ธุรกิจการตลาด

บริษัทญี่ปุ่นกำไรพุ่ง! กว่า 70% เยนอ่อน-AI บูม โตโยต้า-ฮอนด้า นำทัพ

19 ส.ค. 67
บริษัทญี่ปุ่นกำไรพุ่ง! กว่า  70% เยนอ่อน-AI บูม โตโยต้า-ฮอนด้า นำทัพ

ตลาดหุ้นญี่ปุ่นช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมาคึกคักเป็นพิเศษ! บริษัทจดทะเบียนกว่า 70% ทำผลงานได้ดีเกินคาด โดยเฉพาะกลุ่มยานยนต์และ AI ที่โกยกำไรเข้ากระเป๋าจากค่าเงินเยนอ่อนค่า บริษัทยักษ์ใหญ่อย่างโตโยต้าและฮอนด้าก็ไม่น้อยหน้า ฟันกำไรเพิ่มขึ้นอย่างสวยงาม ส่วนน้องใหม่มาแรงอย่างฮิตาชิก็แจ้งเกิดด้วยกำไรโต 150% อะไรเป็นปัจจัยหนุนความสำเร็จนี้ และบริษัทใดบ้างที่ต้องเจอกับความท้าทาย? ไปติดตามกันเลย!

บริษัทญี่ปุ่นกำไรพุ่ง! กว่า 70% เยนอ่อน-AI บูม โตโยต้า-ฮอนด้า นำทัพ

บริษัทญี่ปุ่นกำไรพุ่ง! กว่า 70% เยนอ่อน-AI บูม โตโยต้า-ฮอนด้า นำทัพ

รายงานของทาง nikkeiasia เผยผลการสำรวจพบว่า บริษัทจดทะเบียนในญี่ปุ่นกว่า 70% มีผลกำไรสุทธิในไตรมาสเมษายน-มิถุนายน สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยเฉพาะบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับประโยชน์จากค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลง

ทาง นิกเคอิ ยังได้ทำการรวบรวมและวิเคราะห์ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนประมาณ 130 แห่งที่รายงานกำไรสุทธิในไตรมาสดังกล่าว และมีการคาดการณ์ผลประกอบการโดยบริษัทหลักทรัพย์อย่างน้อยสามแห่ง โดยไม่รวมสถาบันการเงินและบริษัทที่ไม่มีการคาดการณ์ภายในสำหรับปีงบประมาณสิ้นสุดเดือนมีนาคม 2568 จากนั้นจึงนำผลประกอบการจริงของบริษัทมาเปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยของการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์จาก QUICK Consensus

โตโยต้า ฮอนด้า ซูซูกิ ยังคงโต จากค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลง

บริษัทญี่ปุ่นกำไรพุ่ง! กว่า 70% เยนอ่อน-AI บูม โตโยต้า-ฮอนด้า นำทัพ

โตโยต้า มอเตอร์ เป็นบริษัทที่มีผลต่างระหว่างการคาดการณ์ของตลาดและผลประกอบการจริงมากที่สุด โดยมีกำไรสุทธิในไตรมาสนี้เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เป็น 1.33 ล้านล้านเยน (8.98 พันล้านดอลลาร์) ในขณะที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะลดลง 7% สำหรับอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยในไตรมาสนี้ อยู่ที่ประมาณ 156 เยนต่อดอลลาร์ ซึ่งอ่อนค่าลงประมาณ 20 เยนจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลงส่งผลให้โตโยต้ามีกำไรเพิ่มขึ้นถึง 370 พันล้านเยน ซึ่งสามารถชดเชยผลกระทบจากการระงับการขนส่งรถยนต์บางรุ่นเนื่องจากปัญหาการรับรอง

สำหรับค่าเงินเยนที่อ่อนค่ายังส่งผลดีต่อบริษัทที่พึ่งพาอุปสงค์จากต่างประเทศ กำไรสุทธิของ ฮอนด้า มอเตอร์ สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้เกือบ 60 พันล้านเยน โดยได้รับผลประโยชน์จากอัตราแลกเปลี่ยน 47.5 พันล้านเยน และรถยนต์ไฮบริดราคาสูงก็ยังคงทำยอดขายได้ดี ด้านซูซูกิ มอเตอร์ ยังได้รับประโยชน์จากค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลง โดยมีกำไรเพิ่มขึ้น 37.5 พันล้านเยน ในขณะเดียวกัน การปรับราคาขายในประเทศช่วยชดเชยค่าใช้จ่ายด้านแรงงานและการวิจัยและพัฒนาที่เพิ่มสูงขึ้น

ผลประกอบการบริษัทญี่ปุ่นทะลุเป้า!

บริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ก็มีผลประกอบการที่โดดเด่นเช่นกัน เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก กำไรสุทธิของฮิตาชิอยู่ที่ 175.3 พันล้านเยน เพิ่มขึ้น 150% เมื่อเทียบกับปีก่อน และสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ถึง 70% ธุรกิจระบบส่งและจำหน่ายไฟฟ้ามีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางการลงทุนในศูนย์ข้อมูลที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว และฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศก็มีผลการดำเนินงานที่น่าพอใจเช่นกัน ด้านการขนส่งอุปกรณ์การผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่แข็งแกร่งของโตเกียว อิเล็กตรอน ช่วยยกระดับกำไรสุทธิขึ้น 96% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เป็น 126.1 พันล้านเยน ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ 30%

ส่วนต่างกำไรของผู้ผลิตเหล็ก JFE Holdings หดตัวลงเนื่องจากสภาวะตลาดที่ไม่เอื้ออำนวย อันเป็นผลมาจากความต้องการเหล็กในจีนที่ลดลง นอกจากนี้จากการสำรวจบริษัทประมาณ 1,080 แห่งที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว Prime market ซึ่งมีปีงบประมาณสิ้นสุดในเดือนมีนาคม พบว่า 60% ของบริษัทเหล่านี้มีกำไรเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าในช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายน ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบ 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน รายชื่อนี้ไม่รวมบริษัทสาขาบางแห่งที่บริษัทแม่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ด้วย

บางบริษัทอาจได้รับผลกระทบ แต่ภาพรวมเศรษฐกิจญี่ปุ่นยังคงแข็งแกร่ง

บริษัทญี่ปุ่นกำไรพุ่ง! กว่า 70% เยนอ่อน-AI บูม โตโยต้า-ฮอนด้า นำทัพ

อย่างไรก็ตาม บริษัทที่ทำผลงานได้ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงขึ้นในสหรัฐฯ และภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงในจีน โดยเฉพาะ นิสสัน มอเตอร์ ที่กำไรสุทธิของ นิสสัน ลดลง 73% เหลือ 28.5 พันล้านเยน ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้กว่า 70 พันล้านเยน การเพิ่มแรงจูงใจในการขายเพื่อกระตุ้นความต้องการในสหรัฐฯ กลายเป็นภาระสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการ

สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจญี่ปุ่นในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของภาคธุรกิจ แม้จะมีบริษัทบางส่วนที่ต้องเผชิญกับความท้าทาย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลง และความต้องการเทคโนโลยี AI ที่เพิ่มสูงขึ้น ได้กลายเป็นแรงส่งสำคัญที่ผลักดันให้บริษัทญี่ปุ่นส่วนใหญ่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเกินคาด ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ญี่ปุ่นยังคงแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการปรับตัวและเติบโตต่อไปได้อย่างแข็งแกร่ง

ที่มา nikkeiasia

advertisement

SPOTLIGHT