ธุรกิจการตลาด

หลุยส์ วิตตอง ขึ้นราคาเริ่มวันนี้ เหตุจาก ต้นทุนแพง แฟนคลับคาดราคาอาจแพงขึ้น 20%

17 ก.พ. 65
หลุยส์ วิตตอง ขึ้นราคาเริ่มวันนี้ เหตุจาก ต้นทุนแพง  แฟนคลับคาดราคาอาจแพงขึ้น 20%

สาวๆ คนไหนที่กำลังจะให้รางวัลตัวเองเป็น “กระเป๋าหลุยส์ วิตตอง” สวยๆ ดีๆ สักใบ คงต้องเตรียมเงินไว้เพิ่มอีกสักหน่อย เพราะวันนี้ (17 ก.พ. 65) สินค้าแบรนด์ หลุยส์ วิตตอง ขึ้นราคาพร้อมกันแล้วทุกช็อป ทั่วโลก

 

istock-458871801
 
โฆษกจากแบรนด์ “หลุยส์ วิตตอง” แบรนด์แฟชั่นสัญชาติฝรั่งเศสขวัญใจคนทั่วโลก ประกาศเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ว่า ทุกหน้าร้านของหลุยส์ วิตตอง ทั่วโลก จะปรับขึ้นราคาพร้อมกันในวันที่ 17 ก.พ. นี้ นับเป็น แบรนด์ไฮเอนด์แบรนด์แรกของปีที่นี้ ที่ปรับขึ้นราคาเพื่อรักษาผลกำไรของบริษัท หลังจากที่ในปีก่อน หลายแบรนด์ได้ขยับราคาสินค้าขึ้นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดยโฆษกของ หลุยส์ วิตตอง ได้เปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า “ราคาที่ปรับขึ้นนั้น เกิดจากปัจจัยต้นทุนการผลิต ต้นทุนวัตถุดิบ ค่าขนส่งสินค้า รวมถึงเงินเฟ้อ” ส่วนกลุ่มสินค้าที่จะมีการขยับราคาขึ้น ได้แก่สินค้าในกลุ่ม เครื่องหนัง เครื่องประดับ และน้ำหอม โดยโฆษกไม่ได้เปิดเผยว่า จะขึ้นราคาสินค้าแต่ละชนิดมากน้อยเพียงใด
 

195726


เว็บไซต์ “PurseBop” ซึ่งติดตามราคาสินค้าในกลุ่มแฟชั่น คาดว่า ราคาสินค้าอาจปรับเพิ่มขึ้นราว 4% สำหรับสินค้าระดับล่าง และ เพิ่มขึ้นถึง 15 - 18% สำหรับสินค้าระดับบน

 
อย่างไรก็ตาม บล็อกเกอร์ชาวจีนบางส่วนคาดว่า ราคาสินค้าของหลุยส์ วิตตองรุ่นยอดฮิต เช่น รุ่น “Capucines” และ “Neverfull” อาจพุ่งสูงถึง 20% ในประเทศจีน

 

กระเป๋ารุ่น Capucines

 

ราคาเดิม 235,540 บาท

คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นเป็น 282,648 บาท

เพิ่มขึ้น 47,108 บาท

 

กระเป๋ารุ่น Neverfull

 

ราคาเดิม 60,790 บาท

คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นเป็น 72,948 บาท

เพิ่มขึ้น 12,158 บาท

 

417683
 
ในปี 2021 ที่ผ่านมา สินค้ากลุ่มแฟชั่นและเครื่องหนังของกลุ่ม LVMH บริษัทแม่ของ หลุยส์ วิตตอง และ ดิออร์ ทำยอดขายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยทำยอดขายสูงกว่าปีที่ผ่านมาถึง 44%

ซีอีโออภิมหาเศรษฐี “Bernard Arnault” แห่งกลุ่ม LVMH บริษัทแม่ของ หลุยส์ วิตตอง และ ดิออร์ ก็ได้เกริ่นไว้ในปีที่แล้วว่า กลุ่ม LMVH เตรียมขึ้นราคาสินค้าในระดับที่ “เห็นว่าเหมาะสม” จากบรรยากาศเงินเฟ้อที่กดดันผลกำไรของบริษัทอยู่
 

526889


ในช่วงการระบาดของโควิด-19 สินค้าแบรนด์หรูต่าง ๆ มียอดขายพุ่งสูงขึ้น จากปริมาณความต้องการสินค้าที่สูงขึ้น ทำให้แบรนด์เหล่านี้ มีอำนาจต่อรองเพิ่มขึ้น และอาศัยจังหวะนี้ เพิ่มราคาสินค้าของตนได้

 

ดังเช่น แบรนด์ ชาแนล (Chanel) ที่ปรับขึ้นราคากระเป๋าถือรุ่นยอดนิยม “Classic Flap” เกือบ 60% จากระดับก่อนเกิดการระบาด และกระเป๋าบางรุ่นมีราคาเพิ่มขึ้นถึงสามเท่าเมื่อปีที่แล้ว

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT