ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ และทีมที่ปรึกษาของเขาออกมาปกป้องมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศและยืนยันว่าจะเดินหน้า แม้จะเกิดความปั่นป่วนในตลาดการเงินอย่างหนัก และมีเสียงเรียกร้องจากหลายฝ่ายให้หลีกเลี่ยงการก่อสงครามการค้า
ระหว่างการให้สัมภาษณ์ในรายการโทรทัศน์หลายรายการ สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ พยายามลดความวิตกต่อตลาดหุ้น โดยเบสเซนต์ระบุว่า ไม่มีเหตุผลใดที่จะเชื่อว่าความปั่นป่วนในตลาดจะนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย และนี่คือกระบวนการปรับตัว
ส่วนเควิน แฮสเซตต์ ที่ปรึกษาอาวุโสของประธานาธิบดี เปิดเผยว่า นับจนถึงขณะนี้ มีมากกว่า 50 ประเทศที่ติดต่อมายังทรัมป์ เพื่อขอเจรจาทำข้อตกลงทางการค้า
ดัชนีหุ้นหลักทั้งสามของสหรัฐฯ ร่วงลงมากกว่า 5% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยดัชนี S&P 500 ร่วงเกือบ 6% นับเป็นสัปดาห์ที่เลวร้ายที่สุดของตลาดหุ้นสหรัฐฯ นับตั้งแต่ปี 2020
ขณะที่ตลาดหุ้นซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเปิดทำการในวันอาทิตย์ ปิดตลาดลดลงเกือบ 7% ซึ่งถือเป็นการร่วงรายวันมากที่สุดนับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19
ด้านธนาคารยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ อย่างเจพีมอร์แกน คาดการณ์ว่า มีโอกาสถึง 60% ที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ และเศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ภาวะถดถอย ภายหลังการประกาศขึ้นภาษีนำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ส่วนเปิดตลาดเอเชียเช้าวันนี้ ดัชนี Nikkei 225 ของญี่ปุ่นดิ่งลง 6.3% ขณะที่ดัชนี Hang Seng ของฮ่องกงทรุดตัวลงถึง 9.8% โดยหุ้นของธนาคารอังกฤษที่จดทะเบียนในฮ่องกงอย่าง HSBC และ Standard Chartered ก็ร่วงตามไปด้วย
ระหว่างให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวบนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันช่วงเย็นวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (6 เมษายน 68) ทรัมป์ระบุว่า ประเทศในยุโรปและเอเชียกำลัง “อยากทำข้อตกลงใจจะขาด”
เขายังตอบโต้ผู้สื่อข่าวที่ถามว่าผู้บริโภคชาวอเมริกันจะต้องอดทนขนาดไหน เพราะราคาข้าวของจะแพงขึ้น และมีความหวาดวิตกว่าเศรษฐกิจจะถดถอย ทรัมป์ตอบกลับว่า “ผมคิดว่าคำถามของคุณนั้นโง่มาก ผมไม่ได้อยากให้ทุกสิ่งแย่ลง แต่บางครั้งคุณก็ต้องกินยาเพื่อรักษาอะไรบางอย่าง”
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังบอกด้วยว่า เขาจะไม่ตกลงทำข้อตกลงใดๆ กับจีน หากปัญหาขาดดุลการค้ากว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ยังไม่ได้รับการแก้ไข โดยเขาบอกว่า เขาพร้อมที่จะเจรจากับจีน แต่จีนต้องแก้ปัญหาเรื่องนี้ก่อน
ด้านโฮเวิร์ด ลัทนิก รัฐมนตรีพาณิชย์ กล่าวกับสถานี CBS News ว่า ภาษีขั้นพื้นฐาน 10% สำหรับสินค้านำเข้าทั้งหมดที่เริ่มมีผลเมื่อวันเสาร์นั้นจะคงอยู่ต่อไปอีกหลายวันหรือหลายสัปดาห์แน่นอน ส่วนมาตรการภาษีที่แรงกว่าและเป็นภาษีตอบโต้ก็ยังคงจะบังคับใช้ตามแผนการเดิม
สำหรับการใช้ภาษีตอบโต้ต่อกว่า 60 ประเทศทั่วโลก มีกำหนดจะเริ่มอย่างเป็นทางการในวันพุธที่ 9 เมษายนนี้ โดยลัทนิกยืนยันว่า จะมีการบังคับใช้อย่างแน่นอน ทรัมป์ประกาศไปแล้วและไม่ได้ล้อเล่น