เป็นข่าวได้ทุกวันจริงๆ กับ “อีลอน มัสก์” มหาเศรษฐีซีอีโอบริษัท เทสล่า และสเปซเอ็กซ์ ที่เพิ่งเป็นข่าวทุ่มเงินซื้อบริษัทโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่อย่าง “ทวิตเตอร์” ล่าสุด มัสก์ ได้ขายหุ้นเทสล่าส่วนหนึ่ง 4.4 ล้านหุ้น คิดเป็นเงินราว 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.4 แสนล้านบาท) ตามเอกสารที่เผยแพร่ออกมาในวันพฤหัสบดี ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐ
000_1m78yn.jpg "อีลอน มัสก์1")
เอกสารที่มัสก์ได้ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งสหรัฐอเมริกา ไม่ได้เปิดเผยถึงสาเหตุของการขายหุ้นมูลค่ากว่าแสนล้านในครั้งนี้ว่า เขาจะนำเงินไปทำอะไร
แต่มีความเป็นไปได้สูงว่า เขาจะนำเงินดังกล่าวไปใช้ในการซื้อทวิตเตอร์ ซึ่งมีมูลค่ากว่า 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์ (ราว 1.5 ล้านล้านบาท) โดยก่อนหน้านี้ ในช่วงที่มีการประกาศปิดดีลเข้าซื้อทวิตเตอร์เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา หุ้นทวิตเตอร์เคลื่อนไหวพุ่งรับข่าวดี ในขณะที่หุ้นเทสล่ากลับร่วงสวนทาง เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่ามัสก์อาจเทขายหุ้นเพื่อนำเงินไปใช้ในดีลนี้
000_328c9c2_1.jpg "อีลอน มัสก์2")
โดยในวันอังคารที่ 26 เม.ย. ซึ่งมัสก์ขายหุ้นมูลค่ากว่า 1.4 แสนล้านนั้น ปรากฎว่าราคาหุ้นเทสล่าร่วงลงกว่า 12% ก่อนจะฟื้นตัวเล็กน้อยราว 1% ในวันถัดมา
ในช่วง 8.25 น. ของวันนี้ อีลอน มัสก์ ได้โพสต์ผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวของตัวเองแล้วว่า “จะไม่มีการขายหุ้นเทสล่าเพิ่มเติมแล้ว”
No further TSLA sales planned after today
— Elon Musk (@elonmusk) April 29, 2022
ด้านบริษัทนกสีฟ้า “ทวิตเตอร์” ซึ่งกำลังจะกลายมาเป็นลูกรักคนใหม่ของมัสก์ เผยผลกำไรไตรมาสแรกว่า บริษัทมีกำไร 4 เซนต์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ของเรฟินิทีฟ (Refinitiv) คาดไว้ที่ 3 เซนต์ และบริษัทยังมีผู้ใช้งานทวิตเตอร์รายวันทั่วโลกพุ่งขึ้น 15.9% แตะระดับ 229 ล้านราย สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 226.9 ล้านราย