ธุรกิจการตลาด

Zara ชูกลยุทธ์ "แม่นยำ" เหนือ "รวดเร็ว" ตอบโจทย์ลูกค้ายุคปัจจุบัน

29 ต.ค. 67
Zara ชูกลยุทธ์ "แม่นยำ" เหนือ "รวดเร็ว" ตอบโจทย์ลูกค้ายุคปัจจุบัน

ในยุคที่กระแส Fast Fashion ถาโถม แบรนด์เสื้อผ้าต่างแข่งขันกันรุกตลาดด้วย "ความรวดเร็ว" แต่ Zara กลับเลือกเดินเกมส์สวนกระแส โดยชู "ความแม่นยำ" ในการเข้าใจและตอบสนองความต้องการของลูกค้า ให้เป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จ ล่าสุดซีอีโอแห่ง Inditex บริษัทแม่ของ Zara แบรนด์แฟชั่นยักษ์ใหญ่จากสเปน เผยถึงกลยุทธ์สำคัญที่ขับเคลื่อนให้ Zara ครองใจลูกค้าทั่วโลก โดยย้ำว่า "ความแม่นยำ" ในการวิเคราะห์และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า สำคัญยิ่งกว่า "ความรวดเร็ว" ในการออกสินค้า ซึ่งสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ขององค์กรที่มุ่งลดปริมาณสินค้าคงคลัง และตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อมที่ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญ

Zara ชูกลยุทธ์ "แม่นยำ" เหนือ "รวดเร็ว" ตอบโจทย์ลูกค้ายุคปัจจุบัน

Zara ชูกลยุทธ์ "แม่นยำ" เหนือ "รวดเร็ว" ตอบโจทย์ลูกค้ายุคปัจจุบัน

Oscar Garcia Maceiras ซีอีโอ Inditex บริษัทแม่ของ Zara แบรนด์เสื้อผ้าชั้นนำระดับโลกจากสเปน เปิดเผยถึงกลยุทธ์สำคัญที่ผลักดันให้ Zara ประสบความสำเร็จ โดยเน้นย้ำว่า "ความแม่นยำ" ในการวิเคราะห์และตอบสนองความต้องการของลูกค้า มีความสำคัญยิ่งกว่า "ความรวดเร็ว" ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ขององค์กรในการลดปริมาณสินค้าคงคลัง และตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อมที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญมากขึ้น

ในการให้สัมภาษณ์กับ Nikkei Asia โดย Garcia Maceiras ระบุว่า Zara สามารถควบคุมปริมาณสินค้าคงคลังให้อยู่ในระดับต่ำ และจำหน่ายสินค้าในราคาปกติได้ในสัดส่วนสูงสุด โดยอาศัยเครือข่ายฐานการผลิตที่กระจายตัวอยู่ในภูมิภาคใกล้เคียงกับสำนักงานใหญ่ในประเทศสเปน เพื่อรักษาความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการสต็อกสินค้า

"เราไม่ได้มุ่งเน้นที่ความรวดเร็วเป็นสำคัญ แต่ให้ความสำคัญกับความแม่นยำในการเข้าใจและตอบสนองความต้องการของลูกค้า" Garcia Maceiras กล่าวในระหว่างการประชุม Global Management Dialogue ซึ่งจัดขึ้นโดย Nikkei ร่วมกับ IMD สถาบันธุรกิจชั้นนำจากสวิตเซอร์แลนด์

นอกจากนี้ Garcia Maceiras ยังเปิดเผยข้อมูลสำคัญว่า 50% ของกำลังการผลิตทั้งหมดของ Inditex มาจากโรงงานในประเทศสเปน โปรตุเกส โมร็อกโก และตุรกี "เครือข่ายฐานการผลิตที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคใกล้เคียงกันนี้ ช่วยให้เรามีความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนแผนการผลิต เพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้อย่างทันท่วงที แม้จะต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนด้านปริมาณสต็อกสินค้า" Garcia Maceiras กล่าวเสริม

Inditex มุ่งมั่นสู่ความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมแฟชั่นยุคใหม่

Zara ชูกลยุทธ์ "แม่นยำ" เหนือ "รวดเร็ว" ตอบโจทย์ลูกค้ายุคปัจจุบัน

โดยทั่วไปแล้ว ผู้ประกอบการค้าปลีกสินค้าแฟชั่นที่เน้นความรวดเร็ว มักกำหนดแผนการผลิตและปริมาณสินค้าคงคลังล่วงหน้าประมาณ 6 เดือนก่อนฤดูกาลจำหน่าย Garcia Maceiras แสดงความเชื่อมั่นว่า Inditex สามารถรักษาความเป็นผู้นำ และปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การเติบโตของแพลตฟอร์มออนไลน์จากประเทศจีน เช่น Shein และ Temu

"อุตสาหกรรมแฟชั่นมีลักษณะกระจายตัว และประกอบด้วยผู้เล่นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม หากเรามีโมเดลธุรกิจที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด เราย่อมสามารถแข่งขันและธำรงความสามารถในการแข่งขันไว้ได้" เขากล่าว "ปรัชญาขององค์กร คือ การทำให้แฟชั่นเป็นสิ่งที่เข้าถึงได้ โดยคำนึงถึงคุณภาพ ความคิดสร้างสรรค์ การออกแบบ ความยั่งยืน และระดับราคาที่เหมาะสม"

Garcia Maceiras กล่าวถึงประเด็นความยั่งยืน ซึ่งเป็นปัจจัยที่ผู้บริโภคในอุตสาหกรรมแฟชั่นให้ความสำคัญมากขึ้นในปัจจุบัน โดยยืนยันว่า Inditex ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่าสองทศวรรษ

"เรามีโมเดลเศรษฐกิจหมุนเวียน โดยนำวัสดุเหลือใช้จากสิ่งทอ กลับมาใช้ซ้ำและรีไซเคิล เพื่อแปรรูปเป็นเส้นใยและวัสดุใหม่" เขากล่าว "บริษัทมีแผนจะลงทุน 1.8 พันล้านยูโร (1.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพด้านโลจิสติกส์" ภายในปีงบประมาณ 2568 "เพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า และเพิ่มความสามารถในการจัดส่งสินค้า ให้สอดคล้องกับความต้องการด้านเวลาและสถานที่"

Garcia Maceiras กล่าวสรุปในระหว่างการประชุมทางโทรศัพท์เพื่อนำเสนอผลประกอบการของบริษัทเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาว่า "แผนงานต่างๆ กำลังดำเนินไปตามเป้าหมายที่วางไว้"

Zara แม่นยำ เหนือ รวดเร็ว สู่ความสำเร็จที่ยั่งยืนในอุตสาหกรรมแฟชั่น

Zara ชูกลยุทธ์ "แม่นยำ" เหนือ "รวดเร็ว" ตอบโจทย์ลูกค้ายุคปัจจุบัน

กลยุทธ์ "แม่นยำ" เหนือ "รวดเร็ว" ที่ Zara นำมาใช้ ถือเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันอย่างยั่งยืนในอุตสาหกรรมแฟชั่น โดยมิได้เป็นเพียงการตอบสนองต่อกระแสความยั่งยืนเท่านั้น แต่ยังสอดคล้องกับวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ขององค์กรในการสร้างความมั่นคงทางธุรกิจ ด้วยการ

  • ลดทอนความเสี่ยง: การมุ่งเน้นการผลิตสินค้าที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ช่วยลดปริมาณสินค้าคงคลัง ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนการจัดเก็บลดลง และลดโอกาสการเกิดภาวะขาดทุนจากสินค้าล้าสมัย
  • เสริมสร้างความยืดหยุ่นในการดำเนินงาน: เครือข่ายฐานการผลิตที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคใกล้เคียงกับตลาด ช่วยให้ Zara สามารถปรับเปลี่ยนแผนการผลิต เพื่อตอบสนองต่อพลวัตของอุตสาหกรรม และความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างทันท่วงที
  • ส่งเสริมภาพลักษณ์เชิงบวก: การดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของความยั่งยืน สอดคล้องกับความตระหนักรู้ด้านสิ่งแวดล้อมของผู้บริโภคยุคใหม่ ซึ่งช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของแบรนด์ในสายตาสาธารณชน
  • ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน: การผสาน "ความแม่นยำ" เข้ากับ "ความรวดเร็ว" อย่างสมดุล ช่วยให้ Zara สามารถรักษาสถานะความเป็นผู้นำ และแข่งขันในตลาด Fast Fashion ที่มีการแข่งขันสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ดี แม้ Zara จะมีความโดดเด่นในด้านความแม่นยำ แต่ก็ยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายต่างๆ เช่น การแข่งขันจากคู่แข่ง พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป และความผันผวนทางเศรษฐกิจ ด้วยวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน การปรับตัวเชิงรุก และการลงทุนในนวัตกรรม Zara มีศักยภาพในการธำรงไว้ซึ่งความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมแฟชั่น และส่งมอบประสบการณ์ที่เป็นเลิศให้กับลูกค้า เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืนในระยะยาว

ที่มา nikkeiasia

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT