Makro ยันใช้แบรนด์ "แม็คโคร" แม้เปลี่ยนชื่อเป็น "ซีพี แอ็กซ์ตร้า"
"สยามแม็คโคร" ประกาศเปลี่ยนชื่อเป็น "ซีพี แอ็กซ์ตร้า" แต่ใช้แบรนด์ “แม็คโคร” ตามเดิมตั้งแต่ 15 มิ.ย.2566 เป็นต้นไป
เพจแม็คโคร คู่คิดธุรกิจคุณ โพสต์เฟสบุ๊ก ว่า
คอนเทนต์แนะนำ
บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน)
เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน)
ตั้งแต่ 15 มิ.ย. 2566 เป็นต้นไป
และยืนยันใช้แบรนด์ "แม็คโคร" เช่นเดิม
บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจค้าส่งภายใต้ชื่อ “แม็คโคร” ทั้งไทยและต่างประเทศ
โดยจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคให้แก่ลูกค้าที่เป็นสมาชิกบัตรแม็คโคร ซึ่งเป็นองค์กรธุรกิจขนาดกลางและเล็ก รวมทั้ง ร้านค้าปลีกและกลุ่มธุรกิจร้านอาหาร ตลอดจนกลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระและสถาบันต่างๆ และธุรกิจฟูดเซอร์วิสนำเข้าและจำหน่ายอาหารแช่แข็งและอาหารแช่เย็น ร้านอาหารและร้านค้าปลีกขนาดเล็ก
อีกทั้งบริษัทย่อยดำเนินธุรกิจค้าปลีกและให้เช่าพื้นที่ศูนย์การค้าภายใต้ชื่อ โลตัส ในประเทศไทยและต่างประเทศด้วย
MAKRO แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ SET เมื่อวันที่ 20 ก.พ.2566 ที่ผ่านมา แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทให้บริษัทเปลี่ยนชื่อบริษัท ตราประทับ และชื่อย่อหลักทรัพย์ใหม่ โดยใช้ชื่อว่า บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT แทนชื่อเดิม คือ บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO และตราประทับเปลี่ยนเป็น CP ACTRA แทน siam makro
โดยผู้ถือหุ้นหลัก 10 อันดับแรก ได้แก่
- บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 34.91%
- บริษัท สยามแม็คโคร โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ถือหุ้น 25.01%
- บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด ถือหุ้น 16.18%
- บริษัท ซี.พี.เมอร์แชนไดซิ่ง จำกัด ถือหุ้น 8.85%
- บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด ถือหุ้น 3.07%
- MAYBANK SECURITIES PTE. LTD. ถือหุ้น 0.55%
- SOUTH EAST ASIA UK (TYPE C) NOMINEES LIMITED ถือหุ้น 0.50%
- UOB KAY HIAN (HONG KONG) LIMITED - Client Account ถือหุ้น 0.40%
- นาย ปริญญา เธียรวร ถือหุ้น 0.25%
- กองทุนเปิด กรุงศรีหุ้นระยะยาวปันผล LTF ถือหุ้น 0.24%
สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 1/2566 ของ MAKRO มีรายได้รวม120,222 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.9% เป็นการเพิ่มขึ้นจากภายในสาขา การเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสินค้ารองรับการขายสินค้าออนไลน์ และการขายนอกร้านของธุรกิจแม็คโครประะเทศไทย และธุรกิจในต่างประเทศ รวมถึงธุรกิจฟูดเซอร์วิสที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง และมีกำไรสุทธิกว่า 2,166 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน
ราคาหุ้น Makro ปิดตลาดเมื่อวาน (13 มิ.ย.) ที่ 37.75 บาท/หุ้น เพิ่มขึ้น 0.67% มีมูลค่าหลักทรัพย์ตลาดราคาตลาด 396,762.13 ล้านบาท P/E อยู่ที่ 50.79 เท่า
