ซิสโก้เผยผลการศึกษาล่าสุด พบว่าองค์กรในประเทศไทยเพียง 20% เท่านั้นที่มีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการประยุกต์ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ส่วนอีก 74% ขององค์กรไทยมีความกังวลผลกระทบต่อธุรกิจหากไม่เตรียมพร้อมรับมือกับ AI
รายงานของซิสโก้ (Cisco) พบว่าองค์กรธุรกิจในประเทศไทยส่วนใหญ่มองว่าตัวเองไม่พร้อมสำหรับการบูรณาการเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ากับการำงาน มีเพียงแค่ 20% เท่านั้นที่เชื่อว่าตัวเองเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ ซึ่งสาเหตุที่องค์กรในประเทศไทยยังไม่พร้อมสำหรับ AI นั้น มีหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นเพราะองค์กรส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจถึงศักยภาพของ AI และประโยชน์ที่ AI สามารถนำมาประยุกต์สู่ธุรกิจได้ ประกอบกับองค์กรไทยส่วนใหญ่ยังขาดความรู้และทักษะที่จำเป็นในการนำ AI มาใช้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้หลายภาคธุรกิจไทยยังขาดงบประมาณในการลงทุนในเทคโนโลยี AI
ซิสโก้ยังย้ำเตือนว่า องค์กรธุรกิจควรจะตรวจสอบว่าจะนำ AI มาใช้ประโยชน์ได้อย่างไร เพราะไม่เช่นนั้นช่องว่างในยุค AI อาจจะมากขึ้นอีก ทั้งเรื่องการลงทุน ความรับผิดชอบ และความปลอดภัย จากการใช้งาน AI
ลิซ เซนโทนี่ รองประธานบริหารและผู้จัดการทั่วไปฝ่ายแอปพลิเคชั่น และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ของซิสโก้ ระบุว่า จากรายงานเกี่ยวกับดัชนีความพร้อมด้าน AI (AI Readiness Index) ของซิสโก้ (NASDAQ: CSCO) ซึ่งได้เผยแพร่ ผลสำรวจจากข้อมูลจากบริษัททั่วโลกมากกว่า 8,000 แห่ง เกี่ยวกับการพัฒนาองค์กรเพื่อตอบสนองต่อการปรับตัวใช้ AI อย่างรวดเร็ว พบว่าองค์กรไทยกว่า 74% เป็นกังวลอย่างมากเกี่ยวกับผลกระทบต่อธุรกิจหากไม่เตรียมพร้อมในอีก 12 เดือนข้างหน้า นอกจากนี้เกือบ 99% ของ องค์กรในประเทศไทย มีความจำเป็นเร่งด่วนในการปรับใช้เทคโนโลยี AI ให้เพิ่มมากขึ้นในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการนำ AI มาใช้ในองค์กรเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรง แต่บริษัทต่างๆที่กำลังเร่งปรับตัวก็ต้องเผชิญกับความท้าทายหลายประการ หนึ่งในความท้าทายที่สำคัญที่สุดคือ การประเมินการลงทุน เพื่อให้แน่ใจว่าโครงสร้างพื้นฐานขององค์กรสามารถรองรับการทำงานของ AI ได้จริง นอกจากนี้ องค์กรยังต้องสามารถตรวจสอบได้ว่า AI ถูกใช้งานอย่างไร เพื่อให้แน่ใจว่า AI นั้นก่อให้เกิดผลตอบแทนทางการลงทุน (ROI) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และมีความรับผิดชอบต่อสังคม
ผลการศึกษาพบว่า ภาพรวมมีบริษัทไทยเพียง 20% เท่านั้นที่จัดอยู่ในกลุ่ม Pacesetters (มีความพร้อมอย่างเต็มที่) โดยที่ 44% ของบริษัทในไทยจัดอยู่ในกลุ่ม Chasers (มีความพร้อมปานกลาง) กลุ่ม Followers (มีความพร้อมอย่างจำกัด) ที่ 35% และมีเพียง 1% ที่อยู่ในกลุ่ม Laggards (ไม่ได้เตรียมพร้อม)
AI กำลังเปลี่ยนแปลงโลกของเราอย่างรวดเร็ว จากรายงานการสำรวจล่าสุดจากบริษัทในประเทศไทย แสดงให้เห็นว่าบริษัทต่างๆ ในไทยกำลังใช้มาตรการเชิงรุกเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตที่มุ่งเน้น AI เป็นหลัก รายงานพบว่า 97% ของบริษัทในประเทศไทยมีกลยุทธ์ด้าน AI ที่แข็งแกร่งอยู่แล้วหรืออยู่ระหว่างการพัฒนา สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าผู้บริหารระดับสูงและผู้บริหารฝ่ายไอทีให้ความสำคัญกับ AI เป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ 81% ของบริษัทในประเทศไทยถูกจัดอยู่ในกลุ่ม Pacesetters หรือ Chasers ซึ่งหมายความว่าบริษัทเหล่านี้มีความพร้อมอย่างเต็มที่หรือปานกลางสำหรับ AI มีเพียง 1% เท่านั้นที่จัดอยู่ในกลุ่ม Laggards ซึ่งหมายความว่าบริษัทเหล่านี้ยังไม่พร้อมสำหรับ AI ความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดที่บริษัทในประเทศไทยเผชิญในการปรับใช้ AI คือโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีและการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ รายงานพบว่า 76% ของบริษัทในประเทศไทยมองว่าโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีและการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการปรับใช้ AI
ผลการสำรวจจากบริษัททั่วโลกมากกว่า 8,000 แห่ง แสดงให้เห็นว่า AI กำลังปฏิวัติธุรกิจและชีวิตประจำวันอย่างรวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลกระทบต่อทุกแง่มุมของชีวิต ตั้งแต่วิธีที่เราทำงานไปจนถึงวิธีที่เราใช้ชีวิต รายงานดังกล่าวเน้นย้ำถึงความพร้อมของบริษัทต่างๆ ในการปรับใช้และใช้ประโยชน์จาก AI โดยชี้ว่าช่องว่างที่สำคัญ นี้จะก่อให้เกิดความเสี่ยงอย่างร้ายแรงในอนาคตอันใกล้นี้
ผลการศึกษาล่าสุดชี้ว่า ถึงแม้การปรับใช้ AI จะมีความคืบหน้าอย่างช้าๆ มานานหลายทศวรรษ แต่ความก้าวหน้าของเทคโนโลยี Generative AI ประกอบกับการเปิดให้ใช้งานอย่างกว้างขวางสำหรับผู้ใช้ทั่วไปในช่วงปีที่ผ่านมา ส่งผลให้มีความสนใจเพิ่มมากขึ้น รวมถึงความท้าทาย ความเปลี่ยนแปลง และความเป็นไปได้ใหม่ๆ ที่เกิดจากเทคโนโลยีนี้
63% ของผู้ตอบแบบสอบถามเชื่อว่า AI จะมีผลกระทบอย่างมากต่อการดำเนินธุรกิจของพวกเขา และอาจก่อให้เกิดประเด็นใหม่ๆ เกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของข้อมูลและความปลอดภัย รายงานดัชนีดังกล่าวพบว่า บริษัทต่างๆ เผชิญกับความท้าทายมากที่สุดเมื่อใช้ประโยชน์จาก AI ควบคู่ไปกับข้อมูลของพวกเขา