ความปั่นป่วนในตลาดหุ้นโลกได้เริ่มส่งสัญญาณลุกลามมายังภูมิภาคเอเชีย รวมถึงประเทศไทย โดยในวันที่ 4 เมษายน 2568 ซึ่งเป็นวันทำการล่าสุดของตลาดหุ้นไทยก่อนหยุดยาว ดัชนี SET ปิดที่ 1,125.21 จุด ลดลง 36.30 จุด หรือ 3.15% ท่ามกลางแรงกดดันจากความกังวลด้านนโยบายการค้าระหว่างประเทศ และแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่อาจเข้าสู่ภาวะถดถอย
เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2568 ที่ประชุมคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มีมติเห็นชอบในการ ปรับปรุงเกณฑ์การซื้อขายหลักทรัพย์เป็นการชั่วคราว โดยมีรายละเอียดดังนี้:
2.ปรับกรอบราคาซื้อขายแบบ Dynamic Price Band จากเดิม ±10% เป็น ±5% จากราคาซื้อขายล่าสุดของแต่ละหลักทรัพย์
3.ห้ามขายชอร์ตทุกหลักทรัพย์เป็นการชั่วคราว ยกเว้นเฉพาะผู้ทำหน้าที่ Market Maker สำหรับ SET, mai และ TFEX
ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ระหว่างวันที่ 8 และไม่เกิน 11 เมษายน 2568 โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ จะประเมินสถานการณ์ตลาดในแต่ละวัน และพร้อมปรับเปลี่ยนเกณฑ์ให้เหมาะสมตามความจำเป็น
ตลาดหลักทรัพย์ฯ เชื่อว่ามาตรการชั่วคราวครั้งนี้จะช่วย “เสริมเสถียรภาพของตลาด” และสร้าง “ความมั่นใจให้กับผู้ลงทุน” ในช่วงเวลาที่ความไม่แน่นอนในตลาดโลกยังคงดำเนินอยู่
ดัชนีหุ้นหลักในเอเชียร่วงหนักในวันจันทร์ เพราะทรัมป์ ยังคงไม่มีท่าทีว่าจะยอมถอยจากแผนการเก็บภาษีนำเข้าครั้งใหญ่ ส่งผลให้นักลงทุนประเมินว่า ความเสี่ยงของภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่เพิ่มขึ้น อาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จำเป็นต้องลดอัตราดอกเบี้ยลงภายในเดือนพฤษภาคมนี้
ดัชนีฮั่งเส็ง (Hang Seng Index) ของฮ่องกงทรุดตัวลงอย่างรุนแรงในช่วงบ่ายวันนี้ (7 เม.ย.) ตามเวลาในประเทศไทย โดยล่าสุดลดลงถึง 12.63% นับเป็นการร่วงลงที่รุนแรงที่สุดในรอบหลายปี และสะท้อนถึงแรงเทขายครั้งใหญ่ที่ปะทุขึ้นอีกครั้งในตลาดหุ้นเอเชีย