สังเวียน “ชานมไข่มุก” ร้อนแรงขึ้นอย่างมากในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ในประเทศไทยเองก็เคยมี “ชานมไข่มุกฟีเวอร์” ในปี 2018 ที่ทุกร้านจะต้องใส่กิมมิก ‘ไข่มุก’ ลงไป อย่างเช่น ไอศกรีม ลูกอม รสชานมไข่มุก หรือแม้แต่เมนู ‘คั่วไก่ไข่มุก’ สุดแปลกแหวกแนว ก็เกิดขึ้นในช่วงนี้ พอช่วง โควิด-19 ที่ทุกธุรกิจได้รับผลกระทบ ชานมไข่มุกก็ได้รับผลตอบรับดีขึ้นไปอีก เพราะโมเดล ‘ฟู้ดเดลิเวอรี’ ได้รับความนิยมแบบพุ่งกระฉูด เปลี่ยนแปลงให้ผู้บริโภคสั่งชานมไข่มุกมากินได้ทุกที่ แถมยังเป็นการเพิ่มลูกค้าหน้าใหม่ๆ ให้กับร้านชานมไข่มุกน้อยใหญ่อีกด้วย
ไม่ใช่แค่ในประเทศไทยของเรา แต่ทั้งภูมิภาคอาเซียนก็ล้วนแล้วแต่เป็นสาวกชานมไข่มุกกันทั้งสิ้น บริษัทเทคโนโลยีในสิงคโปร์ ‘Momentum Works’ เผยข้อมูลตลาดชานมไข่มุกของ 6 ประเทศอาเซียน มาดูกันว่า ท่ามกลางสมรภูมิชานมไข่มุกอันดุเดือด และหนึบหนับ ขนาด 3.66 พันล้านดอลลาร์ (1.3 แสนล้านบาท) สาวกชานมบ้านเรา จะสู้สาวกชานมในเพื่อนบ้านอาเซียนได้มั้ย?
ด้วยจำนวนประชากรเกือบ 270 ล้านคน สูงที่สุดในภูมิภาคอาเซียน จึงไม่น่าแปลกใจที่ตลาดชานมไข่มุกในประเทศ “อินโดนีเซีย” จะมีขนาดมหึมา มียอดขายรวมทั้งประเทศกว่า 1,600 ล้านดอลลาร์ (5.7 หมื่นล้านบาท) ซึ่งยอดขายบนแพลตฟอร์มเดลิเวอรีก็พุ่งกระฉูดในช่วงล็อกดาวน์ และยังคงดีต่อเนื่องหลังล็อกดาวน์ เพราะผู้คนขี้เกียจออกไปเผชิญกับสภาพอากาศและการจราจรบนท้องถนน
ตามมาด้วย “ประเทศไทย” ของเรา ที่มีตลาดชานมไข่มุกใหญ่รองลงมาจากอินโดนีเซีย มียอดขายรวมถึง 749 ล้านดอลลาร์ (2.67 หมื่นล้านบาท) ซึ่งนับเป็นเกือบครึ่งหนึ่งแม้มีประชากรน้อยกว่าเกือบ 4 เท่าตัว ข้อมูลจาก Wongnai เผยว่า ในประเทศไทยปัจจุบันมีร้านชานมไข่มุกทะลุ 31,000 แห่ง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แม้จะมีขนาดตลาดชานมไข่มุกเป็นที่ 2 ของภูมิภาค แต่ถ้าดูกันที่เรื่องพฤติกรรมการกินชานมไข่มุกต่อหัวแล้ว ไทยเรานับว่าไม่แพ้ใคร ผลสำรวจจาก Grab ที่ทำขึ้นในปี 2018 เผยว่า ชาวอาเซียนบริโภคชานมไข่มุกเฉลี่ยเดือนละ 4 แก้ว โดยประเทศไทยบริโภคชานมไข่มุกมากกว่าใคร ที่ 6 แก้ว/เดือน รองลงมาเป็นฟิลิปปินส์ ที่ 5 แก้ว/เดือน ส่วน มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม และอินโดนีเซีย มีค่าเฉลี่ยเท่ากันที่ 3 แก้วต่อเดือน
แม้ชานมไข่มุกจะเป็น ‘สแน็กดริงก์’ (เครื่องดื่มที่ดื่มกี่ทีก็ฟิน แถมได้เคี้ยวกินเล่นเพลินๆ) ที่มีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของใบชา ผสานความหวานมันของนม ผสมกับความหนึบของไข่มุก ทำให้คนทั้งอาเซียนหลงรัก แต่การบริโภคมากเกินไปก็อาจก่อให้เกิดภัยร้ายโดยไม่รู้ตัว ทั้งโรคอ้วน โรคเบาหวาน และอีกสารพัด เพราะชานมไข่มุก 1 แก้วสามารถให้พลังงานได้เทียบเท่ากับการกินก๋วยเตี๋ยว 1 ชามเลยทีเดียว!
พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อดีตรองอธิบดีกรมอนามัย ให้ข้อมูลกับเว็บไซต์ Hfocus ว่า ชานมไข่มุก 1 แก้ว ให้พลังงาน ประมาณ 240 - 360 กิโลแคลอรี ซึ่งใกล้เคียงกับการกินก๋วยเตี๋ยว 1 ชาม หรือข้าว 3-4 ทัพพีเลยทีเดียว โดยร่างกายจะได้รับคาร์โบไฮเดรต 45 - 62 กรัม ไขมัน 0 - 14 กรัม โปรตีน 0.4 - 2 กรัม ความแตกต่างของพลังงานและสารอาหารขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำตาลหรือน้ำเชื่อม ไข่มุก นมผง และครีมเทียมที่ใส่ลงไป
แต่สำหรับสาวกที่ทำใจให้อยู่โดยปราศจากชานมไข่มุกไม่ได้ เพจ Jones Salad และ Class Cafe แนะนำวิธีกินชานมไข่มุกแบบใจดีต่อร่างกายไว้ดังนี้
ชานมไข่มุก ถือเป็นสิ่งเยียวยาจิตใจสำหรับคนไทย และชาวอาเซียนหลายล้านคน เพียงบริโภคแต่พอดี ควบคู่กับการออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และหลากหลาย เท่านี้คุณก็จะสามารถมีความสุขกับชานมไข่มุกแก้วโปรดได้แบบยั่งยืน
ที่มา : Momentum Works, Hfocus, Jones Salad, The Asean Post