รู้จัก 60 ปี 'แกรนด์สปอร์ต' สปอนเซอร์พาวอลเลย์บอลไทยไประดับโลก
คอนเทนต์แนะนำ
"แกรนด์สปอร์ต" หนึ่งในแบรนด์เสื้อผ้ากีฬาและอุปกรณ์กีฬาตำนสของไทยที่มีอายุกว่า 60 ปี ที่คนไทยต้องเคยเห็นนักกีฬาไทยสวมใส่ทำการแข่งขันในรายการสำคัญๆ ทั้งในระดับชาติ ภูมิภาค และระดับโลก มาแล้ว ตั้งแต่ในอดีตถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะล่าสุดที่นักกีฬาลูกยางไทยใส่ชุดแข่ง "แกรนด์สปอร์ต" แข่งขันวอลเลย์บอลเนชันส์ ลีก 2022 ทำผลงานสุดปัง
โดยล่าสุดทำผลงานไต่อันดับโลกขึ้นมาต่อเนื่องหลังแข่งขันจบครบ 4 นัด โดยทีมลูกยางสาวทีมชาติไทย สร้างตำนานเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ที่ผ่านมาสามารถเอาชนะทีมวอลเลย์บอลสาวทีมชาติจีนที่ก่อนแข่งอยู่อันดับของโลก 2 ถือเป็นชัยชนะเหนือจีนในรอบเกือบ 9 ปี ส่วนทีมไทยก่อนการแข่งขันรายการวอลเลย์บอลเนชันส์ ลีก นี้ มีอันดับ 19 แต่ภายหลังชนะจีนมีอันดับล่าสุดขยับขึ้นอยู่ที่ 14 ทันที ขณะที่โปรแกรมการแข่งนรายการนี้ยังไม่จบยังมีโอกาสให้ลุ้นงานทีมตบลูกยางสาวไทยได้อีก 8 แมตช์ต่อเนื่องถึงเดือน ก.ค. นี้ด้วย
เปิดตำนานกว่า 60 ปี "แกรนด์สปอร์ต"
ลองมาเปิดประวัติของ บริษัท เเกรนด์สปอร์ต กรุ๊ป จำกัด ก่อนที่จะเป็นแบรนด์กีฬาเจ้าใหญ่ของไทยในปัจจุบัน ตำนาน "แกรนด์สปอร์ต" ถูกเริ่มขึ้นจาากรก่อตั้งเมื่อ 24 ตุลาคม 2504 โดย 'กิจ พฤกษ์ชะอุ่ม' อดีตนักบาสเกตบอล ได้เปิดกิจการห้องแถวเล็กๆ ย่านวงเวียน 22 กรกฎาคม จากแนวคิดของของคนที่รักในกีฬา และอยากทำธุรกิจเกี่ยวกับเสื้อผ้ากีฬาที่มีคุณภาพมาตรฐานสากล มีสโลแกนติดหู "ไม่ได้อยู่กติกา แต่อยู่ในน้ำใจนักกีฬาทุกคน - มีสปิริต มีเเกรนด์สปอร์ต" จากนั้นต่อมาปี 2512 'แกรนด์สปอร์ต' เป็นบริษัทแบรนด์กีฬาไทยรายแรกที่ประทับตราว่า "Made in Thailand" บนเสื้อผ้ากีฬาที่ผลิตออกวางขาย
จนในปี 2514 แกรนด์สปอร์ต ถูกเลือกใช้เป็นชุดแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 6 ซึ่งประเทศไทยถูกเลือกให้เจ้าภาพ และในปี 2522 ได้ขยายธุรกิจส่งออกไปฮ่องกงกับบาห์เรน อีกทั้งได้ก่อตั้งแผนกวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ขึ้นภายในองค์กร เป็นบริษัทแรกในอุตสาหกรรมเครื่องกีฬาของคนไทย
เมื่อถึงปี 2525 ได้ก่อตั้งบริษัท แกรนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ขึ้นมาเป็นบริษัทในเครือ เพื่อทำการตลาดอุปกรณ์กีฬาในประเทศ และเมื่อปี 2527 ได้รับรางวัลสินค้าไทยดีเด่นจากสมาคมนิยมไทย รับพระราชทานโล่จากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ซึ่งอีกปีถัดมา แกรนด์สปอร์ตก็ได้ขยายการส่งออกไปสู่ประเทศตะวันออกกลางด้วย
หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งสมาคมกีฬาเปตองแห่งประเทศไทย
ภายหลังของการเกิดของแกรนด์สปอร์ต 'กิจ พฤกษ์ชะอุ่ม' ในปี 2514 เข้ามามีส่วนร่วมงานกับ สมาคมบาสเกตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยนั่งเป็นกรรมการบริหาร ต่อมา ปี 2519 กีฬาเปตองเข้ามาเผยแพร่ในประเทศไทย เกิดสมาคมเปตองแห่งประเทศไทย เขายังร่วมเป็นกรรมการผู้ก่อตั้งสมาคมกีฬาเปตองฯ
ต่อมาใน ปี 2523 นายกสภากรรมการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ชักชวน 'กิจ พฤกษ์ชะอุ่ม' เข้าไปเป็นสภากรรมการของสมาคมฯ และยังได้รับความไว้วางใจถูกเลือกให้เป็นผู้ช่วยผู้จัดการฟุตบอลทีมชาติไทย ต่อมาในปี 2524 ยังได้เป็นผู้จัดการนำทีมฟุตบอลทีมชาติไทย นำทัพแข่งขันชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ และนำฟุตบอลเยาวชนทีมชาติไทยไปแข่งขันทีประเทศจีน
ร่วมสร้างตำนานวงการวอลเลย์บอลไทยจนลมหายใจสุดท้าย
กิจ พฤกษ์ชะอุ่ม ผู้ก่อตั้ง "แกรนด์สปอร์ต"
'กิจ พฤกษ์ชะอุ่ม' ถือเป็นส่วนสำคัญของตำนานวงการวอลเลย์บอลไทย ในปี 2526 ได้รับการทาบทามให้เข้ามารับเป็นกรรมการสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย มีส่วนร่วมในยุคเริ่มต้นของสมาคมฯที่ พ.อ.(พิเศษ) อนุ รมยานนท์ เป็นนายกสมาคมฯ เมื่อเริ่มเข้ามาร่วมงานสามคมวอลเลย์บอล คุณกิจ ได้เชิญชวนสมาคมฯ ย้ายสำนักงาน ซึ่งเดิมตั้งอยู่ในกรมพลศึกษา ในปี 2528 ย้ายมาทำงานที่บริษัท แกรนด์สปอร์ต จำกัด ปทุมวัน ก่อนจะย้ายมาตั้งที่สำนักงานใหญ่บริษัท แกรนด์สปอร์ต จำกัด หัวหมาก ในปี 2533 โดยแกรนด์สปอร์ตถือเป็นผู้สปอนเซอร์หลักตั้งแต่ก่อตั้งสามาคมฯ จนถึงปัจจุบัน
แม้ในช่วงเวลานั้นเริ่มตั้งสมาคมฯ วอลเลย์บอลทีมชาติไทย ยังไม่สามารถทำผลงานคว้าเหรียญรางวัล แต่สมาคมฯ มีความพยายามเพื่อพัฒนาทีมนักกีฬา โดยอาศัยความสัมพันธ์ที่ดีกับทีมวอลเลย์บอลจีนที่เคยต้อนรับช่วงที่เคยเยือนไทย จึงสามารถพาวอลเลย์บอลทีมชาติไทย ทั้งทีมชายและชาย-หญิง จำนวน 24 คน และทีมโค้ช อีก 4 คน เดินทางไปฝึกซ้อมที่จีน โดยจีนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทุกอย่างเป็นเวลา 1 เดือน
โดยตอนนั้น 'กิจ พฤกษ์ชะอุ่ม' รับหน้าที่เป็นหัวหน้าคณะเดินทางไปดูแลการฝึกซ้อมให้กับนักกีฬา หลังจากเก็บตัวซ้อมเป็นเวลา 1 เดือน ก็เห็นผลเพราะในปี 2528 ทีมลูกยางชายชาติไทยสามารถทำผลงานคว้าเหรียญทองซีเกมส์ ได้เป็นครั้งแรก ส่วนทีมหญิงได้เหรียญเงิน จากนั้นสมาคมวอลเลย์บอล ก็มีพัฒนาการที่ดีขึ้นต่อเนื่องมาโดยตลอด สามารถก้าวไปสู่เวทีแข่งระดับโลก โดยเฉพาะทีมลูกตบยางสาวที่ได้ไปแข่งขันในชิงแชมป์โลกอยู่บ่อยครั้ง และทุกครั้งชุดแข่งขันที่โชว์ให้ชาวโลกเห็นเป็นของแบรนด์"แกรนด์สปอร์ต"
โดย 'กิจ พฤกษ์ชะอุ่ม' ถึงขั้นเคยถูกขนานนามว่าเป็นเสาหลักของครอบครัววอลเลย์บอลไทย เพราะนั่งในตำแหน่งนายกกิตติมศักดิ์ของสมาคมฯ จนกระทั่งลมหายใจสุดท้ายก่อนจะเสียชีวิตลงในปี 2563
ทายาทรุ่น 2 "แกรนด์สปอร์ต" บริหารธุรกิจต้องเปลี่ยนแปลงให้เร็ว
ปัจจุบัน "แกรนด์สปอร์ต" มีทายาทรุ่นที่ 2 ลูกชายของ 'กิจ พฤกษ์ชะอุ่ม' ผู้ก่อตั้งที่เสียชีวิตไปในปี 2563 นั่น คือ 'ธิติ พฤกษ์ชะอุ่ม' วัย 53 ปี นั่งเก้ากรรมการผู้จัดการบริษัท แกรนด์สปอร์ต กรุ๊ป จํากัด ปัจจุบันมีพนักงานจำนวน 300-400 ราย ต้องยอมรับว่าในช่วงอายุกว่า 60 ขวบ ของ "แกรนด์สปอร์ต" นั้นผ่านวิกฤตมาแล้วทุกวิกฤต แต่บริษัทยังดำรงค์อยู่ได้โดยไม่เคยจะปลดพนักงานในบริษัทออไปแม้ แต่คนเดียว
'ธิติ พฤกษ์ชะอุ่ม' เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อไว้ว่า ในยุคที่การแข่งขันธุรกิจแบรนด์กีฬาในประเทศไทยเติบโตขึ้นจนมีผู้เล่นหลายรายเข้ามาชิงชัยในตลาดอีกทั้งยุทธศาสตร์ของชาติที่ต้องการผลักดันให้กีฬาเป็นอีกหนึ่งเรื่องในการพัฒนาทรัพยากรคนยิ่งเป็นแรงหนุนให้อุตสาหกรรม ดังนั้นปัจจุบันเราจึงได้เห็นแต่ละแบรนด์งัดเอากลยุทธ์ต่างๆเข้ามาชิงลูกค้า
สำหรับธุรกิจแบรนด์กีฬาในอดีตมักได้เห็นการใช้กลยุทธ์เรื่องราคเข้าห้ำหั่นกัน กระทั่งสินค้าติดตลาดคนในประเทศให้การยอมรับสินค้าไทย จนมาสู่ในปัจจุบันซึ่งเป็นยุคที่การผลิตของออกมามากๆหรือการตั้งราคาสินค้าที่ไม่สูงไม่ได้ดึงดูดลูกค้าอีกต่อไปพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนไปตลอด ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัวตามไปด้วย การทำตลาดด้วยการจับกลุ่มเฉพาะ ใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการออกผลิตภัณฑ์จึงเป็นสิ่งสำคัญของยุคนี้“แนวทางของแต่ละแบรนด์อาจแตกต่างกัน แต่มีจุดที่คล้ายกันคือเรื่องไอเดียและจับกลุ่มลูกค้าเฉพาะเจาะจงมากขึ้น” ธิติ กล่าว
ชูกลยุทธ์ออกสินค้า “Rare Item” จับกลุ่มแฟนคลับ
ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่มาของการออกแบบเสื้อกีฬาแนวย้อนยุคของแกรนด์สปอร์ต ที่ต้องการจับกลุ่มคนแฟนกีฬาฟุตบอล ที่ชอบของเก่าสามารถเก็บสะสมได้ เป็นเสมือน “Rare Item” ที่ต้องตามเก็บสิ่งนี้เองทำใหเกิดแฟนคลับของแกรนด์สปอร์ตขึ้นคล้ายๆกับ Apple, Samsung หรือ Huawei ที่มีสาวกประจำและคนกลุ่มนี้เองมีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนธุรกิจปัจจุบัน ทั้งการเป็นรผู้สนับสนุนและเผยแพร่สินค้า
“ตอนนี้ต้องวางแผนกันเป็นรายสัปดาห์ การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอยู่ตลอด คนที่ทำธุรกิจก็ต้องเปลี่ยนเร็วตาม ยิ่งมีคู่แข่งก็ต้องหาช่องว่างในการทำธุรกิจให้เจอ ตอนนี้ทุกแบรนด์ก็หาช่องวางตรงนี้เช่นกัน จากนั้นทำในสิ่งที่เชี่ยวชาญที่สุด นี่คือความสนุกและท้าทายของธุรกิจนี้”
เปิดงบกำไร-รายได้ "แกรนด์สปอร์ต" แบรนด์กีฬาไทยพันล้าน
งบกำไรขาดทุน ปี 2562 ปี 2563 ปี 2564 (หน่วย : ล้านบาท)
กำไร 29.14 23 26,01
รายได้ 1,119.30 762.23 665.37
ที่มาข้อมูล : กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
สปอนเซอร์หลัก "โอลิมปิค" ไทยพร้อมหนุนหลังทุก Tournament
ปัจจุบัน "แกรนด์สปอร์ต" ยังเป็นสปอนเซอร์หลักของคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ที่ดูแลชุดแข่งขันกีฬาของนักกีฬาทีมชาติไทยในรายการสำคัญๆ ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันกีฬาซีเกมส์, เอเชียนเกมส์ โอลิมปิกเกมส์ รวมถึงปัจจุบันยังเป็นสปอนเซอร์หลักชุดแข่งแข่งของสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย ด้วย ดังนั้นจะเห็นทีมลูกยางทีมชาติใส่ชุดแข่งแบรนด์แกรนด์สปอร์ต ที่ล่าสุดทีมชาติวอลเลย์บอลสาวไทยใส่ทำการแข่งขันโค่นทีมลูกยางสาวชาติจีนเบอร์ 2 ไปในแมตช์ที่ผ่านมาในรายการ
หากดูความเป็นมาของธุรกิจ "แกรนด์สปอร์ต" ในตลอดช่วงกว่า 60 ปีที่ผ่านมานั้น ถือเป็นแบรนด์ที่ถูกสร้างขึ้นจากผู้หลงใหลรักในกีฬาอย่างแท้จริง เพราะเห็นได้ว่า 'กิจ พฤกษ์ชะอุ่ม' ผู้สร้างอาณาจักรแกรนด์สปอร์ต ลาจากวงการกีฬาไปด้วยวัย 85 ปี ในทุกช่วงชีวิต ได้เข้าไปส่วนช่วยสนับสนุนในหลายๆ วงการกีฬาของไทยมายาวนานและต่อเนื่อง มีส่วนผลักดันให้นักกีฬาทีมชาติไทยพัฒนาขึ้น ไม่ใช่แค่วอลเลย์บอลเท่านั้น
ส่วนปัจจุบันมีทายาทอย่าง 'ธิติ พฤกษ์ชะอุ่ม' ทายาทรุ้นที่ 2 ที่มารับไม้ต่อจากผู้เป็นพ่อถึงตอนนี้ เราก็ยังคงเห็นนักกีฬาไทยยังคงใส่ชุดแข่งของ "แกรนด์สปอร์ต" ทุกแมตช์ เริ่มจากจุดเริ่มต้นวันแรกที่ทีมวอลเลย์บอลไทยไม่เคยได้สัมผัส แม้แต่เหรียญรางวัลซีเกมส์จนคว้าเหรียญทองได้สำเร็จ วันนี้ได้ขึ้นเป็น Top 14 ของโลกแล้ว และเชื่อคนไทยทั่วประเทศหลายคนก็คงคาดหวังว่าวันหนึ่งทีมวอลเลย์บอลไทยจะมีชื่อขึ้นเป็นอันดับ 1 อยู่บนตารางของการจัดอันดับโลก
ขอบคุณที่มาข้อมูล
