เกมภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมทรัมป์ ทำอเมริกาเสียมากกว่าได้?
แคนาดาขยับ รับมือภาษีทรัมป์ดุเดือด
มาร์ก คาร์นีย์ ว่าที่นายกรัฐมนตรีของแคนาดา กล่าวว่า เขาพร้อมที่จะเจรจาข้อตกลงการค้าฉบับใหม่กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตราบใดที่สหรัฐฯ ยังมีความเคารพต่ออำนาจอธิปไตยของแคนาดา คาร์นีย์ให้ความเห็นดังกล่าวระหว่างเยี่ยมชมโรงงานเหล็กในเมืองแฮมิลตัน รัฐออนแทรีโอ หลังแคนาดาดำเนินมาตรการตอบโต้โดยเรียกเก็บเงิน 29,800 ล้านดอลลาร์แคนาดา หรือราว 20,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ กับสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เมืองแฮมิลตัน รัฐออนแทรีโอ เป็นที่ตั้งของโรงงานเหล็กสองแห่งที่ใหญ่ที่สุดในแคนาดามาอย่างยาวนาน ทั้งขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งแรงงานที่เข้มแข็ง ด้านรอน เวลส์ ประธานสหภาพแรงงาน United Steelworkers กล่าวว่า ความวุ่นวายทางการค้าที่เกิดจากการเก็บภาษีศุลกากรแบบขึ้น ๆ ลง ๆ ของประธานาธิบดีทรัมป์ทำให้เกิดความตึงเครียดอย่างหนักในช่วงแรก แต่พอเวลาผ่านมาถึงจุดนี้ ผู้คนก็เริ่มเบื่อหน่ายกับประเด็นภาษีศุลกากรเสียแล้ว
ด้านบริษัท Algoma Steel ของแคนาดา ( ASTL ) กล่าวว่าบริษัทจะระงับการจัดส่งเหล็กกล้าและอะลูมิเนียมทั้งหมดไปยังสหรัฐฯ เป็นการชั่วคราวเพื่อตอบสนองต่อภาษีศุลกากร
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากการยกเว้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมต่อแคนาดาและเม็กซิโกสิ้นสุดลงแล้ว จึงมีผลบังคับใช้อัตโนมัติตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งคาร์นีย์ออกมาประณามการขึ้นภาษีรอบล่าสุดของสหรัฐฯ ว่า ไร้เหตุผล พร้อมตอกย้ำว่าประชาชนทุกคนจะมีชีวิตที่ดีขึ้น ก็ต่อเมื่อสหรัฐฯ และแคนาดากลับมาเริ่มต้นสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจและความมั่นคงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอีกครั้ง ผู้คนเริ่มรู้สึกเบื่อหน่ายกับภาษีศุลกากรแล้ว
แม้ว่าที่ผู้นำแคนาดาจะเปิดทางเจรจากับทรัมป์ แต่ความตึงเครียดของสงครามการค้าไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อย เพราะล่าสุด ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ออกมาประกาศกร้าวว่า จะเดินหน้าขึ้นภาษีนำเข้าเพิ่มเติมอีกในอนาคต พร้อมแสดงท่าทีแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน หลังแคนาดาดำเนินมาตรฐการตอบโต้ด้านภาษี ทรัมป์ระบุว่า ไม่ว่าแคนาดาจะคิดเงินพวกเราเท่าไหร่ สหรัฐฯ ก็จะคิดเงินแคนาดากลับเท่านั้น
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีออนแทรีโอ ดั๊ก ฟอร์ด พร้อมด้วยตัวแทนของรัฐบาลกลางแคนาดา จะเข้าพบกับรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ โฮเวิร์ด ลัทนิค เพื่อเจรจารับระดับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในวันนี้ ด้านโดมินิก เลอบลองค์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ หวังว่า จะสามารถหาหนให้เศรษฐกิจของทั้งสองฝ่ายสามารถเจริญรุ่งเรืองได้อย่างรวดเร็ว และเราจะไม่มีการโต้ตอบกันเรื่องภาษีศุลกากรในลักษณะนี้อีก ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อผู้บริโภคชาวแคนาดาหรือชาวอเมริกันเลย
หมากเกมภาษี ดีหรือเสียกว่ากัน?
เมื่อวานนี้ (12 มี.ค.) ทรัมป์สั่งเดินหน้าแผนขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมจากแคนาดาและเม็กซิโก 25% รวมถึงขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเป็น 20% แล้ว และยังขู่ว่าจะจัดเก็บภาษีศุลกากรสินค้าที่เฉพาะเจาะจงหลายประเภท เช่น ทองแดง ไม้ และรถยนต์ ในอนาคต การเดินเกมของทรัมป์ ทำให้ประเทศคู่ค้า-ประเทศคู่แข่งเดินหน้าโต้กลับรุนแรงไม่แพ้กัน
นักวิเคราะห์หลายฝ่ายมองว่า การกำหนดภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมสูงขนาดนี้ ถือเป็นเดิมพันที่เสี่ยง แม้ว่าการขึ้นภาษีจะช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมเหล็กและอลูมิเนียมของอเมริกาได้ แต่จะทำให้ราคาวัตถุดิบหลักสำหรับผู้ผลิตในอเมริกาสูงขึ้นด้วย แน่นอนว่าภาระจะตกไปเป็นของผู้บริโภคได้ เมื่อมองภาพรวมแล้ว สหรัฐฯ อาจสูญเสียมากกว่าประโยชน์ที่จะได้มา
วิลเลียม ออปลิงเกอร์ ซีอีโอของ Alcoa หนึ่งในผู้ผลิตอะลูมิเนียมรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ เคยออกมาเตือนว่ายภาษีศุลกากรของทรัมป์อาจทำให้คนอเมริกันสูญเสียงานกว่า 100,000 ตำแหน่ง ซึ่งในจำนวนนี้เป็นงานด้านอุตสาหกรรมอะลูมิเนียมสูงถึง 20,000 ตำแหน่งเลยทีเดียว เนื่องจากการผลิตอะลูมิเนียมส่วนใหญ่ของบริษัทสหรัฐฯ ตั้งอยู่ในแคนาดา ซึ่งมีค่าใช้จ่ายถูกกว่ามาก เนื่องจากใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ หลังจากนั้นจึงส่งกลับมาแปรรูปในสหรัฐฯ ทาง Alcoa จึงเชื่อว่า นี่จะเป็นการบังคับให้บริษัทสหรัฐฯ จำต้องเลิกจ้างพนักงานเพื่อลดต้นทุน
มอลลี เบียร์แมน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ Alcoa กล่าวในการประชุมอุตสาหกรรมของ JPMorgan เปิดเผยว่า แม้บริษัทจะสนับสนุนความพยายามของรัฐบาลที่จะปรับปรุงอุตสาหกรรม ตลอดจนเสริมสร้างการจ้างงานภาคการผลิตของสหรัฐฯ แต่ก็อดปฏิเสธไม่ได้ว่าวิธีการขึ้นภาษีศุลกากรเช่นนี้ จะก่อผลเสียต่อระบบเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้
