจริงอันโหดร้ายที่แอนิเมเตอร์รุ่นใหม่ต้องเผชิญ แม้ว่าอุตสาหกรรมอนิเมะจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่สภาพการทำงานและค่าตอบแทนของผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จกลับไม่ได้รับการพัฒนาอย่างที่ควรจะเป็น
ผู้คร่ำหวอดในวงการแอนิเมชันยื่นมือเข้าช่วยเหลือ
แอนิเมเตอร์รุ่นเก๋า Sugawara Jun เข้ามาเป็นฮีโร่ในยามคับขันของวงการ ด้วยประสบการณ์ในฐานะแอนิเมเตอร์ CG ที่สั่งสมมานานนับทศวรรษ Sugawara มองเห็นปัญหาและความท้าทายที่แอนิเมเตอร์รุ่นใหม่ต้องเผชิญ เขาจึงไม่นิ่งเฉยและตัดสินใจใช้ความรู้ความสามารถของตนเองเพื่อยื่นมือเข้าช่วยเหลือ หนึ่งในโครงการที่ Sugawara สร้างขึ้นเพื่อช่วยเหลือแอนิเมเตอร์รุ่นใหม่ คือการเปิดหอพักราคาประหยัด ปัจจุบันมีหอพักที่เปิดให้บริการแล้วถึง 5 แห่ง โดยแต่ละแห่งไม่เพียงแต่เป็นที่พักอาศัยราคาถูกเท่านั้น แต่ยังเป็นเสมือนศูนย์กลางการเรียนรู้และพัฒนาฝีมืออีกด้วย Sugawara ทำหน้าที่เป็นทั้งพี่เลี้ยงและครูผู้ให้คำแนะนำ ตลอดจนสอนเทคนิคต่างๆ ให้กับผู้พักอาศัย โดย Genga เป็นหนึ่งในแอนิเมเตอร์รุ่นใหม่ที่ได้รับโอกาสจากโครงการของ Sugawara นอกจาก Genga แล้วยังมีอีกหลายคนที่ได้รับการสนับสนุนและได้เติบโตเป็นกำลังสำคัญในวงการแอนิเมชัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของโครงการนี้ในการสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพให้กับอุตสาหกรรม
นอกจาก Sugawara แล้ว ยังมี ค Kimura Toshiki แอนิเมเตอร์วัย 25 ปี ที่ได้เรียนรู้จาก Sugawara และแอนิเมเตอร์อาวุโสท่านอื่นๆ ที่พักอาศัยอยู่ในหอพักด้วยกัน Kimura ไม่ได้เก็บเกี่ยวความรู้ไว้เพียงลำพัง เขาส่งต่อความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับให้กับรุ่นน้องอย่าง Genga ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และสร้างแรงบันดาลใจในการทำงานร่วมกัน สำหรับกิจกรรมพบปะสังสรรค์ของหอพักเป็นอีกหนึ่งพื้นที่สำคัญที่ Sugawara จัดให้กับเหล่าแอนิเมเตอร์รุ่นใหม่ นอกจากจะเป็นโอกาสในการพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำงานแล้ว ยังเป็นเสมือนพื้นที่ปลอดภัยที่พวกเขาสามารถระบายความอัดอั้นตันใจจากปัญหาต่างๆ ที่พบเจอในสายงาน รวมถึงเป็นพื้นที่ในการสร้างแรงบันดาลใจและให้กำลังใจซึ่งกันและกัน
"การได้มาอยู่ที่นี่เหมือนเป็นการเติมพลังให้ผม" Kimura กล่าวในงานสังสรรค์ครั้งหนึ่ง "เพราะที่ทำงานเราไม่ค่อยมีโอกาสได้พูดคุยกันเรื่องอนิเมะอย่างจริงๆจังๆ" เขาเล่าถึงความรู้สึกที่ไม่สามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับอนิเมะที่เขาชื่นชอบกับเพื่อนร่วมงานได้อย่างเต็มที่ ซึ่งแตกต่างจากที่หอพักที่ทุกคนมีความสนใจร่วมกัน
สำหรับ Genga การได้พบปะพูดคุยกับเพื่อนร่วมหอพักที่มีความหลงใหลในอนิเมะเหมือนกัน ทำให้เธอรู้สึกมีกำลังใจในการทำงานมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันที่ต้องเผชิญกับความเหนื่อยล้าจากการทำงานหนักและความรู้สึกโดดเดี่ยวจากการทำงานคนเดียว โครงการของ Sugawara จึงไม่ได้เป็นเพียงแค่การช่วยเหลือด้านที่พักอาศัย แต่ยังเป็นการสร้างชุมชนและเครือข่ายให้กับแอนิเมเตอร์รุ่นใหม่ ช่วยให้พวกเขาสามารถพัฒนาทักษะ สร้างแรงบันดาลใจ และก้าวไปข้างหน้าในเส้นทางอาชีพที่พวกเขารักได้อย่างมั่นคง
ระดมทุนเพื่ออนาคตของอนิเมะญี่ปุ่น
Sugawara เปิดเผยว่าโครงการหอพักสำหรับแอนิเมเตอร์ของเขาได้รับเงินทุนสนับสนุนส่วนใหญ่มาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากสหรัฐอเมริกา ผ่านช่องทางการระดมทุนสาธารณะ ซึ่งช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน เขามีแผนที่จะขยายโครงการหอพักให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่แอนิเมเตอร์รุ่นใหม่ให้สามารถดำรงชีพและพัฒนาตนเองในวงการนี้ได้ อย่างไรก็ตาม อุปสรรคสำคัญที่ Sugawara ต้องเผชิญคืออัตราค่าตอบแทนที่ต่ำในอุตสาหกรรมแอนิเมชัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นอาชีพ
ผลสำรวจของสมาคมผู้สร้างแอนิเมชันแห่งประเทศญี่ปุ่นในปีที่ผ่านมา ระบุว่าแอนิเมเตอร์ที่มีอายุระหว่าง 20-24 ปี มีรายได้เฉลี่ยเพียง 12,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี (ประมาณ 420,000 บาท) แม้แต่แอนิเมเตอร์ระดับสูงที่มีประสบการณ์ก็ยังไม่สามารถสร้างรายได้ที่มั่นคงได้ Otsubo Hideyuki ประธานสมาคมผู้สร้างแอนิเมชันแห่งประเทศญี่ปุ่น แสดงความกังวลว่าอัตราค่าตอบแทนที่ต่ำกำลังเป็นภัยคุกคามต่ออนาคตของอุตสาหกรรมแอนิเมชัน
"เราได้รับรายงานว่าผู้ปกครองบางท่านพยายามห้ามปรามบุตรหลานไม่ให้เข้ามาทำงานในวงการนี้ โดยแนะนำให้บุตรหลานเลือกประกอบอาชีพอื่น" นอกจากนี้ Otsubo ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า "การสร้างสรรค์ผลงานแอนิเมชันที่น่าสนใจต้องอาศัยศิลปินจำนวนมาก ความเป็นจริงคือ อุตสาหกรรมนี้จำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยน"
การขาดแคลนผู้ให้คำปรึกษาในวงการแอนิเมชันญี่ปุ่น
นอกเหนือจากปัญหาเรื่องค่าตอบแทนที่ไม่เป็นธรรมแล้ว อีกหนึ่งอุปสรรคสำคัญที่เหล่าแอนิเมเตอร์รุ่นใหม่ต้องเผชิญคือการขาดแคลนผู้ให้คำปรึกษาที่มีประสบการณ์ในการทำงานจริง ซึ่งผู้ให้คำปรึกษาเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการถ่ายทอดความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ที่สั่งสมมาให้กับคนรุ่นใหม่ ช่วยให้พวกเขาสามารถพัฒนาฝีมือและเติบโตในสายอาชีพได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ
เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว บริษัท Bandai Namco Filmworks ซึ่งเป็นหนึ่งในสตูดิโอแอนิเมชันชั้นนำของญี่ปุ่น ได้ริเริ่มโครงการฝึกอบรมแอนิเมเตอร์รุ่นใหม่ ณ สถาบันฝึกอบรมที่บริษัทจัดตั้งขึ้น โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพให้กับอุตสาหกรรมแอนิเมชัน และเป็นการส่งเสริมและพัฒนาทักษะของผู้มีความสามารถให้ก้าวหน้าต่อไป
โครงการนี้เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจเข้าร่วมสามารถส่งผลงานของตนเองเพื่อพิจารณาคัดเลือก ผลงานที่ส่งเข้ามาอาจเป็นภาพวาด ภาพเคลื่อนไหว หรือผลงานอื่นๆ ที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถและศักยภาพในการเป็นแอนิเมเตอร์ หากได้รับการคัดเลือก ผู้สมัครจะได้เข้ารับการฝึกอบรมอย่างเข้มข้นเป็นระยะเวลา 1 ปีเต็ม โดยในระหว่างการฝึกอบรม ผู้เข้าร่วมจะได้เรียนรู้ทักษะและเทคนิคต่างๆ ที่จำเป็นในการทำงานแอนิเมชันจากผู้เชี่ยวชาญในวงการ นอกจากนี้ ยังมีโอกาสได้ลงมือปฏิบัติงานจริงในโปรเจกต์ต่างๆ ของบริษัท ซึ่งจะช่วยให้ผู้เข้าร่วมได้รับประสบการณ์และความรู้ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการทำงานจริงได้
นอกจากการฝึกอบรมอย่างเข้มข้นแล้ว ทางบริษัทยังมอบค่าตอบแทนให้กับผู้เข้าร่วมโครงการระหว่างการฝึกอบรมอีกด้วย ซึ่งถือเป็นการช่วยเหลือและสนับสนุนให้ผู้ที่มีความสามารถแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ได้มีโอกาสพัฒนาตนเองและเข้าสู่วงการแอนิเมชันได้อย่างเต็มศักยภาพ
ความไม่สมดุลของอำนาจคืออุปสรรคสำคัญต่อการปรับปรุงค่าตอบแทนในอุตสาหกรรมแอนิเมชัน
ผู้เชี่ยวชาญด้านแอนิเมชันมีความเห็นว่า การแก้ไขปัญหาค่าตอบแทนที่ไม่เป็นธรรมในอุตสาหกรรมแอนิเมชัน จำเป็นต้องอาศัยการแทรกแซงจากภาครัฐ เพื่อแก้ไขความไม่สมดุลของอำนาจระหว่างสตูดิโอผู้ผลิตแอนิเมชันกับกลุ่มทุนที่ให้การสนับสนุน Yasui Yosuke นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจากสถาบันวิจัยแห่งประเทศญี่ปุ่น อธิบายว่า
"กลุ่มนักลงทุนที่ให้ทุนสนับสนุนการผลิตแอนิเมชันประกอบด้วยสำนักพิมพ์ ผู้จัดจำหน่าย บริษัทโฆษณา และแม้แต่บริษัทเกมต่างๆ กลุ่มทุนเหล่านี้เป็นผู้ให้เงินทุนในการผลิตแอนิเมชัน แต่พวกเขากลับเป็นผู้ถือครองสิทธิ์ในการจัดจำหน่ายและลิขสิทธิ์ทั้งหมด ทำให้สตูดิโอไม่ได้รับผลประโยชน์ทางการเงินอย่างเป็นธรรม และส่งผลให้แอนิเมเตอร์ไม่ได้รับส่วนแบ่งที่เหมาะสม แม้ว่าผลงานนั้นจะประสบความสำเร็จในต่างประเทศและทำรายได้มหาศาลก็ตาม"
Yasui กล่าวเสริมว่า หากภาครัฐไม่เข้ามาออกกฎระเบียบเพื่อให้สตูดิโอสามารถเจรจากับกลุ่มทุนได้อย่างเท่าเทียม ปัญหาค่าตอบแทนที่ไม่เป็นธรรมก็จะยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมแอนิเมชันต่อไป
รัฐบาลญี่ปุ่นเริ่มขยับตัวรับฟังเสียงเรียกร้องจากวงการอนิเมะ
ประเทศญี่ปุ่นได้รับประโยชน์อย่างมหาศาลจากอิทธิพลของอนิเมะ ทั้งในด้านการท่องเที่ยวและการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีความหลงใหลในศิลปะแขนงนี้ให้เข้ามาทำงานและศึกษาต่อ อนิเมะเป็นอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าสูงถึง 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ผู้เชี่ยวชาญประเมินว่ามูลค่าดังกล่าวอาจเพิ่มขึ้นได้ถึง 10 เท่า หากรัฐบาลให้ความสำคัญกับปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างจริงจัง
ผู้กำกับภาพยนตร์อนิเมะชื่อดังหลายท่านได้เรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนการกระจายรายได้ในอุตสาหกรรม นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ได้ตอบสนองต่อข้อเรียกร้องดังกล่าวในเดือนเมษายน โดยสั่งการให้คณะกรรมการการค้าที่เป็นธรรม (Fair Trade Commission) ดำเนินการตรวจสอบสภาพการทำงานในอุตสาหกรรมบันเทิงของญี่ปุ่น
ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา รัฐบาลญี่ปุ่นได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์ "Cool Japan" ฉบับใหม่ โดยมีเป้าหมายในการเผยแพร่อนิเมะและวัฒนธรรมญี่ปุ่นอื่น ๆ ไปยังต่างประเทศ เพื่อสร้างรายได้ประมาณ 3.2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2033 นอกจากนี้ แผนยุทธศาสตร์ยังมุ่งเน้นการปรับปรุงสภาพการทำงานของผู้สร้างสรรค์ผลงานอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม โยสุเกะ ยาซุย จากสถาบันวิจัยญี่ปุ่น (Japan Research Institute) มองว่าแผนการของรัฐบาลยังไม่ครอบคลุมเพียงพอ ด้าน ซึงาวาระ ผู้บริหารหอพักสำหรับแอนิเมเตอร์ เห็นด้วยกับความคิดเห็นดังกล่าว โดยเชื่อว่าสตูดิโอและแอนิเมเตอร์จะได้รับการสนับสนุนที่จำเป็นในการสร้างสรรค์ผลงานที่น่าประทับใจต่อไปได้ ก็ต่อเมื่อรัฐบาลให้ความสำคัญและแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง
ที่มา NHK