โฆษกรัฐบาลทหารเมียนมาเปิดเผยว่า ตัวแทนจากรัฐบาลไทยและรัฐบาลทหารเมียนมาเตรียมหารือเกี่ยวกับปัญหาเรื่องชายแดน หลังไทยระบุว่า ฐานทัพของกองทัพสหรัฐว้า หรือว้าแดง (UWSA) ล่วงล้ำเข้ามาในดินแดนของไทย อย่างไรก็ตาม ยังไม่ได้ระบุวันที่แน่ชัดสำหรับการเจรจา แต่ไทยยื่นเส้นตายให้ว้าแดงถอนกำลังออกไปถึงวันที่ 18 ธันวาคมนี้
กองกำลัง UWSA ควบคุมพื้นที่ปกครองตนเองในรัฐฉาน รวมถึงพื้นที่บริเวณชายแดนไทย ซึ่งไทยระบุว่า มีจุดตั้งฐานทัพ 9 แห่งอยู่ในดินแดนของไทยและเรียกร้องให้มีการถอนกำลังออกไป
ความขัดแย้งนี้สร้างความกังวลเนื่องจากสถานการณ์อาจจะรุนแรงขึ้น เพราะว้าแดงถือเป็นกองกำลังติดอาวุธที่ทรงอิทธิพลที่สุดของเมียนมา และเคยถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด
ด้านพลตรีซอ มิน ตุน โฆษกรัฐบาลทหารเมียนมา กล่าวผ่านสื่อของรัฐเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่าว่า ตัวแทนจากกองทัพเมียนมาจะพบปะกับรัฐบาลไทย โดยประเด็นหลักจะเป็นปัญหาชายแดนและอาชญากรรมข้ามพรมแดน
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ไทยได้หารือกับตัวแทน UWSA ที่จังหวัดเชียงใหม่ในเดือนพฤศจิกายน และกำหนดเส้นตายให้ UWSA ถอนตัวออกจากฐานที่ตั้งภายในวันที่ 18 ธันวาคม อย่างไรก็ตาม UWSA ปฏิเสธข้อเรียกร้องดังกล่าวเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม โดยระบุว่าปัญหานี้ควรได้รับการหารือในระดับรัฐบาล แต่ย้ำว่ากองทัพไทยไม่ใช่ศัตรูของพวกเขา
UWSA เกิดขึ้นหลังการล่มสลายของพรรคคอมมิวนิสต์พม่าในปี 1989 เมื่อกองกำลังระดับล่าง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชนกลุ่มน้อยว้า ก่อการกบฏต่อผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ เมื่อกลุ่มกบฏบ้าในเวลานั้นตกลงที่จะหยุดยิงกับกองทัพเมียนมา ก็ได้รับสิทธิ์ปกครองตนเองในพื้นที่ชายแดนติดจีนและไทย
อย่างไรก็ตาม แม้ UWSA จะถือว่าเป็นหนึ่งในกองกำลังที่มีอิทธิพลและอาวุธที่ดีที่สุดในเมียนมา แต่พวกเขาไม่ได้เข้าร่วมการลุกฮือของกลุ่มชาติพันธุ์อื่นๆเพื่อต่อต้านรัฐบาลทหารที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ หลังการรัฐประหารในปี 2021
หน่วยงานต่อต้านยาเสพติดระหว่างประเทศระบุว่า UWSA มีส่วนเกี่ยวข้องกับการผลิตและค้ายาเสพติด เช่น ฝิ่น เฮโรอีน และยาบ้า อย่างไรก็ตาม UWSA ปฏิเสธข้อกล่าวหาเหล่านี้
สำหรับฐานทัพชายแดน 9 แห่งที่เป็นข้อพิพาทนี้ UWSA อ้างว่าอยู่ใน “เขตทหาร 171” ของพวกเขา และตั้งอยู่ในเขตเมืองในรัฐฉาน ซึ่งติดชายแดนตอนเหนือของไทย