โลกธุรกิจหมุนเร็ว ใครปรับตัวไม่ทันก็อาจต้องล้มหายตายจากไป ปรากฏการณ์ที่เห็นได้ชัดเจนในขณะนี้ คือ การปิดตัวลงของร้านอาหารชื่อดังหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ระดับโลกอย่างเวนดี้ส์ เดนนีส์ หรือ TGI Fridays ที่ต่างก็ประกาศปิดสาขาจำนวนมากในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน สร้างความตกตะลึงให้กับวงการอาหาร และจุดประกายคำถามถึงอนาคตของธุรกิจร้านอาหาร อะไรคือสาเหตุที่ทำให้เชนร้านอาหารยักษ์ใหญ่เหล่านี้ต้องตัดสินใจลดขนาดธุรกิจ? อะไรคือความท้าทายที่ผู้ประกอบการร้านอาหารกำลังเผชิญ? และจะปรับตัวอย่างไรให้รอดพ้นจากวิกฤตนี้?
ช็อค! เชนร้านอาหารดัง Wendy’s,Denny’s ,TGI Fridays ปิดสาขาทั่วประเทศ
ในระหว่างการประชุมเพื่อรายงานผลประกอบการเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เวนดี้ส์ (Wendy’s) แบรนด์ร้านอาหารบริการด่วนชั้นนำระดับโลก ได้ประกาศแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งสำคัญ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบธุรกิจในภาพรวม หนึ่งในกลยุทธ์หลักคือการปิดสาขาที่ผลประกอบการต่ำกว่าเป้าหมายจำนวน 140 แห่งภายในสิ้นปี 2567
นายเคิร์ก แทนเนอร์ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเวนดี้ส์ กล่าวว่า "แผนการปรับโครงสร้างในครั้งนี้จะช่วยเสริมศักยภาพทางธุรกิจของบริษัทให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น" โดยสาขาที่อยู่ในแผนการปิดให้บริการนั้น ส่วนใหญ่เป็นสาขาที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจค่อนข้างต่ำ และมีรูปแบบร้านที่ไม่สอดคล้องกับทิศทางของแบรนด์ในปัจจุบัน โดยสาขาเหล่านี้มีรายได้เฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของสาขาอื่นๆ
การปิดสาขาที่ไม่สามารถสร้างผลกำไรได้ตามเป้าหมาย และการปรับปรุงรูปแบบร้านให้มีความทันสมัย จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ และช่วยให้เวนดี้ส์สามารถจัดสรรทรัพยากรไปยังสาขาที่มีศักยภาพในการเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เดนนีส์ประกาศแผนปรับโครงสร้างธุรกิจ ปิดสาขา 150 แห่ง ภายในปี 2568
เดนนีส์ คอร์ปอเรชั่น ( Denny’s) ผู้ดำเนินธุรกิจร้านอาหารแฟรนไชส์ภายใต้แบรนด์ "เดนนีส์" ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะร้านอาหารที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ได้ประกาศแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งสำคัญ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานและยกระดับผลประกอบการ หนึ่งในกลยุทธ์หลักคือการปิดสาขาที่ผลประกอบการต่ำกว่าเป้าหมายจำนวน 150 แห่ง ภายในสิ้นปี 2568
แม้จะยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับสาขาที่จะปิดให้บริการ แต่แหล่งข่าวจากบริษัทระบุว่า สาขาที่อยู่ในแผนการปิดให้บริการนั้น ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ในระดับต่ำ และ/หรือ มีรูปแบบร้านที่ล้าสมัย ไม่สอดคล้องกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม เดนนีส์ คอร์ปอเรชั่น ยืนยันว่า การปิดสาขาในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจระยะยาว โดยบริษัทมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน การลดต้นทุน และการจัดสรรทรัพยากรไปยังสาขาที่มีศักยภาพในการเติบโต รวมถึงการขยายสาขาใหม่ในพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่มีแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง
"การตัดสินใจปิดสาขาที่ไม่สามารถสร้างผลกำไรได้ตามเป้าหมาย เป็นกลยุทธ์ที่สำคัญในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของเราในระยะยาว" โฆษกของเดนนีส์ คอร์ปอเรชั่น กล่าว "เราเชื่อมั่นว่า แผนการปรับโครงสร้างในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต"
ทั้งนี้ เดนนีส์ คอร์ปอเรชั่น ยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนสาขาให้เติบโตขึ้น 3-4% ภายในปี 2568 ซึ่งการปิดสาขาที่ผลประกอบการต่ำกว่าเป้าหมายในครั้งนี้ จะช่วยเร่งกระบวนการขยายสาขาใหม่ให้รวดเร็วยิ่งขึ้น
TGI Fridays ปิดฉากฟ้าผ่า! 50 สาขาร้าง อาจถึงคราวล้มละลาย
สัญญาณขาลงของธุรกิจร้านอาหารยังคงปรากฏให้เห็นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด TGI Fridays เชนร้านอาหารชื่อดังสัญชาติอเมริกัน ตัดสินใจปิดสาขาแบบฟ้าผ่ากว่า 50 แห่งทั่วประเทศภายในสัปดาห์ที่ผ่านมา สร้างความประหลาดใจให้กับลูกค้าและพนักงานจำนวนมาก
รายงานข่าวจาก CNN ระบุว่า การปิดสาขาครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน โดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า ซึ่งส่งผลกระทบต่อพนักงานหลายร้อยคนที่ต้องตกงานแบบไม่ทันตั้งตัว ขณะที่ Wall Street Journal รายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงในว่า TGI Fridays กำลังพิจารณาที่จะยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์จากการล้มละลายตามมาตรา 11 ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงปัญหาทางการเงินที่รุนแรงของบริษัท
การปิดสาขาของ TGI Fridays สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายที่ธุรกิจร้านอาหารกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นภาวะเงินเฟ้อ ต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น การแข่งขันที่รุนแรง และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของร้านอาหาร
จากสถานการณ์ดังกล่าว สะท้อนให้เห็นว่า ธุรกิจร้านอาหารจำเป็นต้องปรับตัวอย่างรวดเร็ว เพื่อรับมือกับความท้าทายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงาน การควบคุมต้นทุน การพัฒนาเมนูอาหาร และการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมและดึงดูดลูกค้าใหม่
วิกฤตเชนร้านอาหารระดับโลก บทเรียนสำคัญสู่ความอยู่รอด
การปรับโครงสร้างธุรกิจและการปิดสาขาของเชนร้านอาหารชั้นนำระดับโลกอย่างเวนดี้ส์ เดนนีส์ และ TGI Fridays เป็นปรากฏการณ์ที่สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายอันหลากหลายที่อุตสาหกรรมร้านอาหารกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน ปัจจัยเหล่านี้ประกอบด้วยภาวะเงินเฟ้อที่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนวัตถุดิบ การแข่งขันที่ทวีความรุนแรงขึ้น และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งล้วนส่งผลโดยตรงต่อผลประกอบการของธุรกิจร้านอาหาร และกระตุ้นให้เกิดการปรับตัวเชิงกลยุทธ์เพื่อความอยู่รอด
จากสถานการณ์การปิดสาขาจำนวนมาก ผู้ประกอบการร้านอาหารจึงจำเป็นต้องตระหนักถึงความสำคัญของการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ การควบคุมคุณภาพของอาหารและวัตถุดิบ และการยกระดับมาตรฐานการบริการลูกค้า เพื่อลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มรายได้ให้สูงสุด นอกจากนี้ การปรับตัวให้ทันต่อความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยแห่งความสำเร็จ ซึ่งรวมถึงการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาประยุกต์ใช้ การพัฒนาเมนูอาหารให้มีความหลากหลายและตอบโจทย์ และการสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้แก่ลูกค้า
ที่สำคัญ ผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญกับการวางแผนบริหารความเสี่ยงเชิงรุก เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน เช่น ภาวะเศรษฐกิจถดถอย การแพร่ระบาดของโรค หรือภัยพิบัติทางธรรมชาติ อันอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจ แม้จะต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย แต่อุตสาหกรรมร้านอาหารยังคงมีศักยภาพในการเติบโต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดเกิดใหม่ และกลุ่มผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพ ร้านอาหารที่สามารถปรับตัว นำเสนอนวัตกรรม และสร้างความแตกต่าง ย่อมมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จและเติบโตอย่างยั่งยืน
ปัจจัยแห่งความสำเร็จในอนาคต ประกอบด้วย การพัฒนาเมนูอาหาร รูปแบบการบริการ และช่องทางการขายรูปแบบใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการและสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า การนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน เช่น ระบบสั่งอาหารออนไลน์ ระบบบริหารจัดการร้านอาหาร และการวิเคราะห์ข้อมูล และการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เช่น การลดปริมาณขยะ การใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า และการสนับสนุนการใช้วัตถุดิบจากท้องถิ่น
การปิดสาขาของเชนร้านอาหารระดับโลก ถือเป็นสัญญาณเตือนที่สำคัญ ที่กระตุ้นให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมร้านอาหารตื่นตัว และเร่งปรับตัวให้เท่าทันต่อพลวัตและความเปลี่ยนแปลง ร้านอาหารที่สามารถปรับตัว นำเสนอคุณค่า และสร้างประสบการณ์อันเป็นเลิศให้แก่ลูกค้า ย่อมสามารถก้าวข้ามผ่านอุปสรรค และบรรลุเป้าหมายแห่งความสำเร็จอย่างยั่งยืนในอนาคต
อ้างอิง ktla